เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 140
อ้าก
ชาวบ้านตะโกนร้องเสียงดัง ตกใจกลัวจนฉี่ราด
จากนั้น ข่าวสำนักปาจี๋ถูกทำลายล้างถูกร่ำลือออกไป สะเทือนวงการการต่อสู้ของมณฑลเจียงหนาน
สำนักปาจี๋ สำนักอันดับหนึ่งของมณฑลเจียงหนาน
ตอนนี้จู่ ๆ ก็ถูกทำลายล้าง ไม่รู้ว่าผู้ร้ายคือใคร นักสู้ทั่วทั้งมณฑลเจียงหนานต่างจิตใจระส่ำระสาย
ชาวบ้านในพื้นที่ ร้องรำทำเพลง
สำนักปาจี๋ถูกทำลายล้าง สำหรับพวกเขาแล้ว ถือเป็นการกำจัดสิ่งชั่วร้าย
ต่อจากนี้ไป จะไม่มีใครวางอำนาจบาทใหญ่บนหัวพวกเขาอีกแล้ว
……
หู้ไห่
ศูนย์กลางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของต้าเซี่ย
ที่นี่เป็นสวรรค์ของผู้ประสบความสำเร็จ เป็นนรกของผู้พ่ายแพ้
คนที่มีความฝันนับไม่ถ้วนเข้ามา
แล้วก็มีคนผิดหวังกลับไปนับไม่ถ้วน
แก๊งเขียว
แก๊งอันดับหนึ่งของหู้ไห่
มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาก สืบทอดมาถึงตอนนี้มีอายุห้าร้อยปีแล้ว
เวลานี้
ในห้องโถงศูนย์แก๊งเขียว
ชายถือดาบยาวคนหนึ่ง คุกเข่าลงกับพื้น
“ขอร้อง หัวหน้าเฉ่าแก้แค้นให้กับท่านสามด้วย”
เจี้ยนเฟิงคุกเข่าอยู่บนพื้น ก้มหัว สีหน้าเจ็บปวด
ข่าวการตายของจางเวยถูกพูดออกมา เขาเจ็บปวดทรมานอย่างมาก หนีออกมาจากเมืองเป็นอันดับแรก แล้วก็มาหู้ไห่
เฉ่าซือไห่ที่นั่งอยู่บนที่นั่งประจำตำแหน่ง สีหน้าอิสระเรียบเฉย
เขาคือหัวหน้าแก๊งเขียว อยู่ใต้คนๆเดียว แต่อยู่เหนือคนนับหมื่น
ข่าวที่จางเวยถูกฆ่า ทำให้เขาตกตะลึงอย่างมาก
ยังไงจางเวยก็เป็นเจ้าแห่งวงการสีเทาเขตแดนมณฑลเจียงหนาน
ฝีมือการต่อสู้ก็เป็นยอดฝีมือแดนฮั่วจิ้ง
คนที่สามารถฆ่าเขาได้ ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
มองเห็นเฉ่าซือไห่ไม่พูดไม่จา
เจี้ยนเฟิงจึงพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า “หัวหน้าเฉ่า…..”
หัวหน้าเฉ่าโบกมือ ดักคำพูดของเขาแล้วก็พูดขึ้นว่า “คุณวางใจ ผมจะช่วยแก้แค้นให้กับจางเวยอย่างแน่นอน ยังไงเขาก็เป็นพี่น้องร่วมสาบานของผม แต่ยังไม่ถึงเวลา คุณไปพักผ่อนเสียก่อนเถอะ”
“ผม…..”
ถึงแม้เจี้ยนเฟิงยังอยากพูดอะไรอีก
แต่ตอนนี้ เขาอยู่ภายใต้อาณาจักรของคนอื่นไม่ก้มหัวไม่ได้ ทำได้เพียงถอยออกไปอย่างเคารพ
หลังจากเจี้ยนเฟิงออกไปแล้ว
ชายชราชุดสีเทาคนหนึ่งเดินออกมาถามขึ้นว่า “หัวหน้า เราจะปล่อยโอกาสที่ดีนี้ไปหรือ?”
จางเวยตายแล้ว นั่นก็แสดงว่า วงการสีเทามณฑลเจียงหนานว่างเปล่า เป็นโอกาสที่ดีที่แก๊งเขียวจะเข้าไปแทนที่
เฉ่าซือไห่หรี่ตาลง พร้อมพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ผมไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปอยู่แล้ว แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่ชัดเจน หากบุกเข้าไป มีเรื่องกับคนที่สู้ไม่ได้ ถึงจะเสียใจก็ไม่ทันแล้ว”
เขาเป็นคนระมัดระวังคนหนึ่ง
ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าแก๊งเขียวมาหลายสิบปี
ชายชราชุดเทาถามขึ้นว่า “งั้นตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี?”
เฉ่าซือไห่พูดขึ้นว่า “คุณส่งคนจำนวนหนึ่งไปยังมณฑลเจียงหนาน ไปสืบดู จางเวยตายได้อย่างไร? หลังจากรู้ถึงสาเหตุการตายของจางเวย แก๊งเขียวของเราค่อยเข้าไปในมณฑลเจียงหนานก็ยังไม่สาย”
ชายชราชุดสีเทาพยักหน้าด้วยความเคารพ พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอรับ”
ดวงตาทั้งคู่ของเฉ่าซือไห่ฉายแววเป็นประกาย
เขาอยากเข้าไปยืดมณฑลเจียงหนาน
แต่ตอนนี้หู้ไห่ก็ไม่สงบ
เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน สำนักหงเจ้าแห่งวงการสีเทาหู้ไห่ มีสัญญาณการกลับมาจากต่างประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ สำหรับแก๊งเขียวถือเป็นการท้าทายอย่างมาก
ก่อนที่ยังไม่ได้จัดการปัญหาภายใน เขาไม่มีเวลาเหลือที่จะไปคิดรับมือกับคนอื่น
……
ตงไห่
เย่เมิ่งเหยียนพูดกับหยางเฟิงว่า “ที่รัก ทางบริษัทตัดสินใจแล้ว นโยบายถัดไปมุ่งเป้าไปที่หู้ไห่ ยังไงหู้ไห่ก็เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของต้าเซี่ย เฟิงเมิ่งกรุ๊ปอยากที่จะพัฒนา ก็จะต้องเข้าสู่หู้ไห่”
ถึงแม้ตอนนี้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปได้ยึดเมืองมณฑลเจียงหนานไว้ได้แล้ว
แต่เมื่อเทียบกับหู้ไห่ ศักยภาพในการพัฒนายังน้อยเกินไป
ต้องรู้ว่า หู้ไห่เป็นถึงมหานครนานาชาติ
มีเพียงเข้าสู่หู้ไห่ ถึงจะสามารถพัฒนาเพิ่มมากขึ้นได้