เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 435
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 435
หลันซินไม่ใช่ว่าเหมือนกับหมาตัวหนึ่ง ที่พึ่งพาอาศัยตระกูลหลันหรอกหรือ
ตอนนี้พึ่งพาตนเองจนเจริญรุ่งเรือง
คนทั้งคนลอยขึ้นมา
แม้แต่ตนเองก็แยกไม่ออกว่าเป็นคนหรือเป็นผี?
“แกๆๆ……”
“กล้ามาก! กล้ามาก!”
“หยางเฟิง ไอ้สารเลวกล้าดียังไงมาพูดกับฉันอย่างนี้ แกมันบ้าไปแล้วจริงๆ!”
ในช่วงเวลานี้
หลันซินโกรธจนควันออกหู
คาดไม่ถึงเลยว่าหยางเฟิงจะด่าเธอว่ากินขี้
นี่จะให้เธอทนได้อย่างไร?
หากไม่ให้บทเรียนแก่เขา
ต่อไปตรเองจะอยู่บ้านหลังนี้ได้อย่างไร?
ในชั่วพริบตา หลันซินก็กรีดร้องออกมาด้วยใจเต้นระรัว!
“แม่ คุณพอได้แล้ว!” ในที่สุดเย่เมิ่งเหยียนก็ทนไม่ไหว
เธอลุกขึ้นยืน ตวาดออกมาอย่างจงเกลียดจงชัง : “คุณโวยวายพอแล้วหรือยัง? คุณโง่หรือเปล่า? ถ้าไม่มช่เพราะหยางเฟิง เราจะมีตระกูลเย่เหมือนดังวันนี้เหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเฟิง คุณจะสามารถมาอาศัยอยู่ในวิลล่าหยุนติ่งได้เหรอ?”
“คุณต้องการจะขับไล่หยางเฟิงออกไปงั้นเหรอ? หรือว่าในใจของคุณ ไม่ทราบสักนิดเลยเหรอ?”
เย่เมิ่งเหยียนร้องไห้ออกมาด้วยความโกรธ!
หลันซินตาบอดหรือไง?
หรือว่าไม่มีสมองจริงๆ!
คนโง่ยังสามารถมองความเป็นจริงออกไปเลย!
หรือว่าเธอรู้
ที่ตระกูลเย่สามารถมีวันนี้ได้ ล้วนเป็นเพราะหยางเฟิงไม่ใช่เหรอ?
บางทีหลันซินอาจจะเคยชินกับการเผด็จการกับหยางเฟิงมาตลอด
ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ วันนี้ตระกูลเย่ก็เป็นสิ่งที่หยางเฟิงให้มา
แต่ในใจของเธอ ท้ายที่สุดก็ไม่เชื่อเรื่องทั้งหมดนี้
พูดอย่างไม่น่าฟัง คือเธอหลอกตนเองอยู่!
เผชิญหน้ากับแม่ที่พูดจาหยาบคาย ไร้เหตุผลแบบนี้
เย่เมิ่งเหยียนรู้สึกอิดหนาระอาใจจริงๆ
จู่ๆ เธอก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย
ในตอนนั้นที่ตนเองมาเกิด ทำไมถึงได้ตาบอด ทำไมถึงโยนเข้าไปในท้องของหลันซินนะ?
“บ้า! บ้าไปแล้ว! พวกคุณบ้าไปแล้ว……”
เห็นเย่เมิ่งเหยียน ลูกสาวของตนเอง พูดกับตนเองอย่างไม่เกรงกลัวแบบนี้ หลันซินก็ตกตะลึง พูดพึมพำกับตนเอง
ลูกสาวประพฤติตัวดี และเชื่อฟังตนเองเสมอมา
คาดไม่ถึง ว่าจะพูดกับตนเองอย่างนี้?
ในฉับพลัน
หลันซินมองหยางเฟิงด้วยใบหน้าอาฆาตแค้น
เป็นเพราะเขา!
ทั้งหมดเป็นเพราะเขา!
ถ้าไม่ใช่หยางเฟิง
ลูกสาวของตนเองคงไม่เปลี่ยนกลายเป็นเช่นนี้หรอก!
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหยางเฟิงที่ทำลายมัน!
เห็นแววตาที่อาฆาตแค้นของหลันซิน
หยางเฟิงไม่พูดจา
จนกระทั่งเวลานี้
หลันซินก็ยังคงไม่ตระหนักถึงความผิดพลาดของตนเอง
ถ้าไม่ใช่เห็นว่าเธอเป็นแม่ของเย่เมิ่งเหยียน
หยางเฟิงอยากจะดึงเธอมาตบแรงๆ หนึ่งทีซะจริงๆ เลย!
แม่งเอ้ย!
บางครั้ง ก็อดทนจนปวดท้องเลยจริงๆ
F*ck!
เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี หลันเฟิงก็รีบลุกขึ้นยืน กล่าวตำหนิด้วยสีหน้าโกรธเคือง : “หยางเฟิง เย่เมิ่งเหยียน! เพื่อสองคนนี้ที่ไม่ได้รู้จักกันดี พวกคุณก็พูดจากับแม่แบบนี้เลยเหรอ? ฉันในฐานะที่เป็นลุงของพวกคุณ ฉันรู้สึกเกลียดชังจริงๆ!”
พูดจบ
หลันเฟิงแสดงสีหน้าเจ็บปวดใจ
หยางเฟิงหัวเราะเยาะ
การแสดงของไอ้แก่นี่ไม่เลวเลย!
หลังจากนั้น หยางเฟิงก็เดินเข้าไป
ดวงตาทั้งคู่ของเขา ราวกับคมมีดอันเยือกเย็น จ้องมองหลันเฟิงอย่างแน่นขนัด
“หลันเฟิง เดิมทีแล้วฉันคิดจะตามหาคุณเพื่อสะสางบัญชี ไม่คิดเลยว่าคุณจะกระโดดออกมาซะเอง!”
“ก็ดี! คุณบอกว่าพวกเธอคือคนไม่รู้จัก เช่นนั้นก็แหกตาหมาๆ ของคุณดูให้ชัดเจนอีกที ว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเธอคือใคร?”
ทันใดนั้น
หยางเฟิงใช้นิ้วมือชี้ไปทางแม่ลูกโจวซู่เอ๋อร์ แล้วตะคอกเสียงดัง
หลันเฟิงมองแม่ลูกโจวซู่เอ๋อร์อย่างละเอียดถี่ถ้วน และกล่าวด้วยใบหน้าเหยียดหยาม : “ยาจกคนหนึ่ง เด็กโง่คนหนึ่ง กูจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเธอเป็นใคร?”
คำพูดนี้
หลันเฟิงพูดตามความจริง
เขาไม่รู้จักแม่ลูกโจวซู่เอ๋อร์จริงๆ
ตนเองเป็นคนควบคุมตระกูลหลัน
โดยทั่วไปแล้วเขาไม่ได้รับผิดชอบต่อเรื่องละเอียดอ่อนเช่นนี้
ไม่รู้จักแม่ลูกโจวซู่เอ๋อร์ ก็เป็นเรื่องปกติ!
“คุณไม่รู้จัก แน่นอนว่ามีคนที่รู้จักดี!”