เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 1039
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 1039
หยางเฟิงหลี่ตามองเล็กน้อย แสยะมุมปากอย่างไม่แยแส
เย่หรงเย่หรงผู้นี้แข็งแกร่งจริง ๆ
พละกำลังเข้าถึงดินแดนเปลี่ยนเทพ
กระทั่ง
เป็นไปได้ว่า เป็นผู้แข็งแกร่งระดับกลางของแดนแปรเทพ
และยังฝึกวิชามงกุฎมังกร
ทว่า
ต่อให้เป็นอย่างนี้แล้วยังไง?
หยางเฟิงก็ไม่เห็นอยู่ในสายตาอยู่ดี!
ตึ้ง!
มีเสียงดังขึ้น
กระบี่เศษณ์หลงฉวนถูกดึงออกมาจากเอว
มีลำแสงเย็นวาบส่องเป็นประกาย
ลำแสงกระบี่มรณะที่น่ากลัวยิ่งกว่าสะท้อนออกมา
พอเห็นตรงนี้
สีหน้าของเย่หรงเย่หรงก็เปลี่ยนไป
เขาอยากจะหลบ
แต่เขาก็พบว่าตัวเองไม่มีทางหลบ
เพราะหยางเฟิงออกกระบี่เร็วเหลือเกิน
อีกทั้งกระบี่มรณะนั้น
ราวกับมีดวงตาจ้องเขาเขม็ง
ช่วยไม่ได้
เย่หรงขณะที่เย่หรงร้อนใจ จึงได้แต่ใช้กระบี่ในมือปัดป้อง
คาดไม่ถึง
ฉับ!
มีเสียงดังสนั่น
กระบี่ในมือเย่หรงเย่หรง ถูกตัดเป็นสองท่อน
แสงยานุภาพกระบี่มรณะของหยางเฟิงไม่ลดลง มุ่งไปที่แขนของเย่หรงเย่หรงต่อ
พริบตาเดียว
เลือดก็กระเซ็นออกมา
แขนข้างหนึ่ง กระเด็นไปกลางอากาศ
“มือ!มือของฉัน!”
“มือของฉัน!”
“อ๊าก ๆๆ!”
นาทีนี้เอง
เย่หรงเย่หรงใช้มือกุมแขนที่ขาดของตัวเองเอาไว้ ครวญด้วยสีหน้าเจ็บปวด
เขานึกไม่ถึงว่าพละกำลังของหยางเฟิงจะแข็งแกร่งเช่นนี้
เพียงแค่กระบี่เดียว ก็ตัดแขนของเขาลงได้
หากเย่หรงเย่หรงไมีตอบสนองทันท่วงทีในเวลาสำคัญ
กระบี่นี้
เป็นไปได้ว่า คงจะตัดหัวของเขาไปแล้ว
เย่เฟิงมองดูเขาสักพักก็เอ่ยอย่างเย็นชาว่า: “นายตัดแขนข้างหนึ่งของเฉินตงไป ฉันก็ตัดแขนข้างหนึ่งของนางบ้าง!”
เย่หรงเย่หรงถอยหลังไปสองก้าว มองไปยังสายตาของหยางเฟิงก็เต็มไปด้วยความกลัว
เดิมทีเขานึกว่า มาตงไห่ครั้งนี้ต้องชนะยิ่งใหญ่กลับไปแน่
แต่นึกไม่ถึง
ว่าจะพบความล้มเหลวเช่นนี้!
ก็แม้แต่แขนข้างหนึ่งของตัวเอง ก็ถูกหยางเฟิงตัด
เย่หรงเย่หรงรู้ว่า การลงมือครั้งนี้ของเขาล้มเหลวแล้ว
ถ้ายังไม่หนีอีกละก็ ตัวเองอาจจะพังทลายย่อยยับ!
พอคิดดังนี้
เย่หรงเย่หรงก็ถอยอย่างเงียบ ๆ ขณะเดียวกันก็ร้องตะโกนว่า: “ถอย!ถอยเร็ว!”
พอสิ้นเสียง
เย่หรงเย่หรงก็หันตัวก่อนใครหนีไปอย่างไม่ลังเล
ไม่หนีไม่ได้หรอก!
เจ้าชั่วหยางเฟิง มันไม่ใช่คน
ลูกเขยอะไรกัน?
เขยแต่งเข้าอะไรกัน?
นี่มันเห็นผีชัด ๆ!
ในโลกนี้มีเขยแต่งเข้าบ้านน่ากลัวอย่างนี้ที่ไหน?
นาทีนี้จิตใจของเย่หรงเต็มไปด้วยความเสียใจ
ต้องโทษที่เขาไปเชื่อฟังคำของทูตอันดับหนึ่งแห่งสำนักยมบาล
หาว่าในตัวของหยางเฟิงมีชิ้นส่วนภาพมงกุฎ ทำให้เขาควบคุมความโลภในใจไม่อยู่ในขณะหนึ่ง จึงนำพาชนชั้นนำสำนับหงแปดพันนายมา เพื่อแย่งชิงชิ้นส่วนภาพมงกุฎในตัวของเย่เฟิง
แต่ผลปรากฏ เสียทั้งนายหญิงทั้งลี้พล!
เสียใจ!
เสียใจอย่างสุดซึ้ง!
ช่างน่าเสียใจจริง ๆ เลย!
เสียดายเพียงแค่ ในโลกนี้ไม่มียาแก้เสียใจ!
นาทีนี้เอง
เย่หรงเย่หรงก็แค้นทูตอันดับหนึ่งแห่งสำนักยมบาลจนคันรากฟัน
เขาแน่ใจว่า ทูตอันดับหนึ่งแห่งสำนักยมบาลต้องรู้พละกำลังของหยางเฟิงแน่นอน
เหตุผลที่เขาไม่บอกตนเองนั้น
ก็เพื่อต้องการให้ตนเองปะทะกับหยางเฟิง
ช่างน่าแค้นจริง ๆ!
แต่เย่หรงเย่หรงในเวลานี้ จะสนใจอะไรมากเช่นนั้นไม่ได้แล้ว
ความเร็วในการหนีของเขาเร็วเป็นพิเศษ
เพียงไม่กี่วินาที ก็สาบสูญไปในชายหาด
เขากลัวตัวเองจะช้าไปแล้วจะถูกหยางเฟิงฆ่าเข้า!
“หนีสิ!หนีสิ!”
“ทุกคนหนีเร็วเข้า!”
“ตงไห่แห่งนี้เป็นนรกชัด ๆ ถ้ายังไม่หนี พวกเราจะต้องตายอยู่ที่นี่!”
……
ขณะเดียวกัน
ก็ได้ยินคำสั่งถอยจากเย่หรงเย่หรง