เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 55
เย่กวงตวาดลั่น ความโกรธแค้นที่มีต่อหยางเฟิงเอ่อล้นทะลักออกมาราวน้ำที่ไหลทะลัก
หากไม่ได้เป็นเพราะหยางเฟิง ครอบครัวของเขาคงไม่ต้องตกอยู่ใต้อำนาจของเย่ลั่วแบบนี้
เพียงชั่วครู่ สายตาของทั้งสองก็มองไปที่เย่ลั่ว
เย่ชิวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเย่ลั่วแล้วกล่าวอย่างถ่อมตน “ท่านประธานโปรดจัดการแย่งเอาสิ่งที่ควรเป็นของพวกเราตระกูลเย่กลับมาทั้งหมดด้วย!”
เย่กวงเอ่ยปากเช่นกันว่า “ใช่แล้วหลานชาย ตอนนี้หลานเป็นประธานของเย่ซื่อกรุ๊ปแล้ว หลานจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้นะ!”
เย่ลั่วเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่รีบร้อน สายตาของเขาปรากฏความดูถูกดูแคลน ก่อนจะหัวเราะเยาะแล้วกล่าวว่า “ก็แค่ลูกเขยเกาะเมียกินไม่ใช่หรือไง ทำไมพวกคุณสองคนถึงได้โมโหมันได้มากขนาดนี้ ไปสิ ฉันจะพาพวกคุณกลับไปแย่งของที่เป็นของพวกคุณกลับคืนมาเอง!”
เมื่อได้ยินดังนั้น
เย่กวงกับเย่ชิวหันไปสบตากันด้วยสีหน้าสะใจ
……
“ท่านประธานครับ ในบริษัทแห่งนี้มีพนักงานทั้งหมดสามพันคน ธุรกิจหลักของพวกเราคือเครื่องสำอาง อาหารเสริมและพวกของใช้สำหรับเด็กครับ มูลค่าในตลาดของพวกเราอยู่ที่พันล้านโดยประมาณ……”
หาวเจี้ยนกำลังรายงานสถานการณ์คร่าวๆ ของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปให้เย่ไห่ฟัง
เย่ไห่พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ดีมาก รบกวนผู้จัดการหาวส่งข้อมูลพวกนี้ไปที่ออฟฟิศของผมด้วย ผมอยากอ่านดูก่อนสักรอบ”
เมื่อได้กลายเป็นประธานของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปแล้ว เย่ไห่จึงต้องตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อเป็นการตอบแทน
หาวเจี้ยนกล่าวตอบอย่างนอบน้อมว่า “ได้ครับ ท่านประธาน!”
เมื่อหยางเฟิงเห็นท่าทีเช่นนี้ของเย่ไห่ก็ยิ้มแล้วกล่าวกับเย่เมิ่งเหยียนว่า “ที่รัก ดูท่าทางพ่อของคุณสิ สมกับเป็นประธานบริษัทมากเลย”
เย่เมิ่งเหยียนกล่าวอย่างตื้นตันว่า “หยางเฟิง ทั้งหมดเป็นเพราะการช่วยเหลือของคุณนะ”
หยางเฟิงกอดเย่เมิ่งเหยียนเอาไว้ในอ้อมอกแล้วกล่าวว่า “อย่าพูดอย่างนี้สิ เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ”
“ไปลากตัวไอ้เย่ไห่กับหยางเฟิงออกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
ในช่วงเวลานั้นเอง
ก็มีเสียงตวาดลั่นดังขึ้นมา
หยางเฟิงขมวดคิ้ว
ใครกล้ามาเอะอะโวยวายที่นี่?
เมื่อหันกลับไปก็เห็นว่าเย่กวงและพวก เดินเข้ามาด้วยอาการโมโหจัด
“เย่กวง พวกแกมาทำอะไรที่นี่”
เย่ไห่รีบกล่าวขัดขึ้นมา
เย่กวงกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “เย่ไห่ ฉันได้ยินมาว่าแกเป็นประธานของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปแล้ว ฉันเลยจะมาแสดงความยินดีกับแกไงล่ะ!”
“พวกเราไม่ต้อนรับพวกแก พวกแกกลับไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียก รปภ. เข้ามา!” สีหน้าของเย่ไห่ยัวะจัด
เย่กวงพาคนมาตั้งมากมายขนาดนั้น แค่ดูก็รู้แล้วว่าตั้งใจมาหาเรื่อง
ตนเพิ่งจะได้ขึ้นเป็นประธานเฟิงเมิ่งกรุ๊ปไม่นาน ฝ่ายนั้นก็วิ่งแจ้นมาหาเรื่องเสียแล้ว
เห็นชัดๆ ว่าพุ่งเป้ามาหวังจะจัดการตน
สีหน้าของเย่กวงแข็งกระด้าง “เย่ไห่ แกอย่าคิดนะว่าตัวเองเป็นประธานอะไรนั่นแล้วจะมาขึ้นเสียงกับพวกฉันได้ ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ ขยะก็เป็นขยะอยู่วันยังค่ำ! วันนี้ไม่ว่าแกจะยินดีหรือไม่ยินดีก็แล้วแต่ ฉันจะมาทวงบริษัทของฉันคืน พวกแกไสหัวออกไปซะ!”
“พวกแกมีสิทธิ์อะไรมาไล่พวกฉัน ที่นี่ไม่สถานที่ของพวกแกแล้ว!”
ในตอนนั้นเย่เมิ่งเหยียนก้าวออกมาด่ากราด
เมื่อเย่ลั่วเห็นเย่เมิ่งเหยียน สายตาของเขาเกิดประกายสุกสว่าง
ตั้งแต่มาถึงที่ตงไห่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นผู้หญิงสวยมากขนาดนี้ เขาจึงรู้สึกเหมือนมีไฟลุกโชนขึ้นมา
วันนี้เย่เมิ่งเหยียนใส่ชุดสูทสีขาวสไตล์สาวออฟฟิศ ส่วนท่อนล่างใส่กระโปรงสีดำตัวน้อย ขาของเธอขาวหมดจด ผิวพรรณละเอียด รวมกับรองเท้าส้นสูงของเธอแล้วยิ่งทำให้เซ็กซี่ดึงดูดใจมากเป็นพิเศษ
เย่ลั่วถามขึ้นด้วยสีหน้าหื่นกาม “สาวสวยคนนี้เป็นใครเหรอ”
เย่ชิวยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มของผู้ชายที่มองเหตุการณ์ออก แล้วอธิบายว่า “ท่านประธาน นี่เป็นน้องสาวของผม ชื่อเย่เมิ่งเหยียน เมื่อก่อนเป็นถึงสาวงามอันดับหนึ่งของตงไห่ ต่อมากลับแต่งงานกับยาจกคนหนึ่ง”
“ฮ่าๆ โฉมงามกับยาจก!”
เย่ลั่วหัวเราะออกมาเบาๆ
ผู้หญิงแบบนี้คือสเปคที่เขาชอบมากที่สุด
และเหมาะกับการปอกลอกมากที่สุดด้วย
เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเย่เมิ่งเหยียน แล้วสอดสายตาพิจารณาเธอ