เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 16 วิลล่าจวู้เสียน
บ้านเก่าของตระกูลหลัน
บ้านหลังเก่าที่ไม่มีคนพักอาศัยมากว่าสิบปีแล้ว ทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยใยแมงมุม
“ทั้งหมดเป็นเพราะหยางเฟิงคนเดียว ไม่อย่างนั้นพวกเราคงไม่ต้องมาอยู่ในที่ผุพังเช่นนี้”
หลันซินพูดขึ้นด้วยความโมโห
“คุณรีบกลับไปขอร้องนายท่านเร็วสิ ดูว่าเมื่อไหร่เขาจะยอมให้พวกเราย้ายกลับไปอยู่ในตระกูลเย่สักที ?”
หลันซินหันมองเย่ไห่ที่เอาแต่นั่งก้มตาก้มตานิ่งเงียบด้วยความไม่พอใจ
เย่ไห่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วพูดว่า : “ไร้ประโยชน์ ในเมื่อคุณพ่อไล่พวกเราออกจากบ้านแล้ว เขาก็ไม่มีทางยอมให้พวกเรากลับไปตระกูลเย่อีกแน่นอน”
หลันซินตะโกนด่าออกมาเสียงดัง : “เพราะหยางเฟิงคนเดียวที่ทำลายครอบครัวของเรา !”
เมื่อพูดถึงหยางเฟิง หลันซินก็โกรธจนกัดฟัน
ตอนนี้เอง มีฮัมเมอร์ทหารคันหนึ่งขับเข้ามา
หยางเฟิงกับเย่เมิ่เหยียนลงมาจากรถ
เมื่อหลันซินเห็นหยางเฟิง ก็ตะโกนด่าทอด้วยความโมโห : “หยางเฟิง ไอ้สารเลว แกยังกล้ากลับมาอีกหรือ ? หรือแกยังทำร้ายพวกเราให้เป็นทุกข์ไม่พออีก ?”
หยางเฟิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย : “คุณแม่ครับ ผมมาเพื่อที่จะรับพวกท่านไปร่วมงานเลี้ยงของหม่าตงคืนนี้ครับ”
“งานเลี้ยง ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลันซินกับเย่ไห่ก็ผงะไปทันที
หลันซินพูดเยาะเย้ยขึ้นว่า : “หยางเฟิง แกคงไม่คิดว่าบัตรเชิญใบนั้นเป็นเรื่องจริงหรอกนะ ?”
“แน่นอนครับ หม่าตงนำมามอบให้ด้วยตนเองเช่นนี้ หรือคุณแม่คิดว่าเป็นของปลอมล่ะครับ ?”
หยางเฟิงขมวดคิ้วถาม
“หึ !”
หลันซินหัวเราะเยาะ : “ใครจะไปรู้ว่าหม่าตงจำคนผิดหรือเปล่า ถ้าหากจำคนผิดจริง พวกเราไปร่วมงานเลี้ยงไม่ท่ากับเป็นการขายหน้าหรอกหรือ ?”
หยางฟิงพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ : “คุณแม่ครับ คุณแม่ไม่เชื่อผมหรือครับ ?”
“แกเป็นแค่เขยสวะ ไม่มีอะไรสักอย่าง หม่าตงจะมาเชิญแกด้วยตนเองได้อย่างไร ?”
หลันซินไม่เชื่อถือหยางเฟิงนัก
คนหนึ่งเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเย่
คนหนึ่งเป็นอภิมหาเศรษฐีตงไห่
ทั้งสองคนจะรู้จักกันได้อย่างไร ?
นี่มันต่างกันราวฟ้ากับดินเลยจริงไหม ?
หยางเฟิงพูดเบา ๆ ว่า : “คุณแม่ครับ หากคุณแม่ไม่ไปจะรู้ได้อย่างไรว่าบัตรเชิญเป็นของจริงหรือของปลอม ถ้าหากเป็นของจริงล่ะครับ ? หรือคุณแม่ไม่อยากร่วมงานเลี้ยงของหม่าตง ?”
“คือว่า……”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลันซินก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
นี่คืองานเลี้ยงที่อภิมหาเศรษฐีของตงไห่จัดขึ้น หลันซินย่อมอยากเข้าร่วมแน่นอน
แต่ด้วยฐานะของหลันซิน ไม่มีทางมีสิทธิ์ได้เข้าร่วมเด็ดขาด
ถ้าหากบัตรเชิญของหม่าตงใบนี้เกิดเป็นของจริงขึ้นมาล่ะ……
เมื่อเห็นท่าทีลังเลของหลันซิน เย่เมิ่งเหยียนก็ก้าวออกมา : “แม่คะ หรือว่าคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่เชื่อหยางเฟิงด้วยคะ ? อย่างไรหยางเฟิงก็เป็นลูกเขยของคุณพ่อคุณแม่นะคะ !”
อันที่จริง ในใจของเย่เมื่งเหยียนก็รู้สึกว่านากที่จะเป็นไปได้
แต่ในเมื่อหยางเฟิงพูดเช่นนี้แล้ว ในฐานะภรรยา ก็ย่อมเลือกที่จะเชื่อสามีโดยไร้เงื่อนไข
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เมิ่งเหยียน หลันซินก็หวั่นไหวขึ้นมา
หลังจากลังเลอยู่สักพัก หลันซินก็กัดฟันพูดว่า : “เอาละ ! หยางเฟิง ฉันจะลองเชื่อแกดูสักครั้ง ถ้าหากครั้งนี้กล้าหลอกฉันละก็ ฉันจะให้เมิ่งเหยียนหย่ากับแกซะ”
หยางเฟิงยิ้มโดยไม่พูดอะไร
“พวกคุณไปกันก่อน ผมยังมีเรื่องต้องจัดการอีกนิดหน่อย”
หลังจากพวกเย่เมิ่งเหยียนขึ้นนั่งบนรถแล้ว หยางเฟิงก็พูดขึ้น
หลันซินพูดขึ้นด้วยความสงสัย : “หยางเฟิง แกคงไม่คิดจะหนีไปหรอกใช่ไหม ?”
“วางใจเถอะครับ อีกเดี๋ยวผมจะตามไป”
“ไม่ว่าอย่างไรผมก็เป็นสามีของเมิ่งเหยียน จะหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น แล้วจะให้ผมหนีไปไหนได้ล่ะครับ ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฟิง หลันซินก็รู้สึกว่ามีเหตุผล
“หยางเฟิง คุณจะต้องมานะ !”
เย่เมิ่งเหยียนตะโกนเรียกหยางเฟิง
“วางใจเถอะ ที่รัก ผมจะต้องไปแน่นอน” หยางเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
เย่เมิ่งเหยียนพยักหน้าด้วยความอ่อนโยน
โบราณกล่าวไว้ว่า เมื่อเป็นสามีภรรยากันแล้ว ต้องรักกันตลอดไป
ตั้งแต่ที่หยางเฟิงกลับมา หัวใจของเย่เมิ่งเหยียนก็ค่อย ๆ หลอมละลาย
จากนั้น รถฮัมเมอร์ก็ขับพาพวกเย่เมิ่งเหยียนออกไป
“ท่านแม่ทัพ !”
หลังจากพวกของเย่เมิ่งเหยียนจากไปแล้ว เสือขาวก็เดินเข้ามา แล้วพูดด้วยความเคารพ
หยางเฟิงพูดด้วยสีหน้าเย็นชา : “ช่วยจัดการให้ฉันที งานเลี้ยงคืนนี้ ฉันต้องการสร้างความประหลาดใจให้เมิ่งเหยียน ฉันต้องการให้ทุกคนที่เคยดูถูกฉันต้องตกตะลึง
“ครับ !”
เสือขาวพยักหน้าแล้วเดินออกไปทันที
“ห้าปีก่อน ฉันจากไปด้วยความอับอาย”
“ห้าปีให้หลัง ดูว่าฉันจะกลับมาอย่างราชาได้อย่างไร”
หยางเฟิงยืนอยู่ที่เดิม แหงนมองท้องฟ้า แววตาปรากฏประกายที่แปลกประหลาดออกมา
……
วิลล่าจวู้เสียน
บ้านของหม่าตง อภิมหาเศรษฐีตงไห่
และเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วย
ด้านนอกของวิลล่าจวู้เสียนในตอนนี้ มีรถหรูจอดอยู่อย่างคับคั่ง รถเกรดต่ำสุดก็มีราคาสูงถึงหนึ่งล้านหยวน
วันนี้เป็นงานเลี้ยงที่อภิมหาเศรษฐีหม่าตงจัดขึ้น ชนชั้นสูงทั่วทั้งตงไห่ต่างมาร่วมงาน
มีรถ BMW คันหนึ่งขับเข้ามา จากนั้นก็มีคนลงมาจากรถสองสามคน
หลันเจิ้งเดินนำพวกหลันเฟิงลงจากรถ
เมื่อเห็นฝูงชนที่คับคุ่งตรงประตูวิลล่า ก็อดประหม่าไม่ได้
“สมแล้วที่เป็นงานเลี้ยงของเศรษฐีหม่า ดูสิ คนพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นชนชั้นสูงที่มีชื่อเสียงของตงไห่ทั้งนั้น”
“ดูรถหรูพวกนั้นสิ แต่ละคันราคาเป็นล้านทั้งนั้น จนกระทั่งถึงระดับหลายสิบล้านก็มี”
ขณะที่มองดูรถหรูราคาแพงเหล่านั้น คนของตระกูลหลันก็แสดงความอิจฉาออกมา
ตระกูลหลันเป็นตระกูลอันดับสาม เพื่อที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ ยอมที่จะขับรถ BMWสุดหรูมูลค่าหลายล้านที่มีอยู่เพียงคันเดียวออกมา
เดิมทีคิดว่าคงจะสุดยอดแล้ว แต่เมื่อเห็นรถหรูมูลค่าหลายสิบล้านที่จอดอยู่เหล่านี้ ก็รู้สึกต่ำต้อยขึ้นมาทันที
“พ่อครับ ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะโจวห้าว พวกเราคงไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้แน่นอน”
หลันเฟิงหันไปทวงผลงานกับหลันเจิ้น
หลันเจิ้นพยักหน้าแล้วพูดว่า : “หลันเฟิพูดถูก ครั้งนี้พวกเราต้องขอบคุณโจวห้าว”
“คุณพ่อครับ คุณปู่ครับ เราต่างเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ทำไมต้องเกรงใจเช่นนี้ด้วยล่ะครับ ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของพวกหลันเจิ้ง โจวห้าวก็แสดงสีหน้าถ่อมตัวเหมือนสุภาพบุรุษ
“ทุกคนว่าครอบครัวของหยางเฟิงจะมาไหม ?”
จู่ ๆ หลันจื่อก็เอ่ยถามขึ้น
“จะเป็นไปได้อย่างไร ? ครอบครัวของหยางเฟิงจะมาให้ขายหน้าหรืออย่างไร ?”
หลันเฟิงพูดเยาะเย้ย “พวกเขารีบเข้าไปข้างในกันเถอะ !”
สุดท้าย เมื่อพวกของหลันเจิ้งเดินมาถึงประตูวิลล่า กลับถูกบอดี้การ์ดของงานเลี้ยงขวางเอาไว้ !
“โปรดแสดงบัตรเชิญด้วยครับ !”
หลันเจิ้นหันมองหลันเฟิง หลันเฟิงจึงหยิบบัตรเชิญออกมาอย่างภาคภูมิใจ
เมื่อบอดี้การ์ดเห็นบัตรเชิญ ก็พูดด้วยสีหน้าเย็นชา : “ขอโทษด้วยครับ พวกคุณถูกขึ้นบัญชีดำแล้ว ห้ามเข้าไปเด็ดขาด !”
“อะไรนะ ? ห้ามเข้าไปเด็ดขาด !”
เมื่อได้ยินดังนั้น พวกของหลันเจิ้งก็ตกตะลึงทันที