เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 1057
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 1057
เสือขาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดขึ้นว่า:”ประมาณห้าสิบล้านดอลลาร์!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้
หยางเฟิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและพูดว่า “แค่ห้าสิบล้านดอลลาร์ มันยังน้อยไป แม้กระทั่งเงินร้อยล้านเดียวยังเสียไปไม่หมดเลย!ไปเล่นอีกที!”
เมื่อได้เสียงคำพูดของหยางเฟิง
ถึงแม้ว่าจะมีรอยยิ้มเผยอยู่บนใบหน้าของเจ้ามือ แต่ว่าภายในใจกลับเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
โง่เขลาจริงๆ ไม่รู้อะไรสักอย่าง แต่ก็กล้ามาเล่นการพนันอย่างนั้นหรือ?
แต่ก็ดีเหมือนกัน
ถ้าได้เปิดออเดอร์ไป ค่าคอมมิชชั่นของตัวเองต้องได้ไม่น้อยแน่นอน
เมื่อนึกถึงตรงนี้
ภายในใจของเจ้ามือก็ชอบอกชอบใจขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
ในเวลาเดียวกัน
ส่วนบริเวณชั้นสองของบ่อนกาสิโน มีชายสวมชุดสูทยืนอยู่
ชายสวมชุดสูทไม่ใช่ใครคนอื่น แต่คือหลงเปียวเจ้าแก๊งมังกรทองแห่งสำนักหงนั่นเอง!
หลงเปียวยิ้มด้วยความเย็นชาออกมาเสียงหนึ่ง และพูดกับคนรอบข้างว่า:”กว่าจะมีถังข้าวสารตกลงมามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จงเชือดเงินให้หมด!ฉันจะให้มันแพ้จนหมดเนื้อประดา และออกจากบ่อนกาสิโนตัวเปล่า!”
“ครับ!”
เมื่อได้ฟังคำพูดของหลงเปียวแล้ว ลูกน้องก็รีบลงไปจัดการทันที
หลงเปียวมองไปที่หยางเฟิง ผู้หยิ่งผยองด้านล่างและหัวเราะเบา ๆ ด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
ในฐานะเจ้าแก๊งมังกร ความแข็งแกร่งของเขาถือแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสิบแก๊งใหญ่ของสำนักหง
ตอนนี้ตำแหน่งเจ้าสำนักหงว่างอยู่
เย่หรงจำศิลอยู่ที่บ้าน โดยชื่อเสียงในสำนักหงได้สูญสิ้นไปหมด
เขาเป็นผู้มีแนวโน้มสูงที่สุด ที่จะได้กลายเป็นเจ้าสำนักหงคนต่อไป
ดังนั้นเขาแทบอยากจะให้มีไอ้หน้าโง่อย่างหยางเฟิงมาหลายๆ คนยิ่งดี
เมื่อถึงเวลานั้น เขาก็มีทุนมากขึ้น ที่จะแย่งชิงตำแหน่งเจ้าเจ้าสำนักแห่งสำนักหง!
อย่างน้อย
บนโลกนี้ มีแต่อำนาจอย่างเดียวไม่ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือมีเงิน!
เงินยิ่งเยอะ อำนาจของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่ง!
พอดูไปได้เพียงครู่เดียว หลงเปียวก็ไม่ได้สนใจอีกต่อไป
เมื่อไม่กี่วันก่อน มีมหาเศรษฐีจากต้าเซี่ยมาที่บ่อนกาสิโน ครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของเหมืองและก็รวยมาก
แต่ผลสุดท้ายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งวัน มหาเศรษฐีคนนี้ก็สูญเสียเงินไปเป็นร้อยล้านดอลลาร์แล้ว
ถึงขั้นเสียทรัพย์สินของครอบครัวไปจนหมด และทั้งคนสติเลอะเลือนไปในตอนนั้นทันที
คนรวยบ้านนอกที่ไม่เคยคิดว่าเงินคือเงิน คนแบบนี้เล่ะ ที่หลงเปียวชอบมากที่สุด
คนแบบนี้เมื่อมาที่คกาสิโน สิ้งที่เล่นก็คือการเต้นของหัวใจและความเป็นหน้าเป็นตา
คนที่ยิ่งรวย ก็ยิ่งให้ความสำคัญกับความเป็นหน้าเป็นตาของตนเท่านั้น
ต่อให้แพแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดาย
ดังนั้นเขาจึงจัดคนหลายคนให้มุงดูอยู่ในฝูงชน เพื่อรับผิดชอบในการปลุกระดม
คาสิโนเบื่อที่จะเล่นเคล็ดลับนี้มานานแล้ว
“ถ้ามีคนโง่เขลาแบบนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน งั้นบ่อนกาสิโนของฉันต้องร่ำรวยขึ้นแน่!”
หลงเปียวยิ้มเบาๆ อย่างภาคภูมิใจ
จากนั้นก็หันหลังกลับไปยังสำนักงานของตัวเอง
จากที่เขาดูแล้ว คนอย่างหยางเฟิงจะต้องแพ้อย่างแน่นอน!”
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
หยางเฟิงเสียเงินไปแล้วเกือบร้อยกว่าล้านดอลลาร์สหรัฐ
นี่มันช่างน่าตื่นเต้นเสียจริง
คนรอบข้างก็อดไม่ได้ที่พูดซุบซิบนินทาจนปากคอแห้ง
พวกเขาเคยเห็นคนที่มีเงิน แต่ไม่เคยคนที่ไม่มองเงินเป็นเงินแบบนี้มาก่อน
ที่จริงแล้วมีคนมากมายมองออกว่า
ชัดเจนว่าบ่อนกาสิโนกำลังเชือดกฃหยางเฟิงอยู่
ดังคำกล่าวที่ว่า เล่นการพนันสิบครั้งโนหลอกเก้าครั้ง
อยากที่จะร่ำรวยเงินทองจากกาสิโนนั้นเป็นไปไม่ได้
ทุกคนที่เข้ามาเล่นการพนันนั้นล้วนคือพนันสิบครั้งแพ้เก้าครั้งทั้งนั้น
บางคน ถึงขั้นแพ้จนหมดเนื้อประดาตัว และครอบครัวแตกหัก!
ถึงแม้ว่าจะมีคนมากมายดูออก
แต่ก็ไม่มีสักคนที่ตักเตือนหยางเฟิง
เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่ใช่ญาติพี่ทองของหยางเฟิง จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเสี่ยงอันตรายทำให้บ่อนคาซิไม่เกิดความพอใจ
ต้องรู้ว่า บ่อนกาสิโนแห่งนี้ เป็นของสำนักหง
สำนักหงเป็นกองกำลังใหญ่อันดับต้นๆ บนเกาะดาว
กล้าทำผิดต่อสำนักหง ทั่วไปแล้วก็คือหนทางแห่งความตาย
ยังมีอีกหลายคนที่มีจิตใจที่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
ทุกคนต่างอยากดูว่า เมื่อหยางเฟิงแพ้นจนหมดเนื้อหมดตัวแลัว จะเป็นอย่างไรกัน?