เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 461
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 461
ฟู๋โป๋รีบกล่าวเสียงดังว่า : “นายท่าน……ท่านเข้าไปอย่างนี้จะดีจริงๆ เหรอครับ? ถ้าถูกคุณชายรู้เข้า เกรงว่า……”
เมื่อพูดถึงประโยคหลัง ฟู๋โป๋ก็พูดต่อไม่ได้
จากการตรวจสอบของเขา
เย่เมิ่งเหยียนกับหยางพั่นพั่นสองคนนี้ ล้วนเป็นต่อมโกรธของหยางเฟิง
หยางติ่งเทียนมาพบหยางพั่นพั่นโดยพลการ ช่างใจกล้าอย่างมาก
ตอนนี้ยังต้องการไปพูดคุยกับหยางพั่นพั่น
นี่เป็นการรนหาที่ตายจริงๆ!
หยางติ่งเทียนกล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ : “ฉันจะไปหาหลานสาวของฉัน ยังต้องได้รับความยินยอมจากไอ้เด็กบ้านั่นด้วยเหรอ? มิหนำซ้ำ ฉันก็มาที่นี่แล้ว หลานสาวฉันอยู่ไม่ไกล ฉันเป็นคุณปู่ หรือว่าไม่ควรจะไปพูดคุยกับเธองั้นเหรอ?”
“เอ่อ……”
ฟู๋โป๋ไม่รู้ว่าควรจะห้ามปรามอย่างไรดี!
คู่แค้นพ่อลูกคู่นี้ เข้าใจผิดกันอย่างมาก……
อีกทั้ง
หยางเฟิงลูกชายคนนี้ ไม่เคยยอมรับว่าเขาเป็นพ่อด้วยซ้ำ
ตอนนี้คุณกลับไปหาโดยอาศัยฐานะคุณปู่ ไปพบหยางพั่นพั่น
ความรู้สึกที่เหนือกว่าของตนเองแข็งแกร่งเกินไปแล้วหรือเปล่า?
“หึ!”
หยางติ่งเทียนทำเสียงเย้ยหยัน จากนั้นใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เดินไปหาหยางพั่นพั่นอย่างดีใจเป็นพิเศษ
ฟู๋โป๋ส่ายหัวอย่างจนปัญญา ทำได้เพียงตามไปเท่านั้น
“สวัสดี พั่นพั่น!”
หยางติ่งเทียนยิ้มและทักทายหลานสาวของตนเอง
หยางพั่นพั่นพินิจพิเคราะห์หยางติ่งเทียนอย่างแปลกใจ สายตาอันเฉียบแหลมกลิ้งไปมา กล่าวอย่างไม่เข้าใจ : “คุณปู่ สวัสดีค่ะ! ทำไมคุณถึงรู้ชื่อของหนูด้วยละคะ?”
“หลีกทางด้วย คนที่ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้าใกล้!”
เมื่อหยางติ่งเทียนกำลังจะตอบกลับ
บอดี้การ์ดสองสามคนก็เดินเข้ามาขวางเขาเอาไว้
สีหน้าของหยางติ่งเทียน เคร่งขรึมลงอย่างฉับพลัน : “ไอ้พวกลูกหมาสองสามตัวนี่กล้ามาขวางทางกู ไสหัวออกไปเลย!”
เขาเป็นผู้นำตระกูลหยางผู้สง่าผ่าเผย
ยังมีอำนาจมหาศาลในจงโจว
เมื่อไหร่กัน ที่ถูกบอดี้การ์ดสองสามคนมาขวางทาง และต่อว่า!
“ไอ้แก่ แกรนหาที่ตายแล้ว!”
ในฉับพลัน
บอดี้การ์ดสองสามคนนั้นก็มีสีหน้าดุร้ายขึ้นมา
แต่หยางพั่นพั่นเป็นไข่มุกในมือของราชาตงไห่!
หากหยางพั่นพั่นเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เช่นนั้นพวกเขาตายไปร้อยครั้งก็ไม่สามารถชดเชยได้!
เมื่อคิดถึงตรงนี้
บอดี้การ์ดสองสามคนนั้นก็ก้าวไปข้างหน้า ต่อว่าด่าทอต้องการไล่หยางติ่งเทียนออกไป!
และในชั่วพริบตา
ดวงตาทั้งคู่ของหยางติ่งเทียน ได้ปลดปล่อยความอำมหิตออกมา
กี่ปีแล้ว?
กี่ปีแล้ว ที่ไม่มีใครกล้าด่าทอตนเอง!”
ถึงแม้จะอยู่ในตระกูล นายท่านของติ่งเทียนเหล่านั้น ก็ยังไม่กล้าตำหนิตนเองเช่นนี้เลย!
บอดี้การ์ดสองสามคนนี้ ไม่รู้ที่ตายเลยจริงๆ!
“กล้ามาก คาดไม่ถึงว่าจะกล้าหยาบคายกับนายท่านของฉัน ไปตายซะ!”
ไม่รอให้หยางติ่งเทียนได้กล่าว
ฟู๋โป๋ก็พุ่งตัวออกมา
คำพังเพยกล่าวเอาไว้ว่า กษัตริย์ได้รับความอับอายขุนนางก็ไม่คำนึงถึงความตาย!”
บอดี้การด์สองสามคนนี้ กล้าด่าประจานหยางติ่งเทียน
ก็คือเขา
ความอัปยศอดสูของพ่อบ้านอันดับหนึ่งในจงโจวแห่งนี้!
พรึ่บ!
ความเร็วของฟู๋โป๋ นั้นรวดเร็วอย่างมาก
คำพูดจบลง
ตุบ!
ตุบ!
ตุบ!
ได้ยินเสียงดังขึ้นสองสามครั้ง
ฉับพลันบอดี้การ์ดสองสามคนนั้นก็ลอยออกไป และล้มลงบนพื้นอย่างแรง
“หยุด!”
ฟู๋โป๋กำลังก้าวไปข้างหน้า ต้องการจะฆ่าบอดี้การ์ดสองสามคนนั้น
หยางติ่งเทียนก็ร้องปรามเขาไว้
ฟู๋โป๋หันกลับมา กัดฟันกล่าวว่า : “นายท่าน คนเหล่านี้กล้าดูหมิ่นท่าน ถึงตายก็ไม่สาสมกับความผิดหรอก!”
“เฮ้อ……”
หยางติ่งเทียนถอนหายใจ : “ช่างเถอะ! เห็นแก่ไอ้เด็กบ้านั่น ไว้ชีวิตไอ้สวะเหล่านี้ไป!”
ถ้าปกติแล้ว
มีคนกล้ามาดูหมิ่นตนเองแบบนี้
หยางติ่งเทียนคงฆ่าเขาไปนานแล้ว!
แต่บอดี้การ์ดเหล่านี้ อย่างไรเสียก็เป็นคนของหยางเฟิง
เดิมทีแล้วความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของพวกเขาไม่ค่อยดีอยู่แล้ว
หากไปฆ่าบอดี้การ์ดเหล่านี้อีก
หยางเฟิงจะต้องโกรธแค้นอย่างแน่นอน
พูดได้ว่าสำหรับความสัมพันธ์พ่อลูกของพวกเขา ก็ยิ่งหมดหนทางเยียวยาแก้ไข!
และที่สำคัญที่สุดก็คือ
หยางติ่งเทียนไม่อยากฆ่าคนต่อหน้าหลานสาวของตนเอง
เขาอยากรักษาภาพลักษณ์ต่อหน้าหยางพั่นพั่น ว่าเป็นคุณปู่ผู้เมตตาและอ่อนโยนเอาไว้
เมื่อได้ยินคำพูดนี้