เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 582
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 582
เย่หลงทำสีหน้าเหนื่อยหน่าย
ไอ้เด็กนี้มันปีศาจร้ายจริงๆ
คนที่ใช้ชีวิตมามากกว่าตัวเอง 100 ปี ยังจะมาทำเป็นฉลาดแกมโกงอีก
ดูเหมือนจะแว้งกัดไม่ได้เลย!
หยางเฟิงชี้เขาจินเฟิงที่อยู่ตรงหน้าของเขา พลางถามว่า ” นายท่าน ท่านลองดูสิ ชิ้นส่วนแผนที่จักรพรรดิมังกรจะเกิดออกมาเมื่อใด? ”
เย่หลงตรวจสอบเขาจินเฟิงสักครู่
หลังจากนั้น เขาพูดอย่างเคร่งขรึม: ตามการประเมินของปู่แล้ว อย่างเร็วที่สุดสามวัน อย่างนานที่สุดห้าวัน ชิ้นส่วนแผนที่จักรพรรดิมังกรก็จะถือกำเนิดแล้ว! ”
“สามวันงั้นรึ?”หยางเฟิงพึมพำกับตนเองว่า“ทันเวลาพอดี!”
หลังจากนั้น
หยางเฟิงพูดกับเย่หลงว่า“นายท่าน หากไม่มีเรื่องแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ”
ฟิ้ว!
พูดจบ
หยางเฟิงหันกายไป เพียงชั่วเวลาพริบตาเดียวก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
จางเทียนซานและไป๋หลิงหลงเห็นดังนั้น ก็รีบตามไปทันที
เย่หลงอดที่จะหัวเราะไม่ได้: “เจ้าเด็กคนนี้ วิ่งหนีเร็วมาก กลัวว่าข้าจะแว้งกัดเจ้าหรือกระไร”
เมื่อพูดจบ
เขาหันไปมองทางเขาจินเฟิง หลับตาลง ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร
“อาจารย์ ดูเหมือนว่าการคาดการณ์ของท่านตอนนั้นจะถูกต้อง รูปจักรพรรดิมังกรนี้ยังคงอยู่ในหมู่บ้านตระกูลเย่ ไม่ช้าก็เร็วมันกลายเป็นหายนะ!”
“ท่านวางใจเถอะ!ต่อให้ข้าต้องแลกด้วยชีวิต ข้าจะไม่มีวันปล่อยให้สมบัติไปอยู่ในมือของพวกขี้โกงพวกนั้นเด็ดขาด!”
เมื่อพูดจบ
เย่หลงก็หายตัวไป
เข้าสู่ช่วงกลางคืน
ทั้งหมู่บ้านตระกูลเย่เงียบสนิท
เพราะมีนักสู้จำนวนมากหลั่งไหลมาจากทุกที
ชาวบ้านหมู่บ้านตระกูลเย่ ต่างก็ปิดประตูหน้าตาตั้งนานแล้ว
ณ ตอนนั้น
เพื่อไม่ให้รบกวนการใช้ชีวิตของชาวบ้าน
หยางเฟิงจึงอาศัยที่โรงเรียนประถมหมู่บ้านตระกูลเย่ชั่วคราว
สถานที่นี้ถูกค้นพบเมื่อตอนที่หยางเฟิงได้ตรวจสอบทรัพย์สินของหม่าตง
ตอนนี้ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านตระกูลเย่กำลังตื่นตระหนก
โรงเรียนก็ว่างเปล่าเป็นธรรมดา
“ท่านครับ วันนี้มีผู้สร้างเรื่องทั้งหมด 520 คนถูกฆ่าตาย”
“ตอนนี้ที่หมู่บ้านตระกูลเย่ไม่มีใครกล้าก่อเรื่องแล้วขอรับ”
หยางเฟิงนั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่
เสือขาวยืนอยู่ด้านล่างและกล่าวรายงานด้วยความเคารพ
กลางวัน
เสือขาวพาองครักษ์มังกรและใช้วิธีรวดเร็วดั่งสายฟ้าเพื่อปราบปรามผู้ก่อเรื่อง
ทั้งหมู่บ้านตระกลูเย่ นองไปด้วยเลือดแห่งการฆ่าฟัน
นักสู้เหล่า เพียงแค่เห็นเสือขาวก็รู้สึกหวาดกลัว
ในสายตาของพวกเขา เสือขาวก็เทพมรณะแห่งความโลภที่กลับชาติมาเกิด
พวกเขาไม่กล้าแม้แต่ที่จะก่อเรื่อง ทำได้แค่อยู่อย่างสงบเสงี่ยม
หยางเฟิงพยักหน้าพลางพูดว่า“ อืม! ใครกล้าก่อความเดือดร้อน จงฆ่ามันอย่างไร้ความปราณี! ”
“และในตอนกลางคืนจงระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้นักสู้เหล่านั้นมาทำอันตรายอันใดได้!”
การฆ่าฟันในคืนที่ดวงจันทร์มืดมิด
กลางคืนมักจะอันตรายกว่ากลางคืนเสมอ
เพราะในตอนกลางคืน ความชั่วร้ายจะถูกซ่อนด้วยความมืดมิด
เสือขาวพยักหน้าพลางพูดว่า “ท่านวางใจได้ ข้าส่งองครักษ์มังกร 50คน ไปลาดตระเวนแล้วเพื่อเป็นการรับประกันว่าคืนนี้จะไม่มีใครกล้ามาก่อเรื่องอีก”
“อืม!”
หยางเฟิงตอบ หลับตาและพักผ่อนอย่างช้าๆ
ท้องฟ้ากลางคืนเริ่มมืดขึ้น
มืดดั่งสีของน้ำหมึก
ฟิ้ว!
ทันใดนั้นเงาดำก็บินผ่าน
เหมือนสายลมที่พัดอ่อนๆ
ไร้ซึ่งเสียง
ณ ตอนนั้นเอง
หอบรรพบุรุษของหมู่บ้านตระกูลเย่ ก็มีแสงไฟส่องสว่างขึ้น
เย่หลงอาศัยอยู่ที่หอบรรพบุรุษคนเดียว
เขาไม่มีลูกชายไม่มีลูกสาว หอบรรพบุรุษก็คือบ้านของเขา
ถึงแม้จะเป็นเวลาดึกดื่นแล้ว
แต่เย่หลงก็ยังไม่นอน
อายุมากแล้ว การเข้าสู่ห้วงนิทราเป็นเรื่องที่ยากลำบาก
ผนวกกับความกังวลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆของหมู่บ้านตระกูลเย่
ความกดดันของการเป็นผู้ใหญ่บ้านของเขาช่างใหญ่หลวงยิ่งหนัก
ทันใดนั้น
เย่หลงหันกายไปมองพลางพูดเสียงดังว่า “ใครหนะ?ทำตัวลับๆล่อๆ ออกมาให้ข้าเห็นเดี๋ยวนี้!”
เมื่อพูดจบ
ชายที่สวมหน้ากากผีก็ปรากฏตัวต่อหน้าเย่หลง
เย่หลงเหล่ตามอง แสดงสายตาที่รับรู้ถึงอันตรายพลางพูดว่า “กุ่ยเหมิน?”
เขาคิดไม่ถึงว่า
กุ่ยเหมินจะอาจหาญขนาดนี้
กล้ามาหาตนเองถึงที่นี้
หรือว่าพวกเขา จะพาตนเองมารนหาที่ตายหรือกระไร?
“ปู่น้อย ไม่เจอกันนานเลยนะขอรับ!”