เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 1108
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 1108
เมื่อมองเห็นเฉิงตงที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงนั้น
หยางเฟิงนั้นสะบัดมือไปมาก่อนที่จะเอ่ย “ช่างมันเถอะ!เดิมทีนั้นก็เป็นเพราะคุณนั้นหวังดี อีกทั้งเรื่องนี้ผมนั้นก็ไม่โทษคุณหรอกน่า!”
แน่นอน เฉินตงนั้นก็อยากที่จะได้รับความช่วยเหลือจากบริษัท เฟิงเมิ่ง กรุ๊ป ถึงได้ติดต่อไปหาหลี่เหิง
หยางเฟิงก็เพราะเหตุนี้ เขาถึงไม่ได้โทษโกรธเฉิงตง
ไม่อย่างงั้นล่ะก็ หากเขานั้นเอ่ยแค่คำเดียว เฉิงตงนั้นก็จะเชื่อฟังแล้วเดินออกจากตำแหน่งเจ้าพรรคสำนักห้องและเดินจากไปส่ะ !
ที่สำคัญเลยก็คือ บริษัท เฟิงเมิ่ง กรุ๊ปนั้นอยากที่จะเติบโตต่อไปบนเกาะดาว และในอนาคตนั้นคงจะหนีไม่พ้นจากการช่วยเหลือจากสำนักหง
เฉินตงนั้นได้นั่งอยู่ในตำแหน่งเจ้าพรรคแห่งสำนักหง เพียงแค่เขานั้นยอมเชื่อฟัง หยางเฟิงนั้นก็จะไม่ทำอะไรกับเขา
เมื่อได้ยินดังนั้น หยางเฟิงนั้นได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
สีหน้าเขานั้นเอ่ยอย่างตื่นเต้นออกมา “ขอบคุณคุณหยางมากๆครับ!ขอบคุณจริงๆ!”
“แต่ว่า……”
หยางเฟิงขมวดคิ้วแล้วเอ่ย“หลังจากนี้คนเช่นหลี่เหิงนั้น ก็อย่าไปติดต่ออะไรมากล่ะ ตระกูลหลี่นั้นมีแค่ไอเจ้าบ้านั่นคนเดียวก็เฮงซวยมามากพอแล้ว!”
เจ้าหลี่เหิงคนนี้นั้น กลับคิดอยากที่จะให้ภรรยาของตนเองนั้นคุกเข่าลงและขอโทษเขาส่ะ ?
นี่มันนับว่าเป็นเรื่องงี่เง่าหรือเปล่า?
“ใช่ใช่ใช่!คุณหยาง ผมรู้แล้วว่าควรจะทำเช่นไรดี”
เฉินตงนั้นรีบหยักหัวอย่างเร่งรีบ
ภายในใจของเขานั้นอดไม่ได้ที่จะเสียใจและโศกเศร้ากับตระกูลหลี่
หลี่เหิงนั้นทำให้หยางเฟิงไม่พอใจ แน่นอนว่าจะต้องไม่ได้มีวันดีๆอยู่อีกต่อไปอย่างแน่
ถึงแม้หลี่เหิงนั้นจะทรยศกับตระกูลหลี่ไปแล้ว เกรงว่าก็ยากที่จะหลบหนี !
เมื่อเดินออกมาจากโรงแรม
เฉินตงก็พบว่า ด้านหลังของตนเองนั้นเปียกไปด้วยเหงื่อชุ่ม
เขานั้นหันหน้าไปหา หลงเปียวที่เป็นถึงนายของพรรคมังกรทอง ก่อนที่จะเอ่ยด้วยสีหน้าที่จริงจัง “หลงเปียว เจ้านั้นจัดหาคนเพื่อไปสืบเรื่องของตระกูลหลี่และคอยติดตามการเคลื่อนไหวมาที!โดยเฉพาะกิจการอุตสาหกรรมต่างๆของตระกูลหลี่ จะต้องเตรียมพร้อมที่จะรับช่วงต่อตลอดเวลานะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น
หลงเปียวทันใดเขานั้นก็ได้ตกตะลึง
เขานั้นลังเลก่อนที่จะเอ่ยออกมา“ท่านหัวหน้าสำนัก พวกเราทำไมจะต้องไปคอยจับตามองตระกูลหลี่ด้วย?”
เฉินตงเอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์“หากตระกูลหลี่นั้นล่มสบายลงมา พวกเราสำนักหงนั้นไม่ควรที่จะเตรียมพร้อมเพื่อรับช่วงต่อเรื่องธุรกิจหรอกหรา?”
เมื่อได้ยินดังนี้
ร่างกายของหลงเปียวนั้นก็ได้สั่นขึ้นมา
ตระกูลหลี่จะล่มสลายแล้วหรอ?
ต้องทราบว่า ตระกูลหลี่นั้นเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเกาะดาวเลยนะ!
จะมาขาดทุนได้ยังไง ?
หรือว่าเป็นเพราะเจ้าหยางเฟิง?
เมื่อคิดถึงได้ดังนี้
หลงเปียวนั้นได้เผยสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา
แต่ว่า เขานั้นก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยถามต่อไป เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เฉินตงนั้นโกรธ
หลงเปียวนั้นรีบเอ่ยขึ้นมาอย่างร้อนรน“ ใช่แล้ว ท่านเจ้าสำนัก ผมนั้นจะรีบไปจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย!”
หลังจากนั้น หลงเปียวนั้นก็ได้หันหลังเดินจากไป
มองไปที่แผ่นหลังของหลงเปียวที่จากไป เฉินตงนั้นก็ได้ถอนหายใจออกมา
“ตระกูลหลี่นั้นไอทำให้หยางเฟิงไม่พอใจ จะไปไม่ขาดทุนได้ยังไงกัน?”
“บนโลกใบนี้ใครที่กล้าไปทำให้หยางเฟิงโกรธ โดยเฉพาะทำให้เย่เมิ่งเหยียนโกรธ ต่างก็ไม่ได้มีจุดจบที่ดีอย่างแน่นอน!”
“ถึงแม้ว่าตระกูลหลี่นั้นจะเป็นตระกูลอันดับหนึ่งแล้วมันจะยังไงกัน?ต่อหน้าของหยางเฟิงนั้น ก็แค่มดตัวเล็กๆตัวหนึ่งเท่านั้นแหละ!”
หลังจากที่ผ่านมาแล้วหลายเรื่อง เฉินตงนั้นก็มองออก
เมื่อก่อน แก๊งฟ้าดินของพรรคเขียว……พวกนี้นั้นได้รับพลังอำนาจจากที่ทำให้หยางเฟิงไม่พอใจ ตอนนี้คนไหนล่ะที่ยังไม่โดนกำจัดทิ้งออกไปสะ?
หากว่าตนเองนั้นไม่รีบมายืนอยู่ทางด้านของหยางเฟิงนั้น
เกรงว่าตอนนี้สำนักหงนั้นก็จะโดนกำจัดทิ้งไปเหมือนกัน!
ตระกูลหลี่แล้วจะยังไงกัน?
ณ เกาะดาว มีแต่เขาเท่านั้นที่จะมามีอำนาจออกคำสั่ง
แต่ว่าหากเมื่อไหร่ที่ไปทำให้คนที่ไม่ควรทำให้โกรธนั้นโกรธล่ะก็ งั้นก็รอวันที่พวกเขานั้นจะถูกกำจัดออกไปส่ะ!
ที่ยิ่งกว่านั้น รอบนี้ไอบ้าหลี่เหิงนั้นกล้าที่จะไปให้เย่เมิ่งเหยียนนั้นคุกเข่าขอโทษเขาอีก นี่มันเหมือนกับการได้เขาไปแตะของที่สำคัญที่สุดของหยางเฟิงเอาสะแล้ว!
เฉินตงนั้นเข้าใจเป็นอย่างดี
ทำให้เย่เมิ่งเหยียนนั้นโกรธ มันน่ากลัวสะยิ่งกว่าไปทำให้หยางเฟิงโกรธอีก
เพราะว่าไม่ว่าใครที่กล้าไปทำให้เย่เมิ่งเหยีนนั้นโกรธ
สถานที่ต่อไปนั้นก็มีแต่ตายสถานเดียว
……
ในขณะเดียวกัน
ตระกูลหลี่
เพล้ง!
เพล้ง!
เพล้ง!
“ไอบ้าเอ้ย!สมควรตายส่ะ!กล้าที่จะมาตบหน้าข้าอย่างงั้นหรอ หากไม่ได้ล้างแค้น ข้านั้นสาบานเลยว่าจะไม่เป็นคนอีกต่อไป !”