เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 407
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 407
หู้ไห่แก๊งเขียวอะไรนั่น
จินหลิงแก๊งฟ้าดินอะไรนั่น
เมืองกาสิโนเจ้าพนันอะไรนั่น
ในสายตาเขา พวกนั้นก็เป็นแค่ขยะกลุ่มหนึ่ง เพียงปัดมือก็สยบมันได้แล้ว!
แต่ว่า…
ตระกูลหลันนี้ กลับอยู่ใต้จมูกเขา
อาศัยอำนาจของเขา กระทำการป่าเถื่อน และสร้างความเดือดร้อน!
การคุกเข่านี้
เขาติดหนี้ชาวเมืองตงไห่!
“ท่านแม่ทัพ…”
ฟึบ!
เสือขาวร่ำไห้ คุกเข่าทรุดลงไปทั้งตัว
ในตอนนี้
ชาวเมืองโดยรอบล้วนตะลึงงัน
“ราชาตงไห่ ลุกขึ้นเถอะ!”
“ราชาตงไห่ ลุกขึ้นเถอะ!”
“ราชาตงไห่ ลุกขึ้นเถอะ!”
ในตอนนี้
ชาวเมืองโดยรอบทุกคน ร่ำไห้พร้อมตะโกนก้อง
หยางเฟิงคือใคร?
คือราชาแห่งตงไห่!
คือเทพแห่งตงไห่!
พวกเขาเป็นเพียงประชาชนคนธรรมดา!
มีคุณธรรมมีความสามารถอะไร ให้ราชาตงไห่มาคุกเข่าให้พวกเขา?
เห็นภาพดังนั้น
น้ำตาของเย่เมิ่งเหยียนอดไม่ได้ที่จะกลิ้งกลอกไหลออกมา
เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไร?
เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะพูดอะไรได้?
เธอมองไปที่เบื้องหลังของหยางเฟิง
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ากำยำแข็งแรงเช่นนี้!
นี่คือผู้ชายของเธอ!
การปฏิบัติต่อศัตรูนั้น โหดร้ายดั่งลมฤดูใบไม้ร่วงที่กวาดพาใบไม้ให้ร่วงหล่น
การปฏิบัติต่อชาวเมือง อ่อนโยนดั่งสายลมฤดูใบไม้ผลิและสายฝน
เธอมองคนไม่ผิด!
เธอแต่งงานไม่ผิดคน!
ผู้ชายแบบนี้ ถึงจะควรค่ากับความรักของเธอไปจนชั่วชีวิต!
หยางเฟิงเงยหน้าขึ้น มองทุกคน กัดฟันพูด : “ไม่! การคุกเข่านี้ เป็นสิ่งที่ฉันสมควรทำแล้ว! ตระกูลหลันเป็นญาติของฉัน อาศัยอำนาจของฉัน เพื่อทำร้ายผู้อื่น!”
“ราชาตงไห่! ตระกูลหลันก็คือตระกูลหลัน ท่านก็คือท่าน นี่ไม่ใช่ความผิดของท่านเลย!”
“ใช่แล้ว นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน!”
“รีบลุกขึ้นเถิด!”
เผชิญหน้ากับกลุ่มชาวเมืองที่น่ารักเช่นนี้
ทันใดหยางเฟิงก็รู้สึกว่า สิ่งที่ตัวเขาทำทั้งหมดนั้นมันคุ้มค่าแล้ว!
เขายิ้มแล้วกล่าว : “เอาล่ะ! ถ้าจะให้ฉันลุกก็ย่อมได้ แต่พวกคุณลุกขึ้นก่อนเถิด!”
“ได้ๆๆ พวกเราลุกขึ้น!”
หลังจากนั้น
ชาวเมืองโดยรอบก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน
หากพวกเขาไม่ลุกขึ้นยืน
หยางเฟิงก็จะไม่ลุกขึ้นยืน
หลังจากที่ทุกคนลุกขึ้นยืนหมดแล้ว
หยางเฟิงถึงจะลุกขึ้นยืน
เขามองไปที่ชาวเมืองทั้งหมด แล้วกล่าวด้ววยใบหน้าเคร่งขรึม : “ฉันรับปากกับพวกคุณที่นี่เลยว่า ฉันจะต้องกำจัดตระกูลหลันก้อนเนื้อร้ายนั่นให้ได้ ฉันสาบาน!”
ในตอนนี้
ในใจของหยางเฟิงที่มีต่อตระกูลหลันเต็มไปด้วยความอาฆาต!
ตระกูลที่น่ารังเกียจเช่นนี้
นับว่าเป็นญาติของตนแล้วยังไง?
เขาจะต้องสยบตระกูลหลันให้จงได้!
แปะแปะแปะ!
ทันใด
เสียงปรบมือรอบๆดังเกรียวกราวราวกับสายฟ้าฟาด
ทุกคนรู้ดี
หยางเฟิงจะไม่หลอกลวงพวกเขา!
มีหยางเฟิงอยู่ พวกเขาจะได้อยู่อย่างสุขสงบในตงไห่!
หยางเฟิงหันกลับมาพูดกับเสือขาวว่า : “เสือขาว แกไปจดบันทึกเรื่องที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมของทุกคน จากนั้นฉันจะไปคุยกับตระกูลหลันทีละเรื่องๆ!”
“ครับ!”
เสือขาวก้าวออกไปทันที จดบันทึกเรื่องของชาวเมืองรอบๆที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
เขารู้ ว่าตระกูลหลันมันสารเลว!
“ที่รักคะ!”
ตอนนี้
เย่เมิ่งเหยียนเดินเข้ามา สวมกอดหยางเฟิงจากทางด้านหลัง กระซิบเสียงเบาด้วยความรู้สึกผิด : “ขอโทษนะคะ! ที่คนของคุณตาฉัน ร้ายกาจจนคุณต้อง…”
เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดอะไรดี
ราวกับว่าคำพูดนับพันนับหมื่นคำ ล้วนยากจะบรรยายความละอายในใจของเธอ!
หยางเฟิงจับกระชับสองมือของเย่เมิ่งเหยียนไว้แน่น หันกายกลับมา มองหน้าเธอด้วยความอ่อนโยนแล้วกล่าว : “ยัยบื้อเอ้ย! สามีคุณก็คือสามีคุณ ผมจะไปโกรธคุณเพราะพวกเขาได้อย่างไร ในใจของผม คุณแสนดีมากๆมาตลอด…”
“คุณคะ!”
ไม่รอให้หยางเฟิงพูดจบ
เย่เมิ่งเหยียนสะกดกลั้นความรู้สึกในใจของตนเองไว้ไม่อยู่
กล่าวเสียงดัง แล้วทิ้งตัวลงในอ้อมกอดของหยางเฟิง
น้ำตาพรั่งพรูออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่!
หยางเฟิงลูบผมของเย่เมิ่งเหยียนอย่างรักใคร่เอ็นดู
ในตาสองตา เต็มไปด้วยความรัก