เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 31
“หนึ่งพันล้าน ครั้งที่สอง!”
“หนึ่งพันล้าน ครั้งที่สาม!”
“ขอแสดงความยินดีกับแขกผู้มีเกียรติห้องรับรองที่หนึ่ง ประมูลวิลล่าหยุนติ่งไว้ได้!”
ท้ายที่สุด หยางเฟิงใช้หนึ่งพันล้านราคาสูงเสียดฟ้า ประมูลวิลล่าหยุนติ่งได้
“ไอ้เหี้ย มึงรอกูไว้เลย กูเอามึงตายแน่!”
เมื่อเห็นว่าการประมูลสิ้นสุดลง เย่ลั่วพูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
สำหรับการข่มขู่ของเย่ลั่ว หยางเฟิงไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย แต่ก็มีรอยยิ้มที่มุมปาก
“สวัสดีครับ คุณผู้ชาย นี่คือกุญแจของวิลล่าหยุนติ่ง”
ไม่นาน พนักงานคนหนึ่งของโรงประมูล ก็เดินมาพร้อมกับถาดหยก
หยางเฟิงหยิบแบล็คการ์ดธนาคารที่มีวงเงินฝากที่หนึ่งหมื่นล้าน รูดไปหนึ่งพันล้านทันที
“หม่าตง การตกแต่งของวิลล่าหยุนติ่ง ก็ให้นายรับผิดชอบแล้วกัน”
หยางเฟิงหันไปมองแล้วพูดหม่าตงที่ตามมา
“ครับ!”
ขณะนี้
หม่าตงอภิมหาเศรษฐีตงไห่ ใบหน้าแสดงความเคารพให้เกียรติ
“คุณหยาง นี่คือโฉนดที่ดิน โฉนดบ้าน กุญแจรถหรูของตระกูลเย่ สัญญาการโอนของเย่ซื่อกรุ๊ป……”
ทันใดนั้น หม่าตงยื่นแฟ้มไปให้หยางเฟิงด้วยสองมืออย่างความเคารพ
นี้เป็นทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเย่
หม่าตงได้รับคำสั่งให้ไปตรวจสอบ
เขาไม่กล้ายักยอกทรัพย์สินเหล่านี้ของตระกูลเย่
หยางเฟิงยื่นมือหยิบมา พูดเรียบ ๆ “คุณทำได้ดีมาก ทีหลังผมจะปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อคุณแน่”
“ขอบคุณครับ คุณหยาง!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของหม่าตงก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
หากได้รับความโปรดปรานจากหยางเฟิง งั้นภายภาคหน้าหม่าตงเลื่อนตำแหน่งพรวดพราดแน่นอน
หยางเฟิงยื่นเอกสารไปให้เสือขาว
สำหรับทรัพย์สินเหล่านี้ของตระกูลเย่ เขาไม่สนใจอยู่แล้ว
แต่ว่า เขายังต้องใช้ประโยชน์บางอย่าง
หลังจากนั้น หยางเฟิงและคนอื่นๆก็ออกจากห้องรับรองไป
“ไอนี่ ที่แท้เป็นมึงนี่เอง กล้าแย่งวิลล่าหยุนติ่งกับกู!”
เมื่อหยางเฟิงและคนอื่น ๆ เดินออกจากห้องรับรองแล้ว เย่ลั่วผู้ซึ่งรอมาเป็นเวลานาน พูดด้วยใบหน้าดุร้าย
“บังอาจ กล้ามาพูดกับคุณหยางแบบนี้ รนหาที่ตาย!”
หยางเฟิงยังไม่ได้พูดอะไร หม่าตงก็ยืนออกมาทันที ประณามด้วยใบหน้าเขียวปั้ด
“ฮึ!”
เย่ลั่วดูถูกเหยียดหยาม พูดด้วยใบหน้ารนหาที่ตาย: “ไอ่พวกงั่งจากตงไห่ รู้ไหมว่าฉันเป็นคนของตระกูลเย่จากเมืองเอก กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับกู พวกมึงตายแน่”
หยางเฟิงขี้เกียจจะสนใจเย่ลั่ว พูดกับหม่าตงอย่างเฉยเมย: “ไอ่ขยะนี้ คุณจัดการด้วย”
หลังพูดจบ หยางเฟิงตามด้วยเสือขาวก็จากไปทันที
“ครับ!”
หม่าตงพยักหน้า มองไปที่เย่ลั่วด้วยสีหน้าเย็นชา
“บอดี้การ์ด จับไอ่นี่ที่รนหาที่ตายให้ฉันตีให้หนักๆ แล้วโยนมันออกไป!”
“ครับ!”
เมื่อพูดเสร็จ บอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งก็วิ่งเข้าไป
“บัดซบ พวกมึงจะทำอะไร? กูเป็นคนของตระกูลเย่จากเมืองเอก ล่วงเกินกู พวกมึงจะต้องเสียใจ… อ่า!”
เย่ลั่วขัดขืนอย่างต่อเนื่อง ผ่านไปไม่นาน ก็ได้ยินเสียงโหยหวนของเขา
จากนั้น เย่ลั่วทั้งคนก็ถูกโยนออกไป
สำหรับการข่มขู่ของเย่ลั่ว หม่าตงไม่ได้เอาไว้ในสายตาเลย
ตงไห่นี้เป็นเขตของเขา เย่ลั่วกล้ามาหาเรื่องที่นี่ ไม่อยากอยู่แล้วจริงๆ!
“ท่านแม่ทัพ ตอนนี้พวกเราจะไปไหน”
เมื่อเดินออกจากโรงประมูล เสือขาวถามอย่างนอบน้อม
หยางเฟิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “มีบ้านแล้ว แน่นอนก็ต้องมีรถ ไป พวกเราไปซื้อรถ!”
ครืน!
เสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่นของรถฮัมเมอร์หลายสิบคันก็เร่งตัวออกไป
……
“สารเลว กูจะฆ่าพวกมึง… อ่า เจ็บจะตายแล้ว…”
หลังจากที่เย่ลั่วถูกทุบตีและโยนออกจากโรงประมูล ก็ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
แค่คิดว่าตัวเองถูกไอ่พวกงั่งแห่งตงไห่ ทุบตีแล้ว มันทำให้ในใจของเย่ลั่วรู้สึกอัดอั้นมาก
เขาเป็นถึงคนตระกูลเย่จากเมืองเอกอันใหญ่โต
แม้แต่ในเมืองเอกก็ยังเป็นคนมีชื่อเสียงอยู่บ้าง
ไม่คิดว่า เพิ่งมาถึงตงไห่ยังไม่ถึงวัน ก็ถูกคนอื่นต่อยตีแล้ว
“ฮึ เพราะคนของตระกูลเย่ตงไห่ทำกู ถ้าไม่ใช่พวกมัน กูก็ไม่มานี่ จะไปคิดบัญชีพวกมันเดี๋ยวนี้!”