เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 450
มีหม่าตงออกโรง
เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเลย!
ในขณะเดียวกัน
ณ สถานพักฟื้นตงไห่
ที่นี่คือศูนย์พักฟื้นที่เป็นเลิศที่สุดในตงไห่
ไม่เพียงมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ยิ่งไปกว่านั้นคือการบริการที่เอาใจใส่
มีเจ้าหน้าที่เฝ้าดูแลโดยเฉพาะ ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
และยังมีแพทย์ส่วนตัวโดยเฉพาะเป็นต้น
เรียกได้ว่า มีทุกอย่างพร้อมสรรพ!
คนชราที่จะสามารถอยู่ที่นี่ได้
ล้วนเป็นพวกคนมีเงินมีอำนาจ
คนธรรมดา ไม่มีคุณสมบัติจะอยู่ที่นี่อย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้
ภายในศาลาไสตล์จีนหลังหนึ่งในสถานพักฟื้น
เย่เทียนกำลังเล่นหมากรุกอยู่กับหลันเจิ้น
จะว่าไปนี่ก็เป็นเรื่องตลก
เย่เทียนและหลันเจิ้นนับเป็นญาติดองกัน
และในขณะเดียวกัน ก็เป็นศัตรูกันมาก่อน
ว่าด้วยเรื่องของหลันซิน
สองตระกูลมีปัญหากันไม่น้อย
ตั้งแต่เย่กวงและพวกตายไป
เย่เทียนก็ถูกเย่ไห่ส่งมาที่นี่
หลังจากหลันเจิ้นส่งต่อเรื่องทั้งหมดให้หลันเฟิงแล้ว ก็มาอยู่ที่นี่ด้วย
ฝั่งหนึ่งเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในตงไห่ ที่ตอนนี้เป็นบิดาของผู้นำตระกูลเย่
ฝั่งหนึ่งเป็นตระกูลชั้นยอดในตงไห่ ผู้นำตระกูลหลัน
เย่เทียนและหลันเจิ้น มีสถานะที่ไม่มีใครเทียบได้ในศูนย์พักฟื้นแห่งนี้!
ทั้งคนดูแลทั้งผอ.ศูนย์ก็ประจบประแจง ราวกับฮ่องเต้!
“เหอะๆ คุณหลัน ถ้าคุณยังไม่เดินอีก ผมจะกินม้าของคุณ แล้วโจมตีขุนของคุณ!”
ตอนนี้
เย่เทียนมองไปที่หลันเจิ้น ยิ้มเผล่แล้วกล่าว
ก่อนหน้านี้ เย่เทียนป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองและเป็นอัมพาต
หลังจากเย่ไห่เชิญแพทย์ดังจากต่างประเทศมาดูแลรักษา ตอนนี้ก็ฟื้นตัวขึ้นมากแล้ว
แม้จะมีปัญหาการเดินอยู่บ้าง
แต่การพูด และด้านอื่นๆ เบื้องต้นไม่ได้มีปัญหาอะไร
“จะกินม้าของผมน่ะ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก รุกฆาต!”
หลันเจิ้นหัวเราะเบาๆ หมากในมือร่วงหล่นลงไป
ฮึ่ม?
เย่เทียนนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
เจ้าจิ้งจอกแก่นี่ มีฝีมือเหมือนกันนี่
จากนั้น เขายิ้มพร้อมกล่าวถามเสียงเรียบ : “เจ้าจิ้งจอกแก่ คุณส่งต่อเรื่องทั้งหมดให้หลันเฟิงแล้วจริงหรือ? ใช้ชีวิตบั้นปลายจนครบอายุขัย ไม่คิดจะออกไปอีกแล้ว?”
หลันเจิ้นยิ้มเล็กน้อย : “ตอนนี้ผมแก่แล้ว ถ้าไม่ส่งต่อให้เขาแล้วจะทำอย่างไรล่ะ? ถึงแม้หลันเฟิงจะโง่อยู่นิดหน่อย แต่ยังไงก็เป็นลูกชายผมน่ะนะ!”
แก่แล้ว?
ในใจของเย่เทียนยิ้มเย็น
หลันเจิ้นคนนี้อายุน้อยกว่าเขาตั้งกี่ปี
เขายังไม่เชื่อ ว่าหลันเจิ้นจะยอมรับความแก่เร็วขนาดนี้
“หึๆ!”
เย่เทียนหัวเราะเบาๆ กล่าวอย่างเก็บซ่อนความคิดบางอย่าง : “อย่างคุณตอนนี้เขาเรียกว่ายิ่งแก่ยิ่งแกร่ง นับว่าแก่ที่ไหนกัน? กิจการตระกูลหลันใหญ่โตขนาดนั้น ถ้าส่งต่อให้หลันเฟิงทั้งหมด คุณวางใจได้จริงหรือ?”
ใต้หล้านี้ไม่มีกำแพงใดที่ลมผ่านไม่ได้
เรื่องชั่วร้ายพวกนั้นที่ตระกูลหลันทำ เย่เทียนก็ได้ยินมาบ้าง
โบราณว่าไว้ได้ดีว่า ทำเรื่องเลวทรามไว้มากสุดท้ายก็ย้อนมาฝังกลบตนเอง
ไม่ช้าก็เร็วต้องมีสักวันที่ตระกูลหลันจะโดนกรรมตามสนอง!
ในมุมมองของเย่เทียน
หลันเจิ้นหลบอยู่ในศูนย์พักฟื้น นอกจากใช้ชีวิตบั้นปลายแล้ว
ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญ ก็คือการตัดขาดกับตระกูลหลัน
ต่อไปถ้าตระกูลหลันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็จะไม่เกี่ยวอะไรกับหลันเจิ้นทั้งนั้น
“ฮ่าๆๆ!”
“คุณคนแก่นี่!” หลันเจิ้นหัวเราะ : “วันๆหนึ่ง จะมาสงสัยอะไรเล่า! ผมวางใจอยู่แล้ว! ว่าแต่คุณเถอะ ตอนนี้ตระกูลเย่เป็นตระกูลอันดับหนึ่งในตงไห่ ยิ่งเฟิงเมิ่งกรุ๊ปขยายไปนอกตงไห่ มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ ส่งต่อตระกูลเย่ไว้ในมือเย่ไห่ เฟื่องฟูขึ้นมากเลยนะ!”
พริบตาเดียว
ราวกับเข็มเย็นเยียบทิ่มเข้ามา แบบไม่ได้รับเชิญ!
ในปีนั้น
ตอนที่เย่เทียนเป็นผู้นำตระกูลเย่ เย่ไห่เป็นคนที่ได้รับความรักจากเขาน้อยที่สุด
แต่ตอนนี้
เย่ไห่เป็นผู้นำตระกูลเย่แล้ว
ตระกูลเย่ไม่เพียงกลายเป็นตระกูลระดับท็อป ยังเป็นตระกูลอันดับหนึ่งอีกด้วย!
แม้ว่าเย่เทียนไม่เต็มใจที่จะยอมรับ
แต่ในความจริงแล้ว เย่ไห่แข็งแกร่งกว่าเขา!
คำพูดของหลันเจิ้น ราวกับฟาดฝ่ามือ ลงบนใบหน้าของเย่เทียนอย่างแรง!
ได้ยินดังนั้น
ในใจของเย่เทียนหัวเราะเสียงเย็น
ทั้งสองคนล้วนเป็นจิ้งจอกแก่พันปีกันทั้งคู่