เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 510
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 510
ยิ่งไปกว่านั้น
ตระกูลเฉินส่งสิบปรมาจารย์ใหญ่ไปแล้ว!
ผลคือทั้งกลุ่มถูกหยางเฟิงฆ่าตาย!
พลังของเจ้าหยางเฟิงนี่ มันแข็งแกร่งขนาดไหนเชียว?
ทันใดนั้น
ในใจของเย่เทียนก็ก่อเกิดความกลัวขึ้นมา
เดิมทีอยากพึ่งเย่ชิว พึ่งความลึกลับยากที่จะค้นหาของกุ่ยเหมินของ ไปล้างแค้นหยางเฟิง!
ดูจากสภาพแล้ว ควรต้องใช้เวลานานในการพิจารณาแผนนี้ซะแล้ว
เย่เทียนสีหน้ามัวหมองพลางพูด “เจ้าหยางเฟิงคนนี้ยากแท้หยั่งถึง!ดูเหมือนแผนของพวกเราต้องเลื่อนออกไปก่อน!”
เย่เทียนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา
สีหน้าเรียบนิ่ง
ไม่มีใครรรู้ได้ว่าเขากำลังคิดอะไร
“จริงสิ หลันเจิ้นเป็นอย่างไรบ้าง?หยางเฟิงปล่อยเขาไปงั้นรึ?”
เย่เทียนเริ่มปริปากถามอย่างกระทันหัน
เย่ชิวพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “เมื่อครู่ หยางเฟิงพาคนไปวิลล่าของหลันเจิ้น เขาถูกกักขังไว้แล้ว!”
แควก!
เมื่อได้ยินดังนี้
เย่เทียนลุกขึ้นทันที!
หากนั่งอยู่บนเก้าอี้นอน รู้สึกราวกับฉีกถูกออกเป็นเสี่ยง
ดวงตาของเขา ก็ฉายแววแห่งเลศนัย!
เดิมทีเขาคิดว่า หยางเฟิงจะฆ่าหลันเจิ้น
ยังไงซะหยางเฟิง ก็ไม่สนใจเรื่องสายสัมพันธ์ครอบครัวอยู่แล้ว
แต่เขากลับทำแค่กักขังหลันเจิ้น
เมื่อคิดถึงตรงนี้
เย่เทียนหัวเราะออกมา “น่าสนใจ!น่าสนใจมากๆ!ดูเหมือนว่าเมิ่งเหยียนจะเป็นจุดอ่อนของหยางเฟิง!”
การที่หยางเฟิงกักขังหลันเจิ้น
เย่เทียนสามารถทายได้ทันทีว่าสาเหตุต้องมาจากเย่เมิ่งเหยียนแน่นอน
ยังไงซะหลันเจิ้นก็เป็นคุณตาของเย่เมิ่งเหยียน
หากหยางเฟิงลงมือ
ก็จะส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ของทั้งสองได้
ในขณะเดียวกัน
เมื่อเย่เทียนเห็นสีหน้าของเย่ชิว ก็รู้สึกสับสนมากขึ้น
เรื่องราวที่เป็นความลับสุดยอดแบบนี้ เย่ชิวล้วนรู้ดี
ดูแล้วกุ่ยเหมินนี้ ลึกลับยากค้นหาจริงๆด้วย
ไม่รู้ว่าการที่หลานเพียงคนเดียวของเขา เข้าสู่กุ่ยเหมิน จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันแน่?
เพียงครู่เดียว
เย่เทียนก็เหมือนจะคิดอะไรออก สีหน้าเปลี่ยนจากเดิมไปมาก
เขามองเย่ชิวแล้วรีบพูดว่า “เร็ว!รีบไปจากที่นี้ซะ!หยางเฟิงไปหาหลันเจิ้นมาแล้ว มันต้องมาหาฉันต่อแน่ๆ!”
“ถ้าให้หยางเฟิงเห็นแก ผลที่ตามมาจะกลายเป็นหายนะ!”
ในความทรงจำของหยางเฟิง
เย่ชิวเป็นคนไร้ค่า เป็นแค่ขอทานที่สะพานลอย
ถ้าหยางเฟิงเห็นเย่ชิว
และยังต้องการเข้าร่วมกุ่ยเหมิน
งั้นผลที่ตามมามันคือหายนะ
ตึก!
ตึก!
ตึก!
เมื่อหลันเจิ้นพูดจบ
ก็มีเสียงฝีเท้าดังออกมาจากทางด้านนอกของประตู
สีหน้าของเย่เทียนเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด
ในขณะเดียวกัน
ฟี้บ!
มีลมพัดชั่วขณะ
ร่างกายของเย่ชิวกลายเป็นเงา
ทั้งตัวหายไปอยู่บนพื้น
เย่เทียนถอนหายใจอย่างโล่งอก
แต่ว่า
ยังไม่ทันที่เย่เทียนจะผ่อนคลาย
ปัง!
ประตูใหญ่ของวิลล่า ก็ถูกเปิดออกทันที
หยางเฟิงเหยียบย่างพื้นด้วยรองเท้าบู๊ท เดินเข้ามาพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย
หลังจากที่เห็นหยางเฟิง
เย่เทียนเหลือบมองเล็กน้อย
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ทันใดนั้น
เย่เทียนก็หัวเราะออกมา
“หลานสาวที่รักของฉัน มีเวลาว่างมาเยี่ยมปู่ด้วยหรอ?”
เมื่อพูดแล้ว
เย่เทียนจึงเดินไปหาหยางเฟิง
เมื่อมองเย่เทียนที่กำลังเดินเข้ามา
หยางเฟิงยกยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น
ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์
ไม่เจอกันตั้งนาน ทักษะการแสดงนับวันยิ่งดีขึ้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
หยางเฟิงหัวเราะเสียงดังพลางพูดว่า “คุณปู่ที่รักของฉัน ฉันไปเยี่ยมคุณตามาแล้วเมื่อครู่ นึกขึ้นได้ว่าท่านต้องเหงาและโดดเดี่ยวอยู่ที่นี้ จึงอยากมาเยี่ยมท่าน!”
ว่าแล้ว
ทั้งสองก็กอดกัน
แต่ในขณะเดียวกัน ในใจกลับมีเสียงกรนด่าไปด้วย
เฒ่าเจ้าเล่ห์!
ไอ้หนุ่มเจ้าเลห์!
หลังจากที่ผละตัวออกจากกันแล้ว
เย่เทียนพลันแสดงสีหน้ากระตือรือร้นพลางพูดว่า“หลานสาวที่รัก รีบเข้ามานั่งเร็วสิ!”
หยางเฟิงเดินเข้าไป
จมูกได้กลิ่นแล้ว ทันใดเขาก็ขมวดคิ้ว
หยางเฟิงมองเย่เทียนแล้วยิ้มเบาๆ พลางพูดว่า “คุณปู่ เมื่อครู่มีคนมาหาท่านรึ?”
เมื่อได้ยินดังนี้
เย่เทียนก็ตื่นตกใจเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน ในใจก็อดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง