เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 122
เพียงแค่หมัด
เขาก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
หยางเฟิงยิ้มเย็นชาอย่างเหยียดหยาม “แค่ความสามารถเล็กน้อยนี้ ก็กล้าเข้ามาแสดงฝีมืออันต้อยต่ำ?กลับไปบอกท่านสามอะไรนั่นของแก ให้เขาภายในสามวันรีบมาคุกเข่าซะดีดี!ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันจะฆ่าเขาให้ตาย!!!”
อ่า!
คนจำนวนมากตรงหน้าประตู ก็ต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่กทันที
ให้ท่านสาม มาคุกเข่าให้เขยแต่งเข้าคนหนึ่ง หยางเฟิงคู่ควร?
เจี้ยนเฟิงพยายามดิ้นรนยืนขึ้น กัดฟันพูด “อยากให้ท่านสามคุกเข่าให้แก!ก็ดูว่าแกมีความสามารถนี้หรือไม่?พี่น้องทุกคน ฆ่าเขาให้ฉัน!”
“ฆ่าเลย!”
หลังจากคำสั่ง ลูกน้องหลายร้อยคนก็พุ่งใส่หยางเฟิง
เห็นสภาพนี้
หยางเฟิงยืนอยู่ที่เดิม มั่นคงดั่งขุนเขาไม่ไหวติง
เวลาที่เหลือก็ยังจุดบุหรี่หนึ่งมวน สังเกตสายตาไปไกลไกล
ลูกน้องหลายร้อยคนต่างหวาดกลัว
“คนคนนี้บ้าไปแล้วหรือเปล่า!”
“เสแสร้งแกล้งทำอะไรกัน ชายอกสามศอกยังยากที่จะต่อสู้สี่มือได้นะ?พี่น้องทั้งหลาย บุก!”
ในเวลานี้ เสียงเสือคำรามดังมา
“กล้าที่จะไม่มีมารยาทต่อท่านแม่ทัพ ฆ่าไม่เว้น!”
ทันทีหลังจากนั้น เงาแห่งความโหดเหี้ยมก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เพียงแค่เห็นการสังหารอันดุร้ายที่สีหน้าเสือขาวผ่านไป
ชั่วพริบเดียว ลูกน้องหลายร้อยคน ทั้งหมดล้นลงบนพื้น!
“นี่……”
มองถึงตรงนี้
เจี้ยนเฟิงตะลึงงันไปทั้งตัว
เขาคาดไม่ถึง
ไม่เพียงแต่หยางเฟิงที่ร้ายกาจมาก แม้แต่คนข้างกายของเขาก็ร้ายกาจมากเช่นกัน
“ไปตายซะ!”
เจี้ยนเฟิงไม่ได้รู้ตัวว่าตนเองบาดเจ็บสาหัส ก็หยิบดาบยาวจากบนพื้นขึ้นมาเข้าไปฆ่าฟัน สู้ตาย!
แสงของดาบเปล่งประกาย
เสือขาวมองถึงตรงนี้ ใบหน้าเหยียดหยาม
เขาไม่มีคำพูดใดใด
ปล่อยหมัดพุ่งออกไปตรงตรง
ปั๊ก!
ฟิ้ว!
เจี้ยนเฟิงลอยกลับออกไปอีกครั้ง
เลือดสด ๆ พุ่งออกมาจากในปาก
ในครั้งนี้ สภาพอาการบาดเจ็บของเขาสาหัสยิ่งกว่าก่อนหน้ามาก
ช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ ความมั่นใจในตนเองของ เจี้ยนเฟิงได้รับการโจมตีที่รุนแรง
เดิมทีเขาคิดว่าตนเองเป็นผู้มีฝีมือสูงอันดับหนึ่งของเมืองเอก ไร้คู่ต่อสู้
แต่คาดไม่ถึง
วันนี้ พ่ายแพ้ติดต่อกันในมือของคนสองคน
ทั้งยังล้วนเป็นหนึ่งหมัด!
เสือขาวจ้องมองเจี้ยนเฟิงแล้วคำราม “ไปให้พ้น ไม่งั้นฉันจะฆ่าแก!”
เห็นสภาพการณ์แล้ว เจี้ยนเฟิงก็ไม่ได้พูดไร้สาระใดใดอีก จากไปอย่างจนตรอก
เขารู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฟิงและคนอื่น ๆ หากยังอยู่ที่นี่ต่อไปก็เพียงรนหาที่ตาย
มองเห็นเจี้ยนเฟิงจากไป
หยางเฟิงพูดกับเย่เมิ่งเหยียนอย่างแย้มยิ้ม “เมียจ๋า พวกคุณกลับไปเถอะ!”
เย่เมิ่งเหยียนพยักหน้า
หลังจากนั้นออกจากหยางเฟิงด้วยใบหน้าอ่อนโยน
เย่ซานตะลึงงันอยู่ที่เดิม ใบหน้าแสดงออกถึงความไม่กล้าที่จะเชื่อ
ผู้มีฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองเอกที่สง่าผ่าเผย เจี้ยนเฟิง คาดไม่ถึงว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฟิง?
อีกทั้งหยางเฟิงยังให้ ตัวพ่อในพื้นที่สีเทาเมืองเอกอย่างท่านสาม ภายในสามวันนี้ให้มาคุกเข่าขอโทษ?
นี่ไม่ใช่ว่าฝันอยู่เหรอ?
ช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ เย่ซานเคารพยำเกรงต่อหยางเฟิงลึกเข้าไขกระดูก
เดิมทีมีความคิดระมัดระวังบ้างภายในใจ ก็ไม่กล้าจะมีอีกทันที
ต่อไปจะสงบจิตสงบใจทำงานเพื่อเฟิงเมิ่งกรุ๊ป
……
สุพรีมคลับ
“ท่านสาม!”
เจี้ยนเฟิงวิ่งโซซัดโซเซกลับมา
“เจี้ยนเฟิง แกเป็นอะไร?”
มองเห็นเจี้ยนเฟิงที่ตกอยู่ในสภาพหน้าเหลือแค่สองนิ้ว จางเวยก็ตกใจอย่างมาก
เจี้ยนเฟิงใช้มือเช็ดไปที่รอยเลือดตรงมุมปากแล้วพูด “ท่านสาม ผมพาคนไปก่อความวุ่นวายที่เฟิงเมิ่งกรุ๊ป ผลสุดท้ายถูกเขยแต่งเข้าคนนั้นปล่อยหมัดต่อยจนบาดเจ็บสาหัส”
“อะไรนะ?”
ได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าจางเวยก็งงงวย!
เจี้ยนเฟิงเป็นถึงผู้มีฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองเอก
แต่คาดไม่ถึงว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฟิง?
เจี้ยนเฟิงพูดต่อ “อีกทั้งหยางเฟิงคนนั้น ยังให้ผมมาบอกคุณประโยคหนึ่ง”
จางเวยถามด้วยสีหน้าดูไม่ดี “พูดว่าอะไร?”
“เขาให้คุณ ภายในสามวัน ไปคุกเข่าขอโทษ!”
“อะไรนะ?แท้จริงมีอย่างนี้ที่ไหนกัน!”
ปัง!
จางเวยโมโหมาก ฝ่ามือตบบนโต๊ะอย่างรุนแรง
ทันทีหลังจากนั้นทั้งโต๊ะก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ!
ถ้ามีคนอยู่ที่นี่ จะต้องตกใจมากแน่นอน