เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 165
ผู้น้ำทั้งสี่ตระกูลใหญ่ ทุกคนทั้งหมดยืนขึ้น ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
“พวกเราทั้งสี่ตระกูลใหญ่ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับคุณหยางแล้ว”
ในช่วงปีนี้ แก๊งเขียวได้อาศัยอำนาจในความเป็นแใหญ่แห่งเมืองหู้ไห่ ใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงสี่ตระกูลใหญ่ตามอำเภอใจ
แต่ว่าวันนี้สำนักหงที่ยิ่งใหญ่ได้กลับมาแล้ว
ควบคู่ไปด้วยกับตัวตนที่ลึกลับของหยางเฟิง
ที่ทำให้ทั้งสี่ตระกูลใหญ่นั้น มองเห็นแสงสว่างในการโค่นอำนาจแก๊งเขียว
”หยางเฟิงมองไปที่เฉ่าซือไห่อย่างเย็นชา ก่อนจะพูดว่า “ ตอนนี้ข้าไปแล้วแล้วหรือยัง?”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น
เฉ่าซือไห่กำหมัดแน่น
เขาไม่อยากจะฟังคำสั่ง แล้วอยากจะให้แก๊งเขียวทำการโจมตี
แต่ว่าเขานั้นไม่กล้า!
เพราะว่า ภายด้านหน้าของเรานั้นคือสำนักหง อีกทั้งยังมีสี่ตระกูลใหญ่อยู่ด้วย
ถ้าหากเป็นเพียงสำนักหง หรือสี่ตระกูลใหญ่ เขาไม่กลัวหรอก!
แต่ว่าตอนนี้สำนักหงและสี่ตระกูลใหญ่ได้รวมพลเป็นพันธมิตรกันแล้ว
หากตอนนี้แก๊งเขียวต้องการจะสู้ จะต้องสูญเสียย่อยยับอย่างมากแน่นอน!
เพราะการสูญเสียรอบนี้ มันเกินกว่าที่เขาจะรับได้ในตอนนี้
เฉ่าซือไห่ได้กำหมัดแน่นอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงค่อยๆคลายลง
จะเห็นได้ว่าภายในใจของเขานั้นเกิดความสับสนกันไปหมด
“ท่านหัวหน้าแก๊งเขียว ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ”
ยิ้มอย่างเยือกเย็น
ก่อนที่หยางเฟิงจะจับมือเย่เมิ่งเหยียน ก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่หันหลัง!
เมื่อมองหยางเฟิงและเย่เมิ่งเหยียนเดินจากไป ใบหน้าของเฉ่าซือไห่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายที่หยางเฟิงพูด ยิ่งทำให้เขาอับอายเป็นอย่างมาก!
“ลาก่อนนะคุณหยาง!”
เจ้าสำนักตระกูลหงพร้อมผู้นำสี่ตระกูลใหญ่ ทุกคนทั้งหมดต่างโค้งคำนับ
เมื่อรอให้คุณหยางเดินจากไป
เฉินตงมองไปที่เฉ่าซือไห่ ยิ้มอย่างเยือกเย็นและพูดว่า “ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป สำนักหงจะเริ่มการโจมตีและต่อสู้กับแก๊งเขียว!”
เมื่อพูดจบแล้ว เฉินตงได้นำสาวกต่างๆของสำนักหงเดินออกไป
“สี่ตระกูลใหญ่ ก็จะเริ่มการโจมตีและต่อสู้กับแก๊งเขียว!”
เมื่อสิ้นสุดเสียงลง
สี่แก๊งตระกูลใหญ่ทั้งหมดก็ทำการเดินออกไป
“ท่านหัวหน้าเฉ่า ข้ามีเรื่องนิดหน่อย ข้าไปก่อนละ”
“ท่านหัวหน้าเฉ่า ถ้าอย่างงั้นไว้วันหลังข้าจะมาเยี่ยมใหม่นะ”
“ท่านหัวหน้าเฉ่า…”
พร้อมกับการจากไปของสำนักหงและสี่ตระกูลใหญ่
ส่วนแขกท่านอื่นๆที่มา ต่างก็หาเหตุผลในการจากลา
ใครก็มองออกว่า สงครามของสำนักหงและสี่ตระกูลใหญ่นั้นกับแก๊งเขียว ไม่ว่าอย่างไรก็มิอาจหลีกเลี่ยงได้
เมื่อมาถึงช่วงเวลาที่สำคัญ ไม่มีใครที่อยากจะเสี่ยงลงแม่น้ำสายนี้ทั้งนั้นแหละ เพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติในคราวนี้
ตอนนี้ก็ทำได้แค่รอให้สถานการณ์มันชัดเจนขึ้นมาก่อน พวกเขามีแต่จะลากเราลงไปซวยด้วย!
เพียงในเวลาไม่ถึงสิบนาที
จากเดิมที่งานเลี้ยงที่มีแขกผู้คนมากมายแต่ทว่าตอนนี้เปลี่ยนเป็นว่างเปล่า
พอมาถึงตอนนี้ สีหน้าของเฉ่าซือไห่ได้เปลี่ยนซีดไป
เดิมทีแล้วมันควรจะเป็นงานเลี้ยงที่ดีมากๆสิ
เพียงเพราะว่าเจ้าหยางเฟิงมาปรากฏตัว เลยทำให้งานเปลี่ยนเป็นแบบนี้
มันช่างน่าเกลียดจริงๆ
โดยเฉพาะวันนี้ที่แก๊งเขียวกับสำนักหงและเจ้าสี่ตระกูลใหญ่ถูกฉีกหน้า
หลังจากนี้คงเป็นเวลาที่ทั้งสองฝั่งคงจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กันละกัน
ผู้อาวุโสชุดเทาเดินเข้ามาข้างหน้า ก่อนจะถามด้วยความเคารพ “หัวหน้า ตอนนี้พวกสำนักหงและเจ้าสี่ตระกูลใหญ่กำลังบุกเข้ามาอย่างน่ากลัว ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงดีล่ะ?”
เฉ่าซือไห่พูดตอบอย่างเย็นชา “จัดการหาวิธีรับมือให้ดี ข้าไม่เชื่อหรอกว่า คนพวกนั้นจะอาศัยเจ้าพวกเอาไหนหรือจะมาสามารถทำลายแก๊งเขียวของข้าได้!”
เขามีความมั่นใจแก๊งเขียวเป็นอย่างมาก
ความแข็งแกร่งและอำนาจหลายร้อยปีที่สะสมกันมา ไม่ได้พูดล้อเล่นนะ
ถึงแม้ว่าสำนักหงและสี่ตระกูลใหญ่จะบุกเข้ามามากมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะมาโค่นล้มข้าได้ง่ายๆนะ
เฉ่าซือไห่พูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา “ ประกาศคำสั่งของข้าออกไป ให้ทุกคนแห่งแก๊งเขียวระวังเรื่องความปลอดภัย และให้จัดเป็นการปลอดภัยขั้นสูงสุด!”
“รับทราบ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้อาวุโสชุดเทาก็รีบจัดการดำเนินการทันที
ผู้อาวุโสชุดเทาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า“โอ้ ใช่แล้ว แล้วนายน้อยล่ะจะทำยังไง”
เฉ่าซือไห่ตอบด้วยหน้าตาเฉย “เจ้าเด็กอกตัญญูนี่ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนให้มีศัตรูเข้ามามากมายขนาดนี้? มานี่สิ มาเอาพวกเขาไปโรงพยาบาล!”
หลังจากนั้นโดยเร็ว สาวกแก๊งเขียวที่นอนสลบอยู่กับพื้นไม่กี่คน ก็ถูกเฉ่าปิ่งค่อยๆพาลากออกไป