เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 1105
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 1105
พฤติกรรมเช่นนี้เป็นพฤติกรรมของโจรนอกกฎหมายชัดๆ น่าขยะแขยงสิ้นดี!
ก่อนที่เย่เมิ่งหยานจะพูดอะไรออกไป หยางเฟิงก็เดินเข้ามาหาและยืนขวางหน้าหลี่เหิงในทันที
“ไอ้โง่”
หยางเฟิงเหลือบมองไปที่หลี่เหิงและพูดอย่างไม่พอใจมาก เขาไม่ต้องการจะเก็บความสุภาพไว้ให้คนผู้นี้อีกแล้ว
“จิตใจของแกเต็มไปด้วยเรื่องไร้สาระพวกนี้งั้นเหรอ ถ้างั้นก็ไสหัวไปซะ!”
“แกว่าอะไรนะ”
หลี่เหิงจ้องมองหยางเฟิงด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว ไม่มีใครในสิงเตากล้าพูดแบบนี้กับคนอย่างเขา เขาไม่เคยคิดเลยว่าหยางเฟิงจะกล้าพูดถึงตัวเองแบบนี้
ฉันเป็นน้องคนสุดท้องของตระกูลหลี่ เป็นคุณชายน้อยของตระกูล กล้าดียังไงมาหยามและพูดจากับเขาแบบนี้
หยางเฟิงเหลือบมองอีกฝ่ายที่มีสีหน้าบิดเบี้ยว แววตาแค้นเคือง และพยายามควบคุมสติตัวเองอย่างเต็มที่ แน่นอนว่าหยางเฟิงพยายามควบคุมสติตัวเองมากแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาได้สลัดภาพคุณชายชุดขาว จากนั้นก็ซัดคนที่มาเกาะแกะหาเรื่องภรรยาของเขาออกไปตั้งแต่แรกแล้ว
“ฉันบอกว่าแกเป็นคนงี่เง่า!”
“เดิมที ฉันเห็นแก่หน้าเฉินตงที่วิ่งเต้นเตรียมการในวันนี้ เชิญแขกเหรื่อทั้งหลายมาจากทั่งสิงเตา ฉันไม่อยากเถียงกับแก! ตอนแรก นึกว่าเป็นคนพอมีสมองบ้าง แต่พอเจอกันในวันนี้ ฉันคิดว่าแกเป็นคนงี่เง่า!”
คําพูดและท่าทางของหยางเฟิงไม่สุภาพต่อหลี่เหิงในตอนนี้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองไปที่หลี่เหิงด้วยรูปลักษณ์ของการมองดูและการดูแลเด็กพิการทางจิตใจ
เฮือก!
คนจำนวนมากที่รายล้อมอยู่ถึงกับสูดลมหายใจเข้าปอดด้วยความตระหนก พวกเขาไม่รู้ว่าหยางเฟิงเป็นใคร ผ่านอะไรมา พวกเขารู้แค่ว่าหยางเฟิงเป็นคนที่เย่เมิงหยานควงเข้างานเท่านั้น พวกเขาอดวิตกแทนคนทั้งคู่ไม่ได้
ความโกรธแผ่ซ่านออกมาจากหัวใจของหลี่เหิง ไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับเขามาก่อน กล้าดีเกินไปแล้ว!
“แกเรียกใครเป็นคนงี่เง่า”
“ไอ้หนุ่ม แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”
“ฉันเป็นทายาทคนสุดท้องของตระกูลหลี่ผู้มีเกียรติในสิงเตา ไม่มีใครกล้าพูดแบบนี้กับฉันหรอก”
ในเวลานี้ หลี่เหิงโกรธจัด เขามองหยางเฟิงราวกับต้องการกัดกินลงไปทั้งตัวในคำดียว เขาโกรธมากที่คนนอกสิงเตากับทำแบบนี้กับเขาในสิงเตาต่อหน้าคนจำนวนมากที่มีชื่อเสียงพอประมาณในสิงเตา
ต่อหน้าไปหลี่เหิงที่มีท่าทางและแววตาอาฆาตแค้น หยางเฟิงยังคงพูดต่อไปอย่างไม่สะท้านและเต็มไปด้วยความรังเกียจที่มีคนที่กล้ามาเกาะแกะภรรยาสุดที่รักของเขา
“ไร้สาระน่า คุณชายน้อยของตระกูลหลี่ ฟังดูยิ่งใหญ่ดีนะ แต่มันคือตัวอะไรเหรอ ในสายตาของฉัน แกมันแค่คนงี่เง่า! แกเป็นได้แค่คนงี่เง่าที่น่าสมเพชและสิ้นหวัง!”
“แก!”
สีหน้าของหลี่เหิงในตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธ โทสะ และความไม่พอใจทั้งหมดที่สะสมไว้มืดมนมาก หลี่เหิงพยายามควบคุมสติอารมณ์ของตัวเอง คืนนี้ เขายังมีสิ่งที่ต้องทำ
หลี่เหิงอาศัยการควบคุมสติและการบ่มเพาะที่สั่งสมมาในการดึงสติกลับมาจากความโกรธ เมื่อตั้งสติได้แล้ว หลี่เหิงจึงยิ้มไปที่มุมปาก แล้วถามเย่เมิ่งหยานต่อ
“ผู้ชายคนนี้หมายความตามที่เขาพูด หรือเฟิ่งเมิ่งคุณหมายความตามที่เขาพูดด้วย”
เย่เมิ่งหยานเหลือบมองหยางเฟิงและพูดโดยไม่ลังเลว่า “ความหมายของคำพูดของสามีของฉันคือความหมายที่ฉันต้องการจะบอก และเป็นความหมายตามท่าทีของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปด้วย!”
“ดี ดีมาก”
เมื่อได้ยินคําพูดของเย่เมิ่งหยาน หลี่เหิงก็โกรธมาก
“แกไม่รู้จริงๆ ว่าอะไรดีหรือไม่ดี!”
“ฉันบอกแกแล้วว่าสิงเตาเป็นถิ่นของตระกูหลี่ ถ้าแกทําธุรกิจในสิงเตาโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหลี่ของเรา แกจะไม่มีวันทำธุรกิจนั้นต่อได้!”
“ฉันจะให้โอกาสแก อีกครั้ง ตอนนี้คุกเข่าลงและขอโทษฉันซะ บางทีฉันอาจจะให้อภัยพฤติกรรมโง่บัดซบของแกได้…”
เพี๊ยะ!
ก่อนที่หลี่เหิงจะพูดจบ ฝ่ามือหนึ่งก็ตวัดเข้าที่หน้าทันที
“เห็นแกหน้าแกเหรอ ได้สิ”
“แกยังต้องการให้เราคุกเข่าลงและขอโทษแก ฉันสงสัยว่าแกคงมีแต่ขี้เลื่อยเต็มหัวแน่ ถึงคิดอะไรได้แค่นี้ ยิ่งคุยกับแกยิ่งขยะแขยง เหมือนคุยกับถังขี้เลย!”
หลี่เหิงเอามือปิดหน้าข้างที่ถูกตบ ดวงตาของเขามองไปที่หยางเฟิงด้วยความไม่อยากเชื่อ เขาไม่เคยโดนใครตบหน้ามาก่อนเลยตั้งแต่จำความได้ นี่มันยิ่งกว่าหยามอัปยศแล้ว
“แกกล้าตียังไงมาตบหน้าฉัน!”
ใบหน้าของหลี่เหิงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ตลอดชีวิตของเขาที่ผ่านมา ไม่มีใครกล้าขัดใจเขา ไม่มีใครกล้าท้าทายเขา ไม่มีใครกล้าต่อว่าด่าทอเขา และไม่เคยมีใครตบหน้าเขาต่อหน้าธารกำนัลแบบนี้
แต่หยางเฟิงคนนี้เข้ามาตบหน้าเขาต่อหน้าคนจํานวนมาก!
ถ้าไม่ล้างแค้น ไม่มีการแก้แค้น เขา หลี่เหิง ขอสาบานว่าจะไม่ขอเป็นคนอีกต่อไป!
หลี่เหิงคํารามอย่างโกรธจัดใส่ผู้ติดตาม “พวกแกยังยืนงงทำซากอะไร ฆ่ามันซะ!”
เดิมทีนั้น โรงแรมเอ็มเพอเรอร์เป็นสินทรัพย์ของตระกูลหลี่ ดังนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโรงแรมทั้งหมดจึงมาจากตระกูลหลี่ของพวกเขา ในเมื่อคุณชายของตระกูลหลี่ถูกเล่นงานแบบนี้ พวกเขาก็ต้องลงมือ!
เมื่อได้ยินคําพูดของหลี่เหิง ผู้ติดตามคนหนึ่งก็รีบส่งสัญญาณให้ฝ่ายความปลอดภัยของโรงแรม ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมหลายสิบคนก็รีบกรูกันเข้ามาล้อมรอบหยางเฟิง
นักธุรกิจรอบตัวเห็นสิ่งนี้และตกใจมาก พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีใครกล้าเอาชนะหลี่เหิงในถิ่นของตระกูลหลี่ พวกเขารีบถอยออกไปให้ห่างด้วยความเกรงกลัวลูกหลง
คนจากเฟิงเมิ่งกรุ๊ปเป็นฝ่ายลงมือ!
เฟิงเมิ่งกรุ๊ปไม่รู้จักตัวตนของหลี่เหิงเหรอ หรือว่าพวกเขารู้จัก แต่ก็ยังไม่หวาดหวั่นและพร้อมลงมือเสมอ ถ้าอย่างนั้น พวกเขาก็บ้าไปแล้วชัดๆ บ้าเกินไปแล้ว!
นี่คือหลี่เหิง! นี่คือนายน้อยของตระกูลหลี่! นี่คือทายาทของหัวหน้าในอนาคตของตระกูลหลี่!
หยางเฟิงตบเขาต่อหน้าผู้คนจำนวนมากขนาดนี้ ตบเขากลางโรงแรมของตระกูลหลี่แบบนี้ นี่ไม่ใช่แค่การทะเลาะกันทั่วไป ไม่ใช่แค่ความไม่พอใจกัน แต่เป็นการหยามอัปยศกัน และเป็นการหยามอัปยศทั้งตระกูล
ในอนาคตจากนี้ไป เฟิงเมิ่งกรุ๊ปไม่ต้องแม้แต่จะคิดเรื่องการทําธุรกิจในสิงเตาเด็ดขาด!