เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 583
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 583
ภายใต้หน้ากาก ก็มีเสียงแหบออกมา
“ปู่น้อย?”
“เหอะ เหอะ!”
เย่หลงตกตะลึงครู่หนึ่งพลางพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “อย่ามาผูกความสัมพันธ์กับปู่ ปู่ไม่เคยเป็นญาติครึ่งผีครึ่งคนเฉกเช่นเจ้า”
สำหรับกุ่ยเหมิน
ในยุทธภพแห่งนี้เรียกได้ว่าทุกคนล้วนรังเกียจ
เพราะกุ่ยเหมิน ไม่ใช่แค่เป็นผีเท่านั้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนที่อยู่ในกุ่ยเหมินทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและทำหลายสิ่งหลายอย่างที่อุกอาจและแสดงถึงความเกลียดชัง
หลอกล่อน้องสะใภ้คนที่สอง ขายพี่น้อง กินบนเรือนขี้บนหลังคา ฆ่าผู้บริสุทธิ์ ข่มเหงผู้หญิงและเด็ก ลอบทำร้ายทำร้ายผู้คน ฯลฯ ข้อห้ามเหล่านี้ใน ยุทธภพล้วนไม่สามารถทำได้ แต่สำหรับคนในกุ่ยเหมิน เรื่องเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งสมมติ
ตราบใดที่เขาสามารถทำภารกิจได้สำเร็จ เขาก็ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่หลง
ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้โกรธเคืองอะไร แต่กลับหัวเราะเบาๆพลางพูดว่า
“ทำไมละ ปู่น้อยไม่รู้จักข้ารึกระไร?”
เมื่อพูดจบ
ฝ่ายตรงข้ามก็ถอดหน้ากาก
เผยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผล หน้าตาดูน่าสยดสยอง!
“เย่ชิว?”
สีหน้าของเย่หลงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ถึงแม้เย่ชิวจะแปลงโฉมไปแล้ว
แต่เย่หลงยังจำเขาได้
“เป็นเจ้าได้อย่างไร?ทำไมเจ้าเปลี่ยนเป็นผีแบบนี้ และยังเข้าร่วมกับกุ่ยเหมิน?”
“กร้าก กร้าก!”
เย่ชิวหัวเราะด้วยเสียงประหลาด “ปู่น้อย ไม่ต้องแปลกใจ ข้าเข้าร่วมกับกุ่ยเหมินเพราะอยากกำจัดไอ้สารเลวหยางเฟิงนั้น!”
เมื่อพูดถึงหยางเฟิง
ใบหน้าที่มีแผลเป็นของเย่ชิว กลายเป็นความน่าสยดสยองมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เขาต้องกลายเป็นผีแบบนี้ก็เพราะหยางเฟิง
เข้าร่วมกุ่ยเหมิน ต้องแปลงโฉมและแปลงเสียง
เพื่อไม่ให้คนอื่นจำได้
สามารถพูดได้ว่า
การที่เย่ชิวเข้าร่วมกุ่ยเหมิน เขาไม่ได้มองว่าตนเองเป็นคนอีกต่อไป
“หึ!”
เย่หลงถอนหายใจอย่างเยือกเย็น
เขาเป็นพันธมิตรกับหยางเฟิง และไม่ยอกให้คนจากกุ่ยเหมินมาหักหน้าเขา เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว บอกข้ามา ว่าเจ้ามาหาปู่ทำไมดึกๆดื่นๆเช่นนี้”
“หึ หึ!”
เย่ชิวหัวเราะเบา ๆ พลางพูดว่า: “ปู่น้อย ท่านเป็นคนฉลาดจริงๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ข้าก็จะไม่อ้อมคอม!”
“ข้ามาหาท่านเพราะหวังว่าปู่น้อยจะช่วยกุ่ยเหมินของข้าให้แย่งชิงชิ้นส่วนของแผนที่จักรพรรดิมังกร…”
“ฝันไปเถอะ!”
ไม่รอให้เย่ชิวพูดจบ
เย่หลงพูดอย่างตรงไปตรงมา“เย่ชิว ต่อให้ปู่ต้องตาย ปู่ก็จะไม่ช่วยกุ่ยเหมิน!”
“ปู่ขอประกาศว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าไม่ใช่คนของตระกูลเย่อีกต่อไป!”
เมื่อได้ยินดังนี้
เย่ชิวสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ตาเฒ่าอย่างเย่หลง ช่างไม่รู้อะไรเสียบ้างเลย
ไม่ช่วยตนเองก็มากเกินไปแล้ว นี้ยังจะตัดตนเองจากตระกูล ช่างโหดร้ายเสียจริง
แต่เขาก็ไม่กล้าทำให้เย่หลงโกรธ ทำได้เพียงสูดลมหายใจเข้าลึกๆพลางพูดว่า“ ปู่น้อย ท่านอย่าโกรธเลย! ตราบใดที่ท่านเต็มใจช่วยข้า ผู้คุมกฎสิบก็บอกแล้วว่า พวกเขาจะบริจาคเงินหนึ่งพันล้านให้กับหมู่บ้านตระกูลเย่!”
หนึ่งพันล้าน?
นี่คือความมั่งคั่งที่ไม่อาจจินตนาการได้สำหรับหมู่บ้านตระกูลเย่
เย่ชิวเชื่อว่า
เย่หลงไม่สามารถต้านทานการล่อลวงครั้งใหญ่เช่นนี้ได้
ในสายตาของเขา หมู่บ้านตระกูลเย่เป็นสถานที่ที่เขาหวงแหน
เมื่อมีหนึ่งพันล้านนี้
หมู่บ้านตระกูลเย่ จะกลายเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงและมั่งคั่งในทันที และชาวบ้านทุกคนสามารถมีชีวิตที่ดีได้
ในฐานะที่เย่หลงเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน จะสามารถปฏิเสธได้เช่นไร?
“หึหึ!”
เย่หลงพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูถูก “เย่ชิว เจ้าประเมินข้าต่ำไป และยังดูถูกหมู่บ้านตระกูลเย่ของข้าอีกด้วย!”
“หมู่บ้านตระกูลเย่ของฉันยากจนก็จริง แต่ข้าจะไม่ช่วยคนชั่วพื่อเงิน! ”
“เพราะเจ้าเคยเป็นคนของตระกูลเย่ เจ้าออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ ปู่จะแสร้งทำเป็นไม่เห็นเจ้า ไม่อย่างนั้นก็อย่าโทษที่ปู่ที่หยาบคายกับเจ้า!”
เมื่อพูดจบ
เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น
พลังปราณของเย่หลงพุ่งขึ้นทันที
แสงอันทรงพลังที่มีเย่หลงเป็นศูนย์กลางเปล่งประกายออกไป
เมื่อเห็นดังนี้
เย่ชิวหวาดกลัวมาก
เขาไม่ได้คิดเลยว่า เย่หลงชายชราที่ดูธรรมดา แท้จริงแล้วคือปรมาจารย์ที่ซ่อนอยู่