เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 299
บทที่ 299
เขาเอ่ยถามด้วยความสงสัย : “พี่ชาย หน้าพี่เป็นอะไรไปหรือ ?”
เฉาเจินพูดด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว : “อย่าพูดถึงเลย วันนี้ฉันโดนคนต่อยมา !”
“ว่าไงนะ ?”
เมื่อได้ยิน เฉ่าปิงก็ตกใจ !
ตระกูลเฉา
เป็นอันธพาลท้องที่ที่ฉงโจว !
ส่วนเฉาเจิน
ก็เป็นรองอันธพาล !
ตอนนี้
ถึงกับมีคนกล้าต่อยเฉาเจิน ไม่กลัวตายจริงเลยหรือ ?
เฉ่าปิงเอ่ยถามด้วยความตกใจ : “ที่ฉงโจว มีคนกล้าต่อยพี่ด้วยเหรอ?”
เฉาเจินพูดเจือด้วยความว้าวุ่นใจ : “ฉันคาดว่าเป็นชายที่มาจากต่างถิ่นสองคน วันนี้ตอนฉันไปร้านชุดแต่งงาน……”
จากนั้น
เฉาเจินก็เล่าเรื่องในวันนี้ไปรอบหนึ่ง
หลังจากฟังจบ เฉ่าปิงหัวเราะเอ่ย : “พี่ชาย เรื่องเล็กแค่นี้ ยกให้ผมจัดการ ผมช่วยพี่แก้ไขได้แน่!”
……
วันรุ่งขึ้น
อ่าวจันทรา
เป็นหาดทรายที่มีชื่อเสียงที่สุดใน ฉงโจว!
ทะเลสีมรกตท้องฟ้าสีคราม ยังมีหาดทรายสีทองอร่าม
มองจากไกล ๆ ให้ความรู้สึกที่เบิกบานและผ่อนคลายใจ
การถ่ายครั้งนี้ หลิวซิงในฐานะที่เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ก็เข้าร่วมในนั้นเช่นกัน
หลิวซิงและคนอื่น ๆ ในเวลานี้ก็เริ่มยุ่งกับการก่อสร้างเพิงถ่ายภาพ
หยางเฟิงบอกกับหลิวซิง : “ทิวทัศน์ของสถานที่นี้ไม่เลวเลย อีกเดี๋ยวหลังจากโฆษณาเสร็จ ถ่ายภาพแต่งงานให้ฉันกับภรรยาฉันหน่อย!”
หลิวซิงพยักหน้าพร้อมกับบอก : “คุณหยาง ไม่มีปัญหาครับ!”
พูดจบ
หยางเฟิงก็พาเย่เมิ่งเหยียนอาบแดดด้วยกัน !
แสงแดดอบอุ่น ทะเลสีมรกตท้องฟ้าสีคราม มีสาวงามในอ้อมกอด
ชีวิตเช่นนี้
ยังต้องการอะไรอีก !
ตอนที่หยางเฟิงทอดถอนใจอยู่หลายรอบนั้น
เสียงที่คลุมเครือก็ดังขึ้นมา
“พวกแกทำอะไรอยู่น่ะ ? รีบไสหัวไป ! หาดทรายนี้เป็นของพวกเรา อยากถ่ายภาพที่นี่ ต้องจ่ายค่าใช้บริการ !”
เพียงเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินมา
นำโดยไม่กี่คน ยังลงมือเตรียมจะรื้อเพิงถ่ายภาพ
หลิวซิงรีบวิ่งไปทันที แล้วตะโกนร้องเสียงดัง : “เดี๋ยวก่อน พวกแกทำอะไรน่ะ? นี่เป็นหาดทรายสาธารณะ พวกเราอยากถ่ายก็ถ่าย มีสิทธิ์อะไรที่ต้องจ่ายค่าใช้บริการให้พวกแก ?”
อ่าวจันทรา เป็นหาดทรายสาธารณะ
ไอ้เจ้าพวกนี้ เห็นได้ชัดว่าลักลอบเก็บค่าใช้จ่าย !
ชายหนุ่มผมทรงบัซคัตที่นำหน้า เหลือบมองหลิวซิง พร้อมกับแสยะยิ้มกล่าว : “ไม่จ่ายเงิน ? ไม่จ่ายก็ไสหัวไป ! อย่าหาเรื่องน่าอับอายใส่ตัว !”
หลิวซิงแสยะยิ้มกล่าว : “ถ้าหากว่าพวกเราไม่ล่ะ ?”
เขาเป็นถึงผู้จัดการทั่วไปของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ค่าตัวนับหมื่นนับพัน เคยถูกคนเย้ยหยันขนาดนี้เมื่อไรกัน ?
ชายหนุ่มผมทรงบัซคัตพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึง : “ไม่ไป ? หึหึ ! ไม่ไปงั้นกูจะทุบอุปกรณ์พวกนี้ทั้งหมดของแกให้แหลกละเอียด !”
หลิวซิงพูดด้วยสีหน้าเขียวช้ำ : “พวกแกกล้า? พวกแกกล้าทำตามอำเภอใจ ฉันจะแจ้งตำรวจ !”
การถ่ายโฆษณาวันนี้ สำคัญมาก !
หลิวซิงเลือกวันไว้โดยเฉพาะ
ก็เพื่อ
รออากาศที่ดีที่สุด จึงจะถ่ายออกมาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด !
ตอนนี้ลงมือกับอุปกรณ์ของเขา ก็คือการลงมือกับชีวิตของเขา !
ชายหนุ่มผมทรงบัซคัตแสยะยิ้มกล่าว : “รนหาที่ตาย ! โยนของพวกเขาลงในทะเลให้หมด !”
เมื่อเสียงสิ้นสุดลง
ชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่สองสามคนมาข้างหน้าในทันที
หลิวซิงจึงตะโกนอย่างร้อนใจ : “ปกป้องอุปกรณ์ไว้ ฉันจะสู้กับพวกแก !”
เมื่อแผดเสียงดังแล้ว เขาก็พุ่งตัวไป
ชายหนุ่มผมทรงบัซคัตแสยะยิ้ม
เขาไม่แม้แต่จะมองหลิวซิง ยกขาในทันที
เสียงดัง เอื๊อก !
หลิวซิงปลิวว่อนออกไป
กลิ้งอยู่บนหาดทรายอยู่หลายรอบ
ชายหนุ่มผมทรงบัซคัตจึงจะด่ากราด : “ไอ้สุนัขที่รนหาที่ตาย !”
“กูให้พวกแกอวดดี !”
ชายหนุ่มผมทรงบัซคัตด่าอีกประโยค พลางเตะกล้องวิดีโออย่างโหดเหี้ยม !
ทันใดนั้น
กล้องวิดีโอแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
คราวนี้
ชายฉกรรจ์ร่างกำยำไม่กี่คน หยิบอุปกรณ์ไว้แล้ว เตรียมจะโยนลงในทะเล
“ใครกล้าลงมือ ก็ลองดู?”
จู่ ๆ
น้ำเสียงเย็นยะเยือกของหยางเฟิงก็ดังขึ้น
ชั่วพริบตา
อุณหภูมิในอากาศ ก็ลดลงจนถึงจุดเยือกแข็ง !
ชายหนุ่มผมทรงบัซคัตหันหน้ามา พร้อมหรี่ตามอง
เห็นเพียง
คนที่นำเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง