เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 602
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 602
เผชิญหน้ากับการดูหมิ่นของเสือขาว
กร๊อบ ๆ !
ผู้คุมกฎสิบกับเหลิงฉานและคนอื่น ๆ บีบหมัดของตัวเองดังกร๊อบ
หยิ่งผยองมากไปแล้ว!
คิดว่าตัวเองโจมตีพวกฝูงนกที่กระจัดกระจายถอยไปแล้ว ก็สามารถดูถูกพวกเขาได้แล้วเหรอ?
ในพริบตา
“หลิวเซี่ยฮุย ศูนย์พันธมิตรบู๊ขอให้ทำการต่อสู้!”
“เมิ่งเฉินจี ศูนย์พันธมิตรบู๊ขอให้ให้ทำการต่อสู้!”
“จางขาเทพกุ่ยเหมินขอให้ทำการต่อสู้!”
……
ทันใดนั้นมีปรมาจารย์ของกุ่ยเหมินกับศูนย์พันธมิตรบู๊ขอให้ทำการต่อสู้
แววตาที่พวกเขามองไปทางเสือขาวเปิดเผยแววตาที่กินคนอย่างนั้น
ถูกหยางเฟิงเหยียดหยามก็ไม่เป็นไรแล้ว
ตอนนี้แม้กระทั่งลูกน้องของหยางเฟิงคนหนึ่งก็กล้าเหยียดหยามพวกเขา
คือไม่สามารถทนได้!
เผชิญหน้ากับการขอร้องให้ต่อสู้ของทุกคน
สีหน้าของผู้คุมกฎสิบกับเหลิงฉานสองคนเขียวคล้ำ
กลับไม่มีสักคนที่กล้าเอ่ยปากก่อน
พวกเขาก็กลัวไง!
“เด็กน้อย คนของนายต่างก็หยิ่งผยองเหมือนกับนายอย่างนั้นเหรอ?”
เย่หลงเวลานี้ได้มองตะลึงแล้ว
เขามาถึงด้านข้างหยางเฟิงถามด้วยหน้าที่สั่นไหว
เดิมทีเขาคิดว่าหยางเฟิงได้หยิ่งผยองมากพอแล้ว
แต่คิดไม่ถึงเสือขาวที่อยู่ข้างกายหยางเฟิงยังจะทำมากเกินไปกว่าหยางเฟิง!
กล้าใช้คนเดียวมาท้าทายกุ่ยเหมิน ศูนย์พันธมิตรบู๊ยังมีตระกูลหนิง
การท้าทายที่ไม่รู้ที่ตายชนิดนี้
ไม่งั้นก็เป็นคนโง่ที่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ถ้าไม่งั้นก็คือมีแผนการไว้แล้ว
แต่เสือขาวจะเป็นคนโง่เหรอ?
โดยเฉพาะเขา
ใช้หนึ่งร้อยคนเล็ก ๆ ฆ่าหนึ่งพันคน!
ผลคะแนนการรบที่ภาคภูมิใจอย่างนี้ก็สามารถได้ชื่อว่าเป็นตำนานโลกบู๊แล้ว!
เกรงว่าหลังผ่านการต่อสู้นี้แล้ว
ชื่อของเสือขาวก็จะเริ่มดังในโลกบู๊แล้วอย่างสิ้นเชิง!
“ฮึ ๆ !”
หยางเฟิงจู่ ๆ หัวเราะแปลกเสียงหนึ่ง“นายท่าน ลากผิดกฏหมายไหม?”
ได้ยิน
มุมปากของเย่หลงกระตุก อดไม่ได้ที่จะพูดไม่ออก
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดเตือน“เด็กน้อย ฉันเตือนนายที่ดีที่สุดอย่าหลงระเริง ผู้คุมกฎสิบและคนอื่น ๆ พลังแข็งแกร่งถ้าหากพวกเขาลงมือ ระวังที่ตัวเองมั่นใจจะเกิดปัญหานะ!”
หยางเฟิงพูดด้วยใบหน้าที่ดูถูกว่า“ท่านวางใจดีแล้ว พวกขยะตั้งแต่ไหนมาผมไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา!”
ตั้งแต่ต้นจนจบ
หยางเฟิงต่างก็ไม่ได้เอาผู้คุมกฎสิบและคนอื่น ๆ อยู่ในสายตา
เขาได้รวบรวมกำลังทหารลับที่ใกล้ ๆ หมู่บ้านตระกูลเย่แล้ว
ถ้าหากไม่ใช่ยังไม่ถึงจังหวะ
ขอแค่เขาออกคำสั่งไป
ไม่ว่าเป็นศูนย์พันธมิตรบู๊หรือกุ่ยเหมิน ทั้งหมดต่างก็ต้องพินาศย่อยยับ!
“ให้พวกเราขึ้นไปเถอะ!”
“ใช่แล้ว พวกเรายอมสู้จนตายก็ไม่ยอมรับการเหยียดหยามนี้!”
“ต่อสู้! ต่อสู้! ต่อสู้!”
……
เวลานี้
เห็นผู้คุมกฎสิบกับเหลิงฉานเฉย ๆ
คนของกุ่ยเหมินและคนของศูนย์พันธมิตรบู๊ก็มีอารมณ์ตื่นเต้นขึ้นมา
หลายวันนี้
พวกเขาได้รับอารมณ์ที่โกรธแค้นของหยางเฟิงพอแล้ว
ในใจของทุกคนต่างก็อัดอั้นกลุ่มไฟอยู่
ถ้าหากไม่ปลดปล่อยออกมาอีก
เกรงว่าพวกเขาจะถูกโมโหตายทั้งเป็น!
เห็นสภาพการณ์
ผู้คุมกฎสิบกับเหลิงฉานมองหน้ากันแวบหนึ่งแล้ว
พวกเขารู้ ถ้าหากนิ่งเฉยอย่างนี้ต่อไป
เกรงว่าลูกน้องของตัวเองจะเอาใจออกห่าง
พี่ใหญ่คนหนึ่งสามารถนำพาความอัปยศมาให้ตัวเอง คือไม่คุ้มค่าที่จะให้ลูกน้องติดตาม
โดยเฉพาะคือในยุทธภพผู้ที่แข็งแกร่งก็จะได้รับความเคารพจากคนอื่น
ทุก ๆ คนต่างก็มีใจเย่อหยิ่ง
ทุกคนเข้าร่วมโลกบู๊ก็คือเพื่อบุญคุณต้องทดแทน มีแค้นต้องชำระ!
ถ้าได้รับความน้อยใจความอึดอัด ใครจะยอมเข้าร่วมโลกบู๊สู้เป็นสู้ตาย?
คิดถึงที่นี่
ผู้คุมกฎสิบกับเหลิงฉานสองคนยืนออกมาพร้อมกัน
“ฆ่า!”
แผดเสียงคำรามเสียงหนึ่ง
ผู้คุมกฎสิบกับเหลิงฉานบุกนำหน้าก่อน!
คนของกุ่ยเหมินและคนของศูนย์พันธมิตรบู๊รวมกันแล้วเกือบสามพันคน
เวลานี้
คนม้าสามพันเต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม
บนหน้าของทุกคนต่างก็เขียนเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธและการฆ่า!
อดไม่ได้ที่จะฉีกร่างเสือขาว!
ความคิดในการต่อสู้มาถึงจุดสูงสุด!
ผู้คุมกฎสิบกับเหลิงฉานมองหน้ากันแวบหนึ่ง บนหน้าแสดงความได้ใจออกมา
พวกเขาต่างก็รู้แล้ว เสือขาวและคนอื่น ๆ ได้เป็นพลังยิ่งใหญ่ที่กำลังจะอ่อนแอแล้ว
ถ้าหากสามารถกำจัดพวกเขาได้ นี่สำหรับหยางเฟิงแล้วเป็นการโจมตีที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง