เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 1048
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 1048
ในเวลานี้เอง
ณ บ้านร้างแห่งหนึ่ง
พรวด!
ดาร์กไนท์ที่หนีมายังที่นี่ อดกระอักเลือดออกมาไม่ได้
สีหน้าของเขาเปลี่ยนสีซีดเซียว
“นึกไม่ถึงจริง ๆ พละกำลังของเย่หรงจะแข็งแกร่งเช่นนี้ เหมือนว่าเขาเตรียมป้องกันเราไว้อยู่นานแล้ว!”
ดาร์กไนท์เช็ดปาก แสยะยิ้มขึ้นมา
เขาอยู่ในตระกูลเย่มาหลายปี รู้พละกำลังของเย่หรงเป็นอย่างดี
แต่เขานึกไม่ถึงว่าเย่หรงจะซ่อนกำลังที่แท้จริงกับตนเอาไว้
พละกำลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ น่าจะเป็นวิชาบนชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกร
ถ้าไม่เพราะตัวเองหันไปเข้ากับหยางเฟิง
บางทีวันใดวันหนึ่ง ก็ต้องเป็นสุนัขให้เย่หรงย่างเมื่อกระต่ายม้วย (ถูกกำจัดเมื่อหมดประโยชน์)
ดาร์กไนท์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาหยางเฟิง
“เจ้านาย ภารกิจล้มเหลว!”
“พละกำลังเย่หรงแกร่งเหลือเกิน ผมไม่มีทางฆ่าเขาได้!”
พอหยางเฟิงรู้ว่าภารกิจของดาร์กไนท์ล้มเหลว
ไม่เพียงไม่โมโห แต่กลับหัวเราเบา ๆ ขึ้นมา
“เหอะ ๆ!ไม่เป็นไร ภารกิจล้มเหลวแล้ว นายก็อยู่ที่นั่น อีกไม่กี่วันฉันจะไปด้วยตัวเองสักเที่ยว!”
ติ๊ด!
พูดจบ
หยางเฟิงก็วางสาย
หยางเฟิงรู้แต่แรกว่า ดาร์กไนท์ฆ่าเย่หรงไม่ได้ง่าย ๆ
แต่สำหรับหยางเฟิงแล้ว จะฆ่าเย่หรงได้หรือไม่ก็ไม่เป็นไร
เพราะเขารู้ว่า
การลอบฆ่าครั้งนี้ของดาร์กไนท์ ต้องทำให้คนทั้งสำนักหงอกสั่นขวัญแขวนแน่
ขนาดลูกน้องของตัวเองยังจะฆ่าตัวเอง?
เรื่องนี้จะให้คนอื่น ๆ ในสำนักหงคิดยังไง?
พวกเขาต้องคิดว่า เย่หรงไม่มีปัญญากุมอำนาจนี้แล้ว!
ต่อไป
ถ้าไม่เกินจากที่หยางเฟิงคาดการณ์เอาไว้
สำนักหงต้องเกิดความวุ่นวายภายในแน่!
ขณะเดียวกัน
แค่ก ๆๆ!
ดาร์กไนท์ที่วางสายลง
ก็ไอออกมา มีเลือดไหลจากมุมปาก
วิชามงกุฎมังกร ช่างรุนแรงจริง ๆ!
ถ้าตัวเองถอยไม่ทันการ เกรงว่าไม่ตายก็ต้องพิการ
“มิน่าผู้คนจำนวนมากถึงได้ตามหาชิ้นส่วนภาพมงกุฎมังกร วิชานี้ช่างน่ากลัวจริง ๆ!”
ดาร์กไนท์รู้ว่า หยางเฟิงก็ฝึกวิชามงกุฎมังกรเช่นกัน
กระทั่ง วรยุทธของหยางเฟิงรุนแรงกว่าเย่หรงอีก
ในใจของดาร์กไนท์มีความดีใจ โชคดีที่ตัวเองหันไปเข้ากับเย่เฟิงทันการณ์
ไม่อย่างนั้น จากความเจ้าอุบายและพละกำลังของหยางเฟิง ไม่รู้ว่าตัวเองจะตายยังไง?
หลังจากหันไปเข้ากับหยางเฟิง
พอรู้เรื่องหลายอย่างของหยางเฟิงมากขึ้น เขาก็ยิ่งเคารพในตัวหยางเฟิง
ดาร์กไนท์หลับตาลงคิดจะพักผ่อนดี ๆ เสียหน่อย
แต่ในหัวสมองก็มีแต่เงาหยางเฟิงที่ไร้เทียมทาน!
……
ขณะเดียวกัน
ตงไห่
“รายงานท่านแม่ทัพ เจอเหล่าเฉ่ากุ่ยเหมินแล้ว!”
เสือขาวกลับมาแล้ว
เขายืนอยู่ตรงหน้าหยางเฟิง ด้วยท่าทางเคารพ
ก่อนหน้า หยางเฟิงส่งเสือขาวกับผู้คุมกฎเก้าติดตามทั้งเก้าตามหาเหล่าเฉ่ากุ่ยเหมิน
จากความพยายามมาระยะหนึ่ง ในที่สุดเสือขาวก็เจอเหล่าเฉ่าแห่งกุ่ยเหมิน
หยางเฟิงปัดมือ: “เรื่องกุ่ยเหมินยังไม่ต้องรีบ!”
พอพูดจบ หน้าเขาก็โมโหขึ้นมาเอ่ยว่า: “สำนักหงไม่เห็นพวกเราตงไห่อยู่ในสายตา ส่งคนมาก่อกวนครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่สั่งสอนพวกมันบ้าง เดี๋ยวจะคิดว่าพวกเรารังแกได้ง่าย ๆ!”
เฉินตงกับพวกฟังแล้วก็อ้าปากตาค้าง
พวกเขามองไปยังหยางเฟิง ไร้ซึ่งคำใด ๆ
ต่างรู้ว่าสำนักหงในเวลานี้ แม้จะส่งคนมาไม่ขาดสาย แต่ส่วนใหญ่มาได้แต่กลับไปไม่ได้!
พูดแบบฟังไม่เข้าหูคือ คนของสำนักหงยังไม่ทันเข้าไปตงไห่ก็ถูกกวาดล้างเสียแล้ว
สมควรให้หยางเฟิงต้องโมโหเช่นนี้ด้วยหรือ?
สรุปใครรังแกใครกันแน่!
เหยียนเฟิงเอ่ยด้วยใบหน้าเกรงขามว่า: “ฉันเคยบอกไว้แต่แรก ตงไห่เป็นบ้านของฉัน ฉันจะไม่ให้ใครหน้าไหนมาก่อเรื่อง แต่สำนักหงมาก่อกวนครั้งแล้วครั้งเล่า!”
“ถ้าฉันไม่ตอบโต้บ้าง คนอื่นจะคิดว่าตงไห่เรามีแต่ชื่อไม่แน่จริง ใคร ๆ ก็เข้ามาวางตัวสามหาวได้!”