เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 60
“เอ่อ หยางเฟิง ลูกทำได้จริงหรือ” เย่ไห่ถามอย่างประหลาดใจ
เย่เมิ่งเหยียนกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “หยางเฟิง คุณอาจจะไม่รู้ว่าโครงการเขตอุตสาหกรรมนี้เป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดของตงไห่ตอนนี้ ไม่รู้ว่ามีอีกกี่บริษัทที่จ้องเขม็งมาที่เนื้อก้อนโตชิ้นนี้ หากเฟิงเมิ่งกรุ๊ปของพวกเราต้องการโครงการนี้ เห็นทีว่าคงจะไม่ง่ายนัก!”
โครงการของเขตอุตสาหกรรมตงไห่มีมูลค่าเป็นหมื่นล้าน
เค้กชิ้นใหญ่ขนาดนี้ คงมีคนจำนวนมากพุ่งความสนใจไปที่มัน
เฟิงเมิ่งกรุ๊ปเป็นเพียงบริษัทขนาดกลางบริษัทหนึ่งที่มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่พันล้านเท่านั้น
บริษัทที่มีมูลค่าหลักพันล้าน คิดอยากได้ใบสั่งซื้อจากโครงการหมื่นล้าน เรื่องนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับความฝัน
หยางเฟิงยิ้มพลางกล่าวว่า “พ่อครับ ที่รัก ไม่ต้องห่วงนะครับ ถึงเวลาผมจะต้องช่วยพวกคุณแย่งโครงการนี้ทั้งหมดมาให้ได้”
เย่ไห่หันไปสบตากับเย่เมิ่งเหยียน สีหน้าปรากฏความรู้สึกที่ยากจะบรรยายออกมา
เดิมทีพวกเขาเพียงคิดว่าเฟิงเมิ่งกรุ๊ปจะแบ่งโครงการเขตอุตสาหกรรมนี้มาเพียงบางส่วนเท่านั้น
แต่เมื่อฟังจากคำพูดของหยางเฟิงแล้ว ดูเหมือนว่าเขาต้องการโครงการทั้งหมด
กระเพาะของเขาใหญ่เกินไปหน่อยแล้ว!
……
ช่วงค่ำ
หยางเฟิงโทรไปหาหม่าตง
“หม่าตง นายเป็นคนรับผิดชอบโครงการเขตอุตสาหกรรมตงไห่ใช่ไหม”
หม่าตงกล่าวอย่างสุภาพ “ใช่ครับ ผมเป็นคนรับผิดชอบเอง ทำไมหรือ คุณหยางสนใจโครงการนี้งั้นหรือ”
หยางเฟิงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “อืม ตอนนี้พ่อตาของฉันเป็นประธานเฟิงเมิ่งกรุ๊ปแล้ว ฉันอยากให้นายยกโครงการเขตอุตสาหกรรมนี้ให้เขา”
“ได้ครับ ไม่มีปัญหา สามวันหลังจากนี้จะถึงงานประกวดราคาโครงการเขตอุตสาหกรรมแล้ว ถึงเวลาผมจะแจ้งอีกทีครับ”
“ขอบคุณมาก”
“ไม่เป็นไรครับ การได้ช่วยเหลือคุณหยางถือเป็นเกียรติของผมเช่นกัน”
หลังจากวางสายแล้ว หยางเฟิงจึงเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ
เมื่อเห็นเย่เมิ่งเหยียนยังคงนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เขาจึงเดินเข้าไปแล้วกล่าวถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย “ทำไมยังนั่งทำงานอยู่ล่ะ นี่มันกี่โมงแล้ว ควรพักผ่อนได้แล้วนะ”
เย่เมิ่งเหยียนถอนใจเบาๆ แล้วกล่าวว่า “ฉันเองก็อยากพักผ่อนเหมือนกัน แต่ฉันเพิ่งได้รับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป มีอีกหลายเรื่องที่ฉันต้องจัดการให้เรียบร้อย ฉันกลัวว่าถ้าตัวเองจัดการได้ไม่ดีแล้วบริษัทล้มละลายขึ้นมาจะทำยังไง”
หยางเฟิงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ก็แค่เฟิงเมิ่งกรุ๊ปเอง ล้มละลายก็ไม่เป็นไร ถ้าคุณอยากทำ ผมสามารถเปิดบริษัทแบบเดียวกันนี้ให้คุณได้อีกเป็นร้อยบริษัท!”
ด้วยชาติตระกูลของหยางเฟิงแล้ว เฟิงเมิ่งกรุ๊ปก็เป็นแค่เพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของเขาก็เท่านั้น
เย่เมิ่งเหยียนส่ายหน้าแล้วกล่าวด้วยความยืนหยัด “ไม่ได้ค่ะหยางเฟิง ฉันรู้ว่าคุณรวยมาก แต่ฉันไม่อยากเป็นนกในกรงทองของคุณ ฉันไม่อยากอยู่ใต้การเลี้ยงดูของคุณ ฉันอยากพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง ฉันอยากมีความสามารถมากขึ้นกว่านี้”
หยางเฟิงโอบเย่เมิ่งเหยียนเข้ามากอดเอาไว้ในอกแล้วกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “เด็กโง่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไม่ว่าผมจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ในใจของผมก็จะมีคุณเพียงคนเดียว……”
ระหว่างที่พูด มือของหยางเฟิงก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวลงไปด้านล่างช้าๆ
ตอนนั้นเย่เมิ่งเหยียนหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ
วิลล่าจวู้เสียน
“จำเอาไว้ว่างานประกวดราคาวันพรุ่งนี้ จะต้องยกโครงการเขตอุตสาหกรรมให้เฟิงเมิ่งกรุ๊ป”
หม่าตงกล่าวกำชับเลขาของตนเอง
นี่เป็นเรื่องที่หยางเฟิงโทรศัพท์มาสั่งการเขาด้วยตนเอง เขาจึงไม่กล้าที่จะละเลย
เลขานุการพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ได้ค่ะ ท่านประธาน”
ปั้ง!
ในขณะนั้นเอง ที่ประตูใหญ่ของวิลล่า ประตูถูกถีบเปิดออก
“หม่าตงอยู่ที่ไหน ออกมาหาฉันซะดีๆ!”
เย่หมิงพาคนกลุ่มใหญ่บุกเข้ามาในวิลล่า
“กรี๊ดดด!”
เลขาร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ
หม่าตงเงยหน้าขึ้นแล้วขมวดคิ้วถามว่า “ฉันคือหม่าตง พวกแกเป็นใคร”
ถึงขั้นกล้าบุกเข้ามาในวิลล่าของเขา นี่ทำให้หม่าตงไม่สบอารมณ์อย่างมาก