เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 441
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 441
หยางเฟิงกล่าวยิ้มๆ : “แน่นอน!”
“แต่ ในเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ผมขอพูดอะไรสักประโยคหนึ่ง”
พูดไป สีหน้าของหยางเฟิงก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขากล่าวด้วยเสียงเย็นเยียบ : “ทำเรื่องผิดศีลธรรมมากๆสุดท้ายมันก็จะกลับมาทำลายตัวเอง! คนกำลังทำ ฟ้ากำลังเฝ้าดู! เรื่องพวกนั้นที่พวกคุณทำ ไม่ช้าก็เร็วน้ำลดตอก็จะผุด! ถ้าอยากไถ่โทษ ก็ควรยอมจำนนรีบรับสารภาพ อาจจะยังพอมีทางรอดก็ได้!”
ได้ยินดังนั้น
ในใจหลันเฟิงสั่นไหว
เขารู้สึกถึงเจตนาสังหารอันเย็นเยียบดุจน้ำแข็งจากคำพูดของหยางเฟิง
ดูแล้ว
หยางเฟิงปล่อยเขาไปแค่ชั่วคราว
สุดท้าย
หยางเฟิงก็จะยังจัดการกับเขา!
ไอ้เดรัจฉานชาติชั่วเอ้ย!
หรือว่าเขา
ไม่มีความเป็นมนุษย์เลยสักนิด ไม่สนใจความสัมพันธ์ในครอบครัวเลยงั้นหรือ?
น่าเสียดาย
ที่หลันเฟิงไม่ได้เห็น
ว่าบนความมั่งคั่งอันโชกเลือดของเขา มีกระดูกของผู้คนมากมายถูกฝังอยู่!
หลันเฟิงตะคอกเสียงเย็น กลบเกลื่อนความไม่สงบในใจ: “ผมไม่รู้ ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร? ไม่รู้จริงๆว่าคุณพูดอะไร!”
“พวกเรา ไป!”
เขาตะโกนเสียงดัง
หลันเฟิงพาหลันจื่อและพวก ออกไปอย่างเร่งรีบ
ในท้ายที่สุด
โจวห้าวหันมา เหลือบมองหลันฮ๋าวอย่างเห็นใจ
ในใจเขารู้ดี
ตั้งแต่วันนี้ไป หลันฮ๋าวจบเห่แล้ว!
เสียงระฆังแห่งความตายของตระกูลหลัน ก็ดังขึ้น…
ครู่เดียว
ภายในบ้านเหลือเพียงหลันฮ๋าวที่หน้าหมองหม่น คุกเข่าอยู่กับพื้น รวมไปถึงเสือโบราณที่นอนอยู่บนพื้น และทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด
หยางเฟิงเหลือบมองคนทั้งสอง ด้วยใบหน้าชิงชังรังเกียจ
เขากวักมือเล็กน้อย : “เข้ามา ลากพวกเขาออกไป!”
เสือโบราณรีบตะโกน : “คุณหยาง ผมสำนึกผิดแล้ว ปล่อยผมไปสักครั้งเถอะนะครับ…”
ไม่ว่าเสือโบราณจะร้องคร่ำครวญอย่างไร
หยางเฟิงก็ไม่สะทกสะท้าน
ส่วนหลันฮ๋าว ไม่พูดไม่จาแม้แต่ประโยคเดียว
เขารู้ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ตัวเขาก็มีเพียงหนทางเดียวคือตาย!
อย่างไรเสียก็ต้องตาย
จะพูดให้เปลืองน้ำลายไปทำไม?
หลังจากหลันฮ๋าวและพวกถูกลากตัวออกไป
เย่เมิ่งเหยียนยืนขึ้น กล่าวเสียงต่ำ : “ที่รักคะ คุณคิดจะปล่อยครอบครัวของคุณลุงฉันไปแล้วใช่ไหมคะ?”
ก่อนหน้านี้ เย่เมิ่งเหยียนไม่พูด
เพราะเธอไม่รู้จะพูดอะไร
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร หลันเฟิงก็เป็นคุณลุงของเธอ
ในใจ
เย่เมิ่งเหยียนไม่ได้อยากให้ครอบครัวของหลันเฟิงถึงตาย
แต่ในขณะเดียวกัน
เธอก็รู้ดี สิ่งที่หลันเฟิงและพวกทำลงไปมันร้ายแรงมาก!
ถ้าเธอขอความเมตตาปราณี งั้นชาวเมืองที่ถูกพวกเขาทำร้าย จะยอมหรือ?
เธอเอาสองตัวเลือกนี้ ส่งต่อให้หยางเฟิง
ดูแล้วตอนนี้ หยางเฟิงเหมือนว่าจะ…ปล่อยครอบครัวของหลันเฟิงไป?
นี่มันไม่สอดคล้องกับวิธีของหยางเฟิงเลย
ควรรู้ไว้ว่า
หยางเฟิงปฏิบัติต่อศัตรู ราวกับลมแรงที่พัดให้ใบไม้ร่วงในฤดูใบไม้ร่วง
ไม่มีความเมตตาปราณีแม้สักนิด!
สิ่งที่เขาเกลียดที่สุด ก็คือการกดขี่ข่มเหงชาวบ้าน!
ได้ยินดังนั้น หยางเฟิงก็กล่าวยิ้มๆด้วยเสียงเรียบ : “เป็นแค่ตั๊กแตนหลังฤดูใบไม้ร่วง ปล่อยๆมันไป ก็คงเดินเตร่อยู่ได้ไม่กี่วันหรอก!”
“เฮ่ออ…”
ได้ยินอย่างนั้น ในใจของเย่เมิ่งเหยียน อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวๆออกมา
ดูแล้ว
สุดท้ายสามีของตน ก็ยังไม่คิดจะปล่อยครอบครัวของหลันเฟิงไปอยู่ดี
แต่ทั้งหมดนี้ ก็เป็นโทษที่หลันเฟิงและพวกสมควรได้รับ!
ครู่เดียว
เย่เมิ่งเหยียนมีความคิดมากมายในหัว อารมณ์สับสัน!
ในขณะเดียวกัน
หลันซินกำลังมองเช็คเงินสดหนึ่งร้อยล้านในมือของโจวซู่เอ๋อร์ แววตาเต็มไปด้วยความโลภ
เธอไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้น
สำหรับเธอแล้ว
เรื่องยุ่งเหยิงระหว่างหยางเฟิงและหลันเฟิง เธอไม่ได้สนใจเลย
เธอสนใจแค่เงินเท่านั้น!
เพียงเห็นหลันซินเดินอาดๆไปที่ด้านหน้าโจวซู่เอ๋อร์ ยื่นมือออกไป กล่าวเสียงแข็ง : “เอาเงินมาให้ฉัน!”
จากนั้น
เธอพูดด้วยใบหน้าหยามเหยียด : “คนชั้นล่างอย่างหล่อน เป็นเจ้าของเงินร้อยล้าน ตลกสิ้นดี!”
“ฉัน…”
ได้ยินคำพูดของหลันซิน
โจวซู่เอ๋อร์รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ
สำหรับเธอ ตนเองไม่เหมาะที่จะครอบครองเงินร้อยล้านจริงๆ