เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 243
ตัวเองสองคนพ่อลูกมาเจอกับเขา ถือว่าดวงซวยอย่างมาก
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ จ้าวหานก็จ้องเขม็งมองจ้าวช่าวหลงไปแวบหนึ่ง
หากไม่ใช่เพราะลูกชายที่ไม่เอาไหนคนนี้ ตัวเองก็คงไม่มามีสภาพแบบนี้เช่นกัน
หากกลับไปแล้ว คงต้องสั่งสอนเขาให้ได้รู้จักหลาบจำซะแล้ว !
เมื่อเห็นสายตาของจ้าวหาน สีหน้าของ จ้าวช่าวหลงก็รู้สึกเสียใจไม่น้อย
แขนและขาของตัวเองถูกทำร้ายซะขนาดนี้ ไม่คิดว่าคนเป็นพ่อก็ยังมามองตัวเองตาเขียวแบบนี้อีก ?
ดูแล้วครั้งนี้ตัวเองคงได้มีชีวิตอันน่ารันทดจริงๆซะแล้ว!
จ้าวหานหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา โทรหาจ้าวเทียนหลงพ่อของตัวเอง
ในตอนนี้
ที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว
จ้าวเทียนหลงกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้โบราณ และกำลังรับประทานอาหารอยู่
เขาเงยหน้าขึ้นแล้วเหลือบมองไปยังพ่อบ้านแวบหนึ่ง ถามเสียงเรียบว่า“ช่าวหลงไปไหน?”
พ่อบ้านลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า“ นายท่าน คุณชายช่าวหลงออกไปเที่ยวแล้วครับ”
“หึ!”
ได้ยินดังนั้น
จ้าวเทียนหลงเค้นเสียงหึออกมา
เขาตั้งชื่อให้หลานชายตัวเองคนนี้ว่าจ้าวช่าวหลง ก็เพื่อหวังว่าเขาจะสามารถสืบทอดเจตนารมณ์ของตัวเอง และนำพาให้ตระกูลจ้าวเจริญรุ่งเรืองในอนาคต
แต่ไม่คิดว่า
หลานชายของตัวเองคนนี้ นอกจากสำมะเลเทเมาทำตัวเกะกะระรานไปทั่วแล้ว ก็ไม่มีความสามารถอื่นอะไรเลย
นี่ก็เพิ่งจะถูกตัวเองสั่งให้อยู่บ้านได้ไม่กี่วัน ตอนนี้ก็อดรนทนไม่ไหวต้องออกจากบ้านไปซะแล้ว ?
หลายปีที่ผ่านมานี้ จ้าวช่าวหลงได้ก่อปัญหาเอาไว้มากมายไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร
หากไม่ใช่เพราะตระกูลจ้าวเกรงว่าคงได้ตายไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
จ้าวเทียนหลงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า“โทรไปหาจ้าวหาน ให้เขาตามลูกชายตัวเองกลับมา ตอนนี้มีเรื่องมากมาย อย่าไปสร้างเรื่องสร้างปัญหาอะไรอีก!”
ตอนนี้ทั้งจินหลิงสถานการณ์กำลังตึงเครียด
ยิ่งในเวลานี้ ก็ยิ่งต้องเก็บเนื้อเก็บตัว
เพราะตระกูลจ้าวเป็นผู้นำของหกตระกูลใหญ่ไม่รู้ว่ามีสายตากี่คู่ที่จับจ้องมองมาที่ตัวเอง
หากมีช่องโหว่อะไรขึ้นมา ก็จะถูกคนจับเอามาเป็นจุดอ่อนแล้วเล่นงานได้!
“ครับ!”
พ่อบ้านไม่กล้าลังเลอะไรอีก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเตรียมจะกดโทรหาจ้าวหาน
และในจังหวะนี้เอง โทรศัพท์มือถือของจ้าวเทียนหลงก็ดังขึ้นมา
กริ๊ง!
จ้าวเทียนหลงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ก็เห็นว่าเป็นสายที่จ้าวหานโทรมา
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พูดอย่างโกรธเคืองว่า“ ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ? ยังไม่รีบพาตัวลูกชายที่ไม่เอาไหนของแกกลับมาอีก อย่าให้เขาไปสร้างเรื่องสร้างปัญหาให้มากนัก หรือแกไม่รู้ ว่าตอนนี้มีเรื่องวุ่นวายมากแค่ไหน?”
หืม ?
จ้าวหานที่อยู่ปลายสายไม่พูดอะไรสักคำ
เพราะตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรแล้ว
เพราะจ้าวช่าวหลงไอ้ลูกเวรคนนี้ ได้ก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมาแล้ว
เมื่อเห็นว่าจ้าวหานไม่พูดอะไรจ้าวเทียนหลงก็พูดอย่างโกรธเคืองว่า“ แกเงียบทำไม ? เป็นใบ้ไปแล้วหรือไง ?”
จ้าวหานพูดตะกุกตะกักว่า“พ่อ ผมกับช่าวหลงเราสองคนอยู่ที่เหม่ยเหว้ยเซวียน……”
ไม่รอให้จ้าวหานได้พูดจบ จ้าวเทียนหลงก็ก่นด่าขึ้นมาทันที“นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว พวกแกยังสุขสำราญกันอยู่ข้างนอกอีก รีบพากันกลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
จ้าวเทียนหลงโกรธจนหน้าดำหน้าแดง
เขาคอยพูดเตือนคนของตระกูลจ้าวอยู่เสมอ ว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคือการอ่อนน้อมถ่อมตน
ไอ้สารเลวสองคนนี้ก็กลับไม่ฟัง ช้าเร็วจะต้องทำลายงานใหญ่ของตระกูลจ้าวเป็นแน่ !
จ้าวหานร้องห่มร้องไห้และพูดว่า“พ่อ เรากลับไปไม่ได้แล้ว ?”
“ทำไม?”
ได้ยินดังนั้น จ้าวเทียนหลงก็ถามด้วยความสงสัย
จ้าวหานร้องไห้คร่ำครวญ“ เพราะขาของผมกับช่าวหลงถูกคนตีจนหักไปแล้ว!”
“อะไรนะ?”
เมื่อได้ยินคำนี้
จ้าวเทียนหลงก็ลุกพรึบขึ้นในทันที
ไอสังหารที่น่าสะพรึงกลัว แผ่ซ่านออกมาจากร่างกาย
พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ แข้งขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปด้วย!
แม้ว่าจ้าวเทียนหลงจะเป็นคนรู้จักประมาณตัว
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนของตระกูลจ้าวจะให้ใครมาข่มเหงได้ง่ายๆแบบนี้ !
จ้าวเทียนหลงกัดฟันพูด“ ใคร ? ฉันจะไปฆ่ามันเดี๋ยวนี้ !”
ต้องบอกว่า ลักษณะพิเศษของตระกูลจ้าวนี้ เป็นอะไรที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นจริงๆ!
จ้าวหานกัดฟันและพูดว่า“หยางเฟิง!”