เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 1061
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 1061
ให้ตายสิ มีคนต้องการเดิมพันกับฉันตอนนี้เหรอ
ท่าทางจะเป็นแค่ความใจร้อนของคนหลงตัวเองเสียมากกว่า
หยางเฟิงเหลือบมองหลงเปียวแล้วพูดเบาๆ ว่า “คุณเป็นเจ้ามือของกาสิโนไม่ใช่เหรอ ผมไม่คิดว่าคุณมีฝีมืออะไรมากนักหรอก ถ้าเป็นกาสิโนของผมแล้วมีเจ้ามืออย่างคุณล่ะก็ ป่านนี้กาสิโนผมเจ๊งไปแล้ว”
แต่ถึงหยางเฟิงจะพูดเบาๆ แต่ทุกคนได้ยินชัดเจนกันหมด
หลงเปียวมีสีหน้าถมึงทึงทันที เขาโกรธจัดมาก
บัดซบ! โอหังเกินไปแล้ว! นี่มันยโสโอหัง หยามหน้ากันเกินไปแล้ว! หยางเฟิงคนนี้ไม่เห็นหัวคนอย่างเขาบ้างเลยหรือไง
“ฮึ่ม!”
หลงเปียวส่งเสียงสบถอย่างเย็นชา คนอย่างเขาไม่มีทางยอมลงให้คนอย่างหยางเฟิงแน่ “ไอ้หนู อย่าปากดีนัก ระวังปากบ้าง ปลาหมอตายเพราะปากนะ!”
อุ๊บ!
หยางเฟิงไม่ได้ตอบสนองอะไรไร้สาระแบบนั้น แต่เขาผลักชิปกองโตตรงหน้าไปไว้ตรงกลางโต๊ะ แล้วพูดอย่างอวดดีว่า “ผมมีเงินเดิมพันเป็นพันล้านตรงนี้ คุณกล้าเดิมพันกับผมไหม คุณมีดีพอจะรับเดิมพันของผมหรือเปล่า”
“ถ้าไม่กล้าพอ หรือไม่เก่งพอ ก็ถอยไป อย่าทำให้ผมเสียเวลาเปล่าเลย”
ในจังหวะนี้เองที่หยางเฟิงแสดงท่าทางอวดดียิ่งกว่าเดิมใส่อีกฝ่าย เขารู้ดีว่าถ้าทำแบบนี้ หลงเปียวต้องตกลงเดิมพันกับเขาแน่นอน
อย่าว่าแต่หลงเปียวเลย คนมุงรอบข้างหลายคนก็เริ่มรู้สึกคันไม้คันมืออยากมีส่วนร่วมแจกมือเท้าใส่หยางเฟิง ต้องบอกว่าท่าทางอวดดีของหยางเฟิงนั้นสมจริงมากและน่าหมั่นไส้มากจนหลายคนอยากลงมือเข้าจริงๆ
ในขณะเดียวกันนั้นเอง หลงเปียวรู้ดีว่าหยางเฟิงกำลังแสดงจุดอ่อนตัวเองออกมา จากประสบการณ์ของเขาแล้ว ยิ่งหยางเฟิงแสดงท่าทางอวดดีแบบนี้มากเท่าไหร่ เขายิ่งเอาชนะหยางเฟิงได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
เขาไม่มีทางให้หยางเฟิงเอาชิปมูลค่าหลายพันล้านไปแลกเงินแล้วเดินออกจากกาสิโนแห่งนี้ได้แน่นอน
ไม่มีทาง!
เมื่อคิดได้เช่านนั้นแล้ว หลงเปียวก็แค่นหัวเราะด้วยความโกรธจัดออกมา “ดี! ดีมาก! ไอ้หนุ่ม ท่าทางฉันจะประเมินแกต่ำเกินไป ในเมื่อแกกล้าเดิมพันกับฉัน ฉันคนนี้ก็จะรับเดิมพันของแกเอง!”
“เร็วเข้า เด็กๆ เอาชิปมูลค่าหนึ่งพันล้านมาให้ฉัน”
ไม่กี่อึดใจต่อมา พนักงานกาสิโนคนหนึ่งก็นำชิปมูลค่าหนึ่งพันล้านมาให้หลงเปียว หลงเปียวรับชิปมาแล้ววางไว้บนโต๊ะตรงหน้า มองหยางเฟิงด้วยท่าทีเหนือกว่า แล้วถามไปว่า
“แล้วจะเดิมพันกันยังไง”
“ง่ายมาก มาเล่นทอยเต๋ากัน ใครแต้มมากกว่าคนนั้นชนะ
หยางเฟิงตอบด้วยสีหน้าเฉยเมย ท่าทางไม่ใส่ใจกับเงินเดิมพันจำนวนมหาศาลตรงหน้าทำให้หลายคนได้แต่อ้าปากค้าง นี่เป็นครั้งแรกที่คนมุงจำนวนมากได้เห็นคนวางเดิมพันหลักพันล้านด้วยท่าทางแบบนี้
หลงเปียวยิ้มเยาะกับคำพูดของหยางเฟิง เขามั่นใจว่าเขาไม่มีทางแพ้หยางเฟิงในเกมนี้แน่นอน
“ได้ ถ้าอยากเสียเงินนัก ฉันจะจัดให้ แล้วอย่ามาคร่ำครวญล่ะ”
ท่าทางข่มขู่ของหลงเปียวไม่ทำให้หยางเฟิงสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย เขาไม่ใส่ใจคำพูดของหลงเปียวอยู่แล้ว เขาไม่เคยเห็นหลงเปียวอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ
เกมเริ่มต้นขึ้นในเวลานาน
พนักงานจัดเตรียมสถานที่ อุปกรณ์ และความพร้อมในการเล่นเกมเดิมพันมูลค่าพันล้าน พนักงานหญิงนำลูกเต๋าที่เพิ่งแกะกล่องใหม่มาวางไว้ตรงกลาง พร้อมอุปกรณ์การเล่นอื่นๆ หลงเปียวยื่นมือไปคว้ามาถือไว้แล้วโยนเดาะในมืออย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะโยนลูกเต๋าลงบนโต๊ะ จากนั้นหยิบถ้วยหนาทึบมาถือไว้ในมือข้างละใบ นำถ้วยในมือขวาไปคว่ำทับลูกเต๋าไว้ จากนั้นก็เขย่าลูกเต๋าสลับถ้วยอย่างชำนาญ เขาเขย่าเต๋าและสลับถ้วยคว่ำไปมาในถ้วยทั้งสองราวกับเจ้ามือเกมทอยเต๋าระดับเซียนของกาสิโนชื่อดังกำลังอวดฝีมือขั้นสุดยอดต่อหน้าผู้ชมหลายร้อยคน
แกร๊ก!
ตึง!
“เล็กหรือใหญ่” หลงเปียวเงยหน้าขึ้นถามหยางเฟิง เขาคำนวณแล้วว่าจะให้เกมนี้ออกแต้มไหน
หยางเฟิงนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดราวกับเป็นเรื่องของเงินไม่กี่เหรียญว่า “ผมชอบทายว่าใหญ่ แต่คราวนี้เปลี่ยนใจ ขอแทงว่าเล็ก”
พอกล่าวจบ หยางเฟิงก็ดันกองชิปจำนวนพันล้านเหรียญไปไว้ที่ “เล็ก”
ว่าแล้วเชียว หลงเปียวแสยะยิ้มมุมปาก ไม่ว่ายังไง หลงเปียวต้องชนะ! หยางเฟิงต้องแพ้!
หลงเปียวครุ่นคิดและคำนวณแผนการของตนไว้ในใจแล้ว คราวนี้ ไม่ใช่แค่เงินตรงหน้า แต่เขาจะทำให้หยางเฟิงสูญเสียทุกอย่าง รวมถึงครอบครัวและชีวิตของตัวเองด้วย
ในเมื่อหยางเฟิงกล้ามาหยามเขาถึงที่นี่ ก็ต้องกล้าทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
หลงเปียวหัวเราะเสียงดังลั่น แล้วพูดออกมาว่า “ทายว่าเล็กงั้นเหรอ ไอ้หนุ่ม อย่าเสียใจเสียล่ะ คิดจริงๆ เหรอว่าแกจะมีโชคดีมากขนาดนั้น ขอบอกเลยว่า ฉันคนนี้ใช้ชีวิตในกาสิโนมาหลายสิบปี ไม่เคยแพ้เลยสักครั้ง!”
ในสายตาของหลงเปียว หยางเฟิงพ่ายแพ้ไปเรียบร้อยแล้ว ต่อให้เทพเซียนอมตะเหาะเหินเดินอากาศลงจากสวรรค์มาช่วยก็ไม่มีทางช่วยหยางเฟิงได้
หยางเฟิงพูดขัดขึ้นด้วยความรีบร้อนว่า “อย่ามาไร้สาระน่า รีบเปิดถ้วยเร็วเข้า แล้วอย่าลืมช่วยทำท่าทางเหมือนคุณกำลังจะชนะผมด้วยล่ะ”
หลงเปียวอดหัวเราะไม่ได้ แต่เขาก็หัวเราะไม่ได้เหมือนกัน เพราะเขาอยากเห็นสีหน้าท่าทางของหยางเฟิงในยามที่สิ้นหวังหมดสภาพทั้งทางกายและทางใจ เขาอยากเห็นสีหน้าท่าทางของหยางเฟิงยามที่ร่วงหล่นจากสวรรค์ชั้นเจ็ดลงไปทิอยู่ที่