เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 507
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 507
หลันเจิ้นส่ายหัวอย่างสุดชีวิต “ไม่!ฉันไม่รู้จัก!”
ณ ตอนนี้หลันเจิ้นจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหยางเฟิงมาเพื่อคิดบัญชีกับตนเอง
ถ้าหากยอมรับว่าตนเองรู้จักเฉินเป่ยเหอ ก็คงเหมือนกับรนหาที่ตาย?
“คุณไม่รู้จัก?”
ทันใดนั้น
เสียงของหยางเฟิงดังขึ้น
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “คนนี้คือผู้อาวุโสใหญ่ของจงโจวตระกลูเฉิน เฉินเป่ยเหอ!”
“คิดไม่ถึงเลยว่าพวกคุณตระกูลหลันจะสมรู้ร่วมคิดกับตระกลูเฉิน เพื่อต้องการกำจัดฉัน!”
“ดูเหมือนคุณตาสุดที่รักของฉันจะเกลียดฉันจริงๆนะเนี่ย”
เมื่อพูดจบ
หยางเฟิงพลันเย็นชาเช่นเกล็ดหิมะ ราวกับมีแรงอาฆาตอันเย็นยะเยือกปกคลุมที่แห่งนี้แล้วจริงๆ
อุณหภูมิทั้งห้องโถงวิลล่า ลดลงจนแตะจุดเยือกแข็งอย่างกระทันหัน
ทุกคน พลันอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน
หลันเจิ้นเงยหน้าขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น พลางพูดว่า “หยางเฟิง!ในตอนแรกแกบังคับให้ทุกคนคุกเข่าที่ประตูทางเข้าวิลล่าจวู้เสียน,ทำให้ตระกูลหลันของฉันเสียหน้า แกคิดว่าฉันเกลียดแกไหม?”
“ตอนนี้แกฆ่าลูกชายฉัน ฆ่าหลานสาวฉัน!ฉันเกลียดแกเสียจนเลือดเนื้อของแกฉันก็ไม่อยากกิน!”
“มีแต่ความเกลียดชัง เจ้าคนไร้ประโยชน์อย่างเฉินเป่ยเหอ ยังไม่มีปัญญาฆ่าแก!”
หลันเจิ้นในตอนนี้ ได้เผยธาตุแท้ต่อหน้าหยางเฟิง
ไม่จำเป็นต้องตีสองหน้าอีกต่อไป
เขาเอาความโกรธแค้นที่อยู่ในใจทั้งหมดปะทุออกมา
เขาทำได้เพียงโกรธแค้น เฉินเป่ยเหอที่ลงมือเอง ก็ยังไม่มีปัญญาฆ่าหยางเฟิง
เจ้าหยางเฟิง ดวงแข็งซะจริง!
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
เมื่อได้ยินคำพูดที่เติมไปด้วยความเกลียดชังของหลันเจิ้น
หยางเฟิงก็หัวเราะออกมาทันที
เขาพูดพลางเยาะเย้ยว่า “ในโลกนี้มีคนอยากฆ่าฉันมากมาย แต่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จ”
“ตระกูลหลันของคุณมันอยู่ระดับต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ยังจะกล้าฆ่าฉันอีกหรือ?ช่างน่าขันซะจริง!”
มีสถานะเป็นถึงต้าเซี่ยเทพสงครามอันดับหนึ่ง
หยางเฟิงพิชิตสนามรบมาแล้ว5ปี
มือทั้งสองข้างฆ่าคนตายไปไม่รู้เท่าไหร่?
เรียกได้ว่ามีศัตรูมากมายนับไม่ถ้วน
มีครั้งหนึ่งที่ เฮงโน้วแห่งตี้กั๋วเหนือ ล่าค่าหัวหยางเฟิงพันล้านดอลลาร์
นักฆ่าจำนวนมากสลับวนเวียนกันไปฆ่าจนนับไม่ถ้วน
เหลือเพียงแต่ร่างศพที่อยู่บนพื้น สิ่งอื่นนอกกจากนี้ไม่มีเหลืออยู่เลย
ในท้ายที่สุด
ถึงแม้จะเพิ่มมูลค่าของการล่าค่าหัวเป็นหมื่นล้านดอลลาร์
ก็ไม่มีใครกล้าลอบฆ่าหยางเฟิง!
เปรียบเทียบกันแล้ว
ตระกูลหลันผู้ไม่มีน้ำยาที่อยากจะฆ่าตน ช่างเป็นเรื่องที่ขันเสียจริง!
“หึ!”
เมื่อได้ยินแล้ว
หลันเจิ้นถอดหายใจอย่างเหยียดหยาม ไม่พูดสิ่งใดต่อ
“หลันเจิ้น แกคิดว่าพอแกไม่พูด ฉันก็จะไม่ทำอะไรแกแล้วรึ?”
ฟื่บ!
ทันใดนั้น
หยางเฟิงก็นำกระดาษที่พับออกมาจากอก โยนใส่อกของหลันเจิ้นด้วยความเกลียดชัง
หยางเฟิงส่ายหัวไปมา ทำสีหน้าเจ็บปวดใจพลางพูดว่า “หลันเจิ้น แกอยากจะจัดการฉันก็ตามใจ!แต่ก็ขอย้ำว่าไม่ควรดีกว่า ตระกูลหลันของแกเองก็ทำให้เรื่องชั่วช้ามามาก”
“ภายในเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่ปี ตระกูลหลันของแกทำเรื่องชั่วช้ามากมายที่ตงไห่ ทำตัววางอำนาจใหญ่โต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่ต้องสูญเสียครอบครัวไป การตายของหลันเฟิงและหลันจื่อ ต่อให้นำมารวมกันก็ไม่อาจลบล้างบาปกรรมที่ได้ทำ!”
ครืน!
คำพูดนี้ เหมือนสายฟ้าฟาด
ผ่าลงมาที่หัวหลันเจิ้นอย่างรุนแรง
หลันเจิ้นจับกระดาษนั้นด้วยมือสองข้างที่สั่นเทา
สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด
สิ่งที่บันทึกในนี้ ล้วนเป็นความผิดที่ตระกูลหลันเคยทำทั้งหมด
ทุกเรื่องราว ทุกเหตุการณ์
ความเกรี้ยวโกรธของมวลชนปะทุเลื่อนลั่น ก่อกรรมทำชั่วจนแม้แต่สวรรค์และผู้คนต่างก็พากันเคียดแค้น!
“หยางเฟิง กลายเป็นราชาผู้กำชัยชนะ!ตระกูลหลันของพวกเราแพ้แล้ว ท่านอยากฆ่าฟัน ก็ตามประสงค์ของท่าน!”หลันเจิ้นเงยหน้าขึ้น กัดฟันพูดพลางจ้องเขม็งไปที่หยางเฟิง
เมื่อพูดจบ
เขาหลับตาลงทั้งสองข้าง
อยู่ในท่าทางที่รอให้หยางเฟิงลงมือฆ่า
หลันเจิ้นรู้ดีว่า พูดไปตอนนี้ก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว
ถ้าหยางเฟิงต้องการฆ่าเขา
เขาก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขัดขืน
เฉินเป่ยเหอยังตายอยู่ในกำมือของหยางเฟิง
เขาจะมีกำลังอะไรไปขัดขืนได้?