เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 208
เย่เมิ่งเหยียนรู้ดีว่าหากตนอยู่ก็คงจะช่วยเหลืออะไรไม่ได้ จึงพยักหน้าก่อนเอ่ย“ได้สิ! ที่รัก ถ้าอย่างงั้นท่านต้องระวังตัวเองด้วยนะ”
หยางเฟิงยิ้มและพยักหน้า
เพื่อป้องกันไม่ให้เย่เมิ่งเหยียนพบกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด หยางเฟิงจึงจัดบอดี้การ์ดไปส่งเธอกลับไป
เย่ไห่เดินเข้ามรายงาน“หยางเฟิง แกไม่ต้องรีบไปหรอก ฉันกลับก่อนนะ ฉันจะไปให้ทางคนของบริษัท เฟิง เมิ่ง กรุ๊ป ช่วยกันหาอีกแรงหนึ่ง”
หยางเฟิงยิ้มแล้วพยักหน้า “ขอบคุณ คุณพ่อ!”
หลังจากที่ เย่ไห่จากไป
ในตอนที่เย่ไห่จากไป ใบหน้าของหยางเฟิงก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา
โดนบริเวณรอบตัวนั้น มีรังสีของความอาฆาตแพร่กระจายออกมาเต็มไปหมด
“คุณหยาง พวกเราผิดไปแล้ว ผมขอให้คุณไว้ชีวิตผมเถอะ!”
ครูใหญ่ของโรงเรียนอนุบาล และหมู่คณะคุณครู ทุกคนต่างก็สั่นหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าที่จะเงยหน้ามองหยางเฟิง
หยางเฟิงยกโบสีชมพูขึ้นมาอย่างทะนุถนอม ก่อนจะมองไปที่ครูใหญ่
ทันใดนั้นครูใหญ่ร่างกายก็สั่นไปทั้งตัว
ร่างกายสั่นด้วยความกลัว โดยที่กลัวว่าหยางเฟิงจะโกรธอาละวาด
หยางเฟิงหายใจเข้าลึกๆหลายรอบ ก่อนจะค่อยๆปรับอารมณ์ของตนเองให้อยู่ระดับปกติ
เขาพูดเสียงแหบ“นี่ไม่ใช้ความผิดของพวกท่าน จริงๆแล้วมันคิดความผิดของข้า ผิดที่ข้าประมาทเอง”
แน่นอนว่านี่คือความผิดของหยางเฟิง!
หลังจากตอนที่ไป๋เฟยถูกลอบสังหาร เขาควรจะให้ความสนใจเรื่องนี้มากขึ้น
แต่เขาคิดตลอดว่า ในเมืองตงไห่นั้น ทั้งพื้นที่สีเทานั้นได้โดนเขาครอบครองกวาดล้างไว้หมดแล้ว คงจะไม่มีผู้ใดกล้าที่จะทำเช่นนี้กับพั่นพั่น
ความเป็นจริงแล้ว เขาคิดผิด!
เป็นความรับผิดชอบของเขา!
เป็นความผิดของเขา!
ทุกอย่างเป็นเพราะความประมาทของเขา เลยทำให้พั่นพ่นนั้นถูกลักพาตัวไป
“พวกคุณออกไปก่อนเถอะ!”
หยางเฟิงโบกมือ
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฟิง
ครูใหญ่ต่างก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันใด
พวกเขาไม่กล้าแม่แต่ที่จะอยู่ต่อไป จีบรีบกันเดินออกไปอย่างไว
หยางเฟิงไม่ได้ระเบิดอารมณ์เคียดแค้นออกมาต่อหน้าของครู่ใหญ่
เพราะว่านี่ก็นี่ก็คงคือการแสดงออกอย่างไร้ความสามารถ!
“ท่านแม่ทัพ!“
ในตอนนี้
เสือขาวและหม่าตงทั้งสองคนเดินเข้ามา ก่อนที่จะทำการเคารพ
หยางเฟิงมองไปที่พวกเขา ก่อนจะเอ่ย “มีเบาะแสอะไรบ้าง?”
เสือขาวและหม่าตงหันมามองหน้ากัน
ก่อนที่เสือขาวจะเอ่ย “ตามที่พวกข้าไปสืบกันมา คนที่ลักพาตัวคุณหนูพั่นพั่นนั่นก็คือ เจี้ยนเฟิง….”
ไม่อยากจะเชื่อ ในตอนนี้ได้มีรังสีอำมหิตแพร่กระจายออกมา
ทันใดนั้นอากาศอุณหภูมิก็ลดลง จนทำให้เสือขาวและหม่าตงอดไม่ได้ที่จะหนาวสั่น
“ตั้งแต่ที่แก๊งเขียวแห่งเมืองหู้ไห่ถูกกวาดล้างไป หยางเฟิงก็เหมือนราวกับสุนัขที่ไร้บ้าน เขาเพื่อที่จะล้างแค้นให้แก่จางเวย ไม่กี่วันมานี้ เขาได้ลักลอบเข้ามาที่ตงไห่และยังลักพาตัวคุณหนูพั่นพั่น อีกทั้งยังข่มขู่ท่านแม่ทัพอีก”
“ท่านแม่ทัพ ครั้งนี้คือความผิดของข้า ที่ข้าไม่ได้รีบตรวจสอบจุดประสงค์ของเจี้ยนเฟิง เลยทำให้คุณหนูพั่นพั่น โดนลักพาตัวไป!”
เมื่อสิ้นสุดเสียง
เสือขาวและหม่าตงก็รีบคุกเข่าลงทันที
ทั้งสองตัวต่างตัวสั่นไปหมด โดยบนหน้าผากนั้นมีเหงื่อไหลไม่หยุดหย่อน
ที่หยางเฟิงลักลอบเข้าตงไห่ นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่ทำไมไม่มีใครพบเห็นเลย มันช่างเป็นเรื่องที่ชั่วร้ายที่สุด!
โดยเฉพาะเสือขาว ที่เขาเป็นถึงแม่ทัพอันดับหนึ่งของหยางเฟิง
เมื่อเกิดเรื่องดังนี้ ความผิดนี้เขาต้องมีส่วนรับผิดชอบ!
ในตอนที่ทราบว่าเจี้ยนเฟิงได้ลักพาตัวหยางพั่นพั่นไป
หยางเฟิงได้ถอนหายใจ
เพราะเขารู้ดีว่า จุดประสงค์ของเจี้ยนเฟิ้งนั้นคือเขา ไม่ใช่หยางพั่นพั่น!
ดังนั้น ตอนนี้หยางพั่นพั่นจึงไม่ได้มีอันตรายมากนัก!
หยางเฟิงมองไปที่เสือขาวและหม่าตงก่อนจะเอ่ย “ข้าบอกแล้วไง ว่านี่ไม่ใช่ความผิดของพวกเจ้า มันเป็นความผิดของข้า!”
เมื่อก่อน พวกเขานั้นคิดมาตลอดว่า เจี้ยนเฟิงมันก็แค่มดตัวน้อยเฉยๆ
ถึงแม้ว่าจางเวยจะถูกฆ่าตาย เจี้ยนเฟิงหนีออกจากหู้ไห่ เพื่อไปขอร้องความช่วยเหลือจากแก๊งเขียว
เมื่อหลังจากตอนที่แก๊งเขียวถูกทำลาย เจี้ยนเฟิงก็เปรียบเสมือนกับสุนัขที่ไร้บ้าน
ทั้งหมดนี้ หยางเฟิงไม่ได้แม้แต่จะสนใจ
เพราะในสายตาของเขา หยางเฟิงมันก็แค่เจ้าหมดหนึ่งตัว
อย่างไรก็ตาม แค่มือเดียวก็สามารถฆ่าเขาได้ด้วยกำมือ ไม่จำเป็นที่จะต้องไปสนใจเขามากนัก