เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 136
ชายชุดขาวตะโกนพูดขึ้นด้วยสีหน้าสะพรึงกลัวว่า “ปล่อยผม ปล่อยผม”
เพราะเขาสัมผัสได้ถึงรัศมีอาฆาตที่น่าสะพรึงกลัวจากคนพวกนี้
คนพวกนี้จะต้องเคยฆ่าคนมาก่อนอย่างแน่นอน
และก็ไม่ใช่แค่คนสองคน
กระทั่งเป็นร้อยเป็นพันคน
ไม่อย่างนั้นจะไม่มีรัศมีแห่งความอาฆาตรุนแรงขนาดนี้
หากตกอยู่ในมือของพวกเขา จะมีจุดจบที่ไม่อาจคาดคิด
……
หลังจาก 10 นาที
เสือขาวมาถึงตรงหน้าหยางเฟิง พร้อมพูดขึ้นอย่างเคารพว่า “ท่านแม่ทัพ ผมได้บอกทั้งหมดแล้ว”
หยางเฟิงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “พูดมา”
เสือขาวพูดขึ้นว่า “ท่านแม่ทัพ ชายชุดขาวคนนี้ มีชื่อเรียกว่าไป๋เฟย เป็นศิษย์ในสำนักปาจี๋ เขามาตงไห่เพื่อสืบเรื่องที่ ศิษย์น้องหงทาวถูกฆาตกรรม เพราะสืบรู้ว่าเกี่ยวข้องกับท่านแม่ทัพ ดังนั้นจึงวางแผนในงานเลี้ยงฉลองวันเกิด จับตัวลูกสาวท่านแม่ทัพเป็นตัวประกัน จากนั้นบีบบังคับให้ท่านแม่ทัพยอมให้จับโดยไม่ต้องต่อสู้”
ไป๋เฟยรู้ หยางเฟิงสามารถฆ่าหงทาวได้ทันที ไม่ใช่คนที่พูดง่ายแน่นอน
คืนนี้เป็นวันเกิดหยางพั่นพั่นพอดี
หากจับตัวหยางพั่นพั่นเป็นตัวประกัน แล้วบีบบังคับหยางเฟิง
ถึงตอนนั้นหยางเฟิงจะต้องยอมให้จับโดยไม่ต้องต่อสู้
ต้องยอมรับว่า แผนการของไป๋เฟยนั้นดีมาก
แต่เขาคาดคะเนความสามารถของหยางเฟิงน้อยเกินไป
หยางเฟิงหรี่ตงลง พร้อมพูดขึ้นว่า “สำนักปาจี๋? คิดจะจับตัวลูกสาวของผมเป็นตัวประกัน พวกเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?”
เกร็ดของมังกร คิดแตะต้องนั้นต้องตาย
ภรรยากับลูกสาว ถือเป็นเกร็ดของมังกรของหยางเฟิง
ใครแตะต้องเส้นตายของเขา
ไม่ว่าจะเป็นราชาแห่งสรวงสวรรค์ ก็ยากที่จะหนีพ้นจากความตาย
หยางเฟิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “เสือขาวฟังคำสั่ง รวมตัวสำนักเทพมรณะ ไปยังสำนักปาจี๋”
“ครับ”
เสือขาวไม่กล้าลังเลเลยสักนิด รีบไปสั่งการทันที
เขารู้ว่า หยางเฟิงโกรธจัดแล้ว
เทพมรณะโกรธ เลือดนองพันลี้
ครั้งนี้ สำนักปาจี๋ยากที่จะรอดพ้นจากความหายนะ
หลังจากเสือขาวออกไป
สายตาหยางเฟิงฉายแววแห่งความอันตราย
“สำนักปาจี๋ ผมจะใช้เลือกของพวกคุณ มาระงับไฟแห่งความโกรธของผม”
เทือกเขาหยุนเมิ่ง
ตั้งอยู่ในเขตแดนมณฑลเจียงหนาน
ที่นี่มีเมฆและหมอกล้อมรอบตลอดทั้งปี ราวกับแดนสวรรค์
เหนือยอดเทือกเขาหยุนเมิ่ง มีอาคารขนาดใหญ่งดงามอลังการ
ที่นี่ก็คือสำนักปาจี๋
เป็นสำนักอันดับหนึ่งของมณฑลเจียงหนาน
บริเวณตีนเทือกเขาในตอนนี้
มีชายชุดดำหลายพันคนที่เปล่งรัศมีสังหาร
ในมือพวกเขาถือมีดเหล็กคม
มีดเหล่านี้ทำมาจากสแตนเลสทั้งหมด
ตัดเหล็กได้อย่างโคลน เป่าลมอย่างขนตัดขาดดั่งตัดผม
ทุกคนคลุมหน้าด้วยผ้าสีดำ เผยให้เห็นเพียงดวงตาที่เย็นชา
บนเสื้อผ้า ลายนรกเทพมรณะเผยให้เห็นอย่างเด่นชัด
พวกเขาคือสำนักเทพมรณะ
กองทหารของหยางเฟิง
ติดตามเขาต่อสู้ขึ้นเหนือล่องใต้ สร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
หยางเฟิงเงยหัวขึ้น หรี่ตามองดูเทือกเขาหยุนเมิ่งตรงหน้า
เสือขาวที่อยู่ด้านข้าง พูดขึ้นอย่างเคารพว่า “ท่านแม่ทัพ สำนักเทพมรณะรวมตัวเรียบร้อยแล้ว”
หยางเฟิงพยักหัวพร้อมพูดขึ้นว่า “อืม สำนักปาจี๋ คุณสืบมาอย่างละเอียดหรือยัง?”
เสือขาวพูดขึ้นว่า “สำนักปาจี๋ เป็นสำนักอันดับหนึ่งของมณฑลเจียงหนาน ในวงการฝีมือการต่อสู้ถือว่าเป็นสำนักอันดับสาม ศิษย์ในสำนักมีสามพันคน หนึ่งในนี้มีศิษย์ที่อยู่นอกสำนักสองพันคน ศิษย์ที่อยู่ภายในสำนักมีหนึ่งพันคน ผู้คุมกฎอาวุโสมีร้อยคน”
“ความสามารถของคนพวกนี้ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ภายใต้ฮั่วจิ้ง ส่วนคนที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดคือหัวหน้าสำนักสำนักปาจี๋ ถึงแดนปรมาจารย์ครึ่งขั้นแล้ว”
เดิมมณฑลเจียงหนานก็เป็นดินแดนที่ขาดแคลนคนมีฝีมือการต่อสู้ มีคนที่สามารถมาถึงแดนปรมาจารย์ครึ่งขั้นถือเป็นเรื่องอัศจรรย์มากแล้ว
แต่ เพียงแค่ปรมาจารย์ครึ่งขั้น หยางเฟิงยังคงไม่เห็นอยู่ในสายตา
กล้าลอบฆ่าลูกสาวของตน
วันนี้ สำนักปาจี๋ต้องถูกทำลาย
“อีกอย่าง ศิษย์สำนักปาจี๋พวกนี้กระทำแต่เรื่องชั่ว วางอำนาจบาตรใหญ่ ประชาชนในรัศมีร้อยไมล์ต่างเดือดร้อนเป็นทุกข์”
หยางเฟิงหรี่ตงลง พร้อมพูดขึ้นว่า “เห็นทีสำนักปาจี๋นี้ ตายไปก็ไม่สาสมกับความผิด ภารกิจของพวกคุณในวันนี้ ก็คือทำลายสำนักปาจี๋ให้สิ้นซาก”