เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 133
หยางเฟิงยิ้มพร้อมลูบหัวของหยางพั่นพั่น หลังจากนั้นพูดกับเย่เมิ่งเหยียน “ที่รัก คุณพาพั่นพั่นไปพักผ่อนเถอะ”
เย่เมิ่งเหยียนพยักหน้า แล้วกุมมือของหยางพั่นพั่นออกไป
ส่วนหยางเฟิง ยังอยู่ต้อนรับแขกที่มาร่วมงานวันเกิดที่ประตูโรงแรม
ครั้งนี้งานวันเกิดของหยางพั่นพั่น หยางเฟิงเชิญบุคคลในสังคมชั้นสูงของกลุ่มสังคมตงไห่ทั้งหมดมาร่วมงาน
ดังนั้นเวลานี้คนมีความรู้ความสามารถเหนือชั้นมากันเต็ม ประตูทางเข้าโรงแรมจอดรถหรูไว้นับไม่ถ้วน
หลันซินที่อยู่ด้านข้างแต่งกายเพริศพริ้งงดงามฉูดฉาดบาดตา
นับตั้งแต่หลังจากตระกูลเย่พัฒนา
ชีวิตของหลันซินก็ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยตามขึ้นไปด้วย
ตอนนี้สิ่งที่หลันซินชอบที่สุด ก็คือเชิญภรรยาของตระกูลร่ำรวยเหล่านั้นเล่นไพ่นกกระจอก
ทุกครั้งที่ได้ยินคำพูดเยินยอของคนเหล่านี้ อารมณ์ของเธอก็สบายใจเป็นอย่างมาก
เย่ไห่ที่บนกายสวมชุดสูท พูดอย่างไม่มีความสุข “วันนี้เป็นวันเกิดของพั่นพั่น เธอจะใส่ใหญ่โตขนาดนี้ทำไม?คนอื่นไม่รู้แล้วคิดว่าเป็นวันเกิดของเธอล่ะ?”
หลันซินเชอะแล้วพูด “ต้องให้คุณมาก้าวก่ายเหรอ!อย่าคิดว่าคุณตอนนี้เป็นประธาณคณะกรรมการบริหารของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป ก็สามารถก้าวก่ายฉันได้ บอกคุณเลยนะ บ้านนี้ยังเป็นฉันที่พูดแล้วถือว่าได้ ฉันอยากใส่อะไรแบบไหน ก็ใส่อะไรแบบนั้น”
เย่ไห่พูดอย่างอดไม่ได้ “ฉันถึงเบื่อจะสนใจเธอ!”
สำหรับหลันซิน เย่ไห่เป็นสิ่งที่เซ็งจนหมดคำพูดที่สุดแล้ว
หลันซินตอนนี้ทั้งหมดก็คือเศรษฐีใหม่คนหนึ่ง โม้โอ้อวดทุกหนแห่ง ทำให้หน้าของเขาหายไปหมดเกลี้ยงแล้ว
เย่ไห่พูดกับหยางเฟิง “ฉันไปตรวจสอบด้านในสักหน่อย ดูหน่อยว่ามีตรงไหนอะไรยังไม่รอบคอบ”
หยางเฟิงยิ้มพร้อมพยักหน้าแล้วพูด “ครับพ่อ พ่อไปเถอะ ตรงนี้มีผมอยู่ก็โอเค”
เย่ไห่ไม่อยากยืนอยู่ด้วยกันกับหลันซินจริง ๆ รีบเข้าไปด้านในทันที
เวลานี้
หลันเจิ้นและคนอื่น ๆ มาถึงหน้าประตูโรงแรม
“วันนี้เป็นงานวันเกิดของลูกสาวของหลานชายฉัน พวกนายทุกคนอย่าทำให้ฉันขายขี้หน้าล่ะ”
หลันเจิ้นตำหนิด้วยใบหน้าเย็นชา
ตามสถานการณ์ เฟิงเมิ่งกรุ๊ปกลายเป็นเครือข่ายอันดับหนึ่งของตงไห่ ตระกูลหลันก็พลอยดีขึ้นไปด้วย
ตอนนี้ตระกูลหลันเป็นตระกูลอันดับรองของตงไห่แล้ว
หลันเจิ้นรู้ว่าตระกูลหลันมีวันนี้ได้ ล้วนเป็นเพราะหลันซิน
ดังนั้น พวกเขาตอนนี้เดิมทีก็ไม่กล้าผิดใจกับครอบครัวหลันซิน
หลันเฟิงพูดเคารพนบน้อม “พ่อครับ ผมรู้แล้ว”
“ใช่ครับปู่ พวกเรารู้แล้ว ปู่ได้กำชับพวกเราม่ตลอดทางหลายครั้งแล้ว”
หลันจื่อกับโจวห้าวทั้งสองคนพูดคล้อยตาม
ตระกูลหลันหลังจากกลายเป็นตระกูลอันดับรองของตงไห่
โจวห้าวกับหลันจื่อรับประนีประนอมทันที
ตอนนี้ทั้งสองคน เป็นคู่แบบหวานชื่นอีกแล้ว
หลันเจิ้นพยักแล้วพูดอย่างพอใจ “ดีมาก!”
หลังจากนั้น หลันเจิ้นและคนอื่น ๆ ก็มุ่งเดินไปโรงแรม
“ผู้นำตระกูลหลัน มาถึงแล้วครับ!”
“อั๊ยหยา!ลูกสาวแสนดีของพ่อ ลูกเขยหลานสาวตาที่แสนดีของฉัน วันนี้เป็นวันเกิดพั่นพั่น พวกเราตระกูลเย่มาอวยพรแสดงความยินดี!”
หลันเจิ้นเดินผ่านไป ใบหน้าพูดด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน
ด้านหลัง อารมณ์ความรู้สึกหลันเฟิงคนอื่น ๆ ไม่ค่อยธรรมชาติอยู่บ้าง
ถึงอย่างไรเมื่อก่อนตระกูลหลันเก่งกว่าครอบครัวหลันซินหนึ่งขั้น
ตอนนี้กลับต้องนอบน้อมก้มหัวพูดจาดีต่อหลันซิน
แต่ไม่มีวิธี โอกาสของใครคนนั้นก็ได้เปรียบ ใครให้ตอนนี้สถานการณ์แข็งแกร่งกว่าคนล่ะ
หลันซินยิ้มอย่างสงบเสงี่ยมแล้วพูด “พ่อคะ พี่ชาย พวกคุณเกรงใจอะไร ยังไม่รีบเข้าไปอีก!”
“ได้ได้ได้!”
หลันเจิ้นคนอื่น ๆ เข้าโรงแรมไปด้วยใบหน้าเอาใจ
หลันซินพึงพอใจความรู้สึกแบบนี้มาก
โดยเฉพาะมองเห็นตระกูลเย่ที่เคยสูงส่งมาก่อนทำท่าทางประจบประแจงตนเองอย่างไม่รู้สึกละอาย ในใจของเธอมีความสุขเป็นพิเศษ
หยางเฟิงเห็นถึงตรงนี้ อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วส่ายหน้า
หลันซินเห็นการแสดงออกของหยางเฟิง เสียงเหอะเย็นชาพูด “นายยิ้มอะไร?”
“ไม่ได้ยิ้มอะไร”
“หม่าตงผู้ที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งของตงไห่ มาถึงแล้วครับ!”
“เหล่าไท่จวิน ยินดีด้วยยินดีด้วย!”
หม่าตงเดินเข้ามา พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
หลันซินยิ้มแล้วพูด “ขอบคุณคุณหม่าตงที่มาด้วยตนเอง”