เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 467
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 467
ได้ฟังคำพูดนี้
ฟู๋โป๋ก็พูดไม่ออก
อย่างไรเสียท่านก็เป็นลูกพี่
ท่านพูดอะไรก็ต้องทำอย่างนั้น!
หยางติ่งเทียนบอกว่าจะไม่อยู่ต่อ
ในเย็นวันนั้น ก็ได้นั่งเที่ยวบินพิเศษออกจากตงไห่ไป!
ความมืดในยามราตรี
ค่อยๆ ย่างกรายเข้ามา
ในเวลานี้
โลกถูกปกคลุมอยู่ในความมืดมิด
ด้านนอกวิลล่าจวู้เสียน เงียบสงบเป็นพิเศษ
เป็นความเงียบที่น่าแปลกประหลาด
แม้กระทั่งเสียงของแมลงก็ไม่มี!
ทันใดนั้น
ในยามค่ำคืน
ภาพเงาของคน เดินออกมาจากความมืดมิด
บนใบหน้าของพวกเขาสวมหน้ากาก
เผยให้เห็นดวงตาที่เย็นชาเท่านั้น
ในยามราตรี ราวกับดวงตาของหมาป่า เปล่งแสงสีเขียวอันกระหายเลือดออกมา!
“พ่อ ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว รอแค่คุณสั่งเท่านั้น!”
ใบหน้าของหลันจื่อกล่าวด้วยความดีใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอผ่านประสบการณ์เรื่องราวที่น่าตื่นเต้นแบบนี้
ทำให้เธอรู้สึกฮึกเหิมเล็กน้อย
เมื่อเทียบความตื่นเต้นของหลันจื่อ
หลันเฟิงที่อยู่ข้างๆ ดูสงบเงียบกว่ามาก
สงครามนี้ จะต้องชนะห้ามพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาด
มิเช่นนั้น หลันเจิ้นคงจะไม่ยกโทษให้เขาอย่างแน่นอน
เมื่อถึงตอนนั้น ตำแหน่งของผู้นำตระกูลหลัน คงไร้วาสนาต่อเขาแล้ว!
เพื่อที่จะฆ่าหม่าตงในครั้งนี้
หลันเฟิงได้ระดมทั้งหมดของตระกูลหลัน
คนเหล่านี้
ล้วนเป็นปรมาจารย์ที่ตระกูลหลันแอบฝึกฝนอย่างลับๆ มาหลายปี
ทุกๆ คน เหนือกว่าปรมาจารย์ฮั่วจิ้งอีกด้วย
อีกทั้ง ทุกๆ คนยังเต็มไปด้วยความกระหายเลือด
หลันเฟิงไม่สนใจหลันจื่อ แต่หันกลับไปมองโจวห้าวที่อยู่ข้างๆ : “เรื่องนี้ตรวจสอบชัดเจนแล้วใช่ไหม?”
โจวห้าวกล่าวอย่างเคารพ : “ครับพ่อ ฉันตรวจสอบชัดเจนแล้ว! หยางเฟิงไม่ได้อยู่ที่วิลล่าจวู้เสียน มีเพียงหม่าตงและคนอื่นๆ เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นกองกำลังสำคัญของหม่าตง ตอนนี้เฝ้าระวังอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ในวิลล่ามีคนไม่มากนัก”
ถ้าหยางเฟิงไม่อยู่ที่วิลล่าจวู้เสียน ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น
ศักยภาพที่น่าสะพรึงกลัวของหยางเฟิง ได้ทิ้งเงามืดไว้ให้หลันเฟิง
แม้จะรวบรวมพลังของทั้งตระกูลหลัน เกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฟิง!
ได้ยินเช่นนั้น
หลันเฟิงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ดวงตาทั้งคู่เผยแสงของความกระหายเลือดออกมา!
โบกมือหนึ่งที!
พรึ่บ!
ร่างที่ประกายออร่าสังหารอันน่าสะพรึงกลัว รวมตัวเข้าหาที่เขา
เพื่อให้การต่อสู้ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ
ก่อนจะเปิดฉากสงคราม
หลันเฟิงให้โจวห้าวตรวจสอบทุกอย่างของวิลล่าจวู้เสียนแล้ว!
ถ้าหยางเฟิงอยู่ที่นี่
เขาไม่กล้าลงมืออย่างแน่นอน
ฝีมือของหยางเฟิงเป็นอย่างไร?
แม้แต่พวกเย่ขวงกับหวางหลง ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
เขาไปต่อสู้กับหยางเฟิง ไม่ใช่เป็นการเอาหัวไปส่งให้หรอกเหรอ?
ในเมื่อหยางเฟิงไม่อยู่
เช่นนั้นทุกสิ่งก็เป็นไปด้วยดี
คิดถึงตรงนี้
หลันเฟิงก็เลียริมฝีปาก : “หม่าตงทำลายธุรกิจสีเทาของตระกูลหลันของฉัน คืนนี้ ฉันจะเอาหัวของเขามาเซ่นไหว้แทน!”
เมื่อพูดจบ
หลันเฟิงเหลือบมองโจวห้าว : “โจวห้าว คุณพาคน เข้าไปบุกโจมตี!”
“ห๊า!”
โจวห้าวตกตะลึงตาค้าง
หลันเฟิงให้คนที่ไร้ความสามารถอย่างเขาไปบุก ไม่ใช่ให้เขารนหาที่ตายหรอกเหรอ?”
หลันจื่อที่อยู่ข้างๆ กล่าวตำหนิว่า : “ห๊าอะไรล่ะ? คุณมันคนไร้ประโยชน์ คุณไม่เข้าไปบุก หรือว่าจะให้เราเข้าไปบุกอย่างนั้นเหรอ?”
“ถูกต้อง!”
หลันเฟิงยื่นมือไปตบไหล่ของโจวห้าว แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม : “โจวห้าว ขอเพียงแต่สงครามครั้งนี้ฆ่าหม่าตงได้สำเร็จ และแย่งชิงธุรกิจของพื้นที่สีเทาของตระกูลหลันเราในตงไห่มาได้ ตระกูลหลันของเราจะปฏิบัติต่อคุณเป็นอย่างดีเลย!”
โจวห้าวคิดอยากจะปฏิเสธ
แต่เมื่อเขาเห็นแววตาสังหารของหลันเฟิง คำพูดมาถึงปากก็ต้องกลืนลงไปในท้องอีกครั้งหนึ่ง
โจวห้าวเข้าใจดี
หาดตนเองกล้าปฏิเสธ
หลันเฟิงก็จะนำตนเองไปเป็นเครื่องเซ่นไหว้ทันที!
เขาทำได้เพียงกัดฟันพูดว่า : “พ่อ คุณวางใจเถอะ ฉันจะนำหัวของหม่าตงกลับมาให้คุณอย่างแน่นอน!”
“ฮ่าๆ!”
หลังเฟิงหัวเราะเสียงดัง : “โจวห้าว คุณเป็นลูกเขยที่ดีของฉันจริงๆ! รีบไปเถอะ พ่อจะรอฟังข่าวดีของคุณอยู่ที่นี่”