เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 621
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 621
เมื่อเห็นปากของเย่หลงเต็มไปด้วยน้ำมัน แล้วค่อยใช้แขนเสื้อเช็ดออกไป
ใบหน้าของหยางเฟิงก็เต็มไปด้วยความตกใจในทันใด
ชายชราผู้นี้ซกมกเกินไปแล้ว!
ณ ขณะนี้
เย่หลงเห็นพวกเสือขาวกำลังทาบางอย่างลงบนเนื้อย่างที่อยู่บนกองไฟ เลยอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย “เจ้าหนู พวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่?”
หยางเฟิงพูดเบา ๆ : “ไม่มีอะไร พวกเขาแค่ทายาถ่าย”
ทันใดนั้น
สายตาของเย่หลงที่มองหยางเฟิงก็เปลี่ยนไป
ผ่านไปสักพัก เขาก็ยกนิ้วโป้งขึ้น: “เจ้านี่ร้ายยิ่งนัก!”
“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว รีบไปกันเถอะ!”
หลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จแล้ว
พวกหยางเฟิงก็รีบถอยไปอย่างรวดเร็ว
ฟิ่ว!
ฟิ่ว!
ฟิ่ว!
หลังจากที่หยางเฟิงและคนอื่นๆ จากไปได้ไม่นาน
พวกผู้คุมกฎสิบและเหลิงฉานก็มาถึง!
พวกเขาเห็นซากศพของหมาป่าที่กองอยู่บนพื้น
แทบทุกตัวถูกฟันตายในดาบเดียว
เห็นได้ว่าคนที่ลงมือนั้นมีฝีมือที่แม่นยำและเฉียบขาดเป็นอย่างมาก
แรกเริ่มทุกคนล้วนมีสีหน้าเหมือนหนาวซีด!
ต่อมา
พวกเขามองไปที่เนื้อย่างบนกองไฟที่กำลังลุกโชน!
อึก!
เสียงกลืนน้ำลายคำใหญ่ดังขึ้น…
ตลาดทางที่ผ่านมา
พวกเขาได้ผ่านกับดักค่ายกลและการโจมตีจากสัตว์ร้ายมามากมาย
จนถึงตอนนี้
ยังไม่ได้กินอาหารดีๆ สักมื้อเลย!
เหลิงฉานหรี่ตาและพูดว่า: “ดูเหมือน หยางเฟิงจะรู้ว่าพวกเรากำลังมา ก็เลยล่าถอยไปก่อนแล้ว!”
“อืม!”
ผู้คุมกฎสิบพยักหน้า: “ถูกต้อง ดูซากศพของหมาป่าในที่นี้ อย่างน้อยก็มีนับร้อยตัว ด้านหยางเฟิงก็น่าจะเสียหายมากเช่นกัน”
“พวกเราไล่ตามไปดีมั้ย”
เหลิงฉานถามผู้คุมกฎสิบ
“แน่นอน! แต่หยางเฟิงเจ้าเล่ห์เพทุบาย เพื่อไม่ให้ถูกหลอก ให้พวกกองหนุนไร้ประโยชน์ลุยไปก่อน”
พอพูดเสร็จ
ทั้งสองมองตากัน
และใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มหัวเราะอย่างเย้ยหยันขึ้นมา
ผู้ที่เป็นถึงยอดฝีมือจากสำนักพรรคใหญ่ต่างๆ ในโลกบู๊ ตอนนี้ได้กลายเป็นกองหนุนไร้ประโยชน์
อย่างที่เขาว่ากันว่า
ผืนฟ้าและแผ่นดินราวกับว่าเป็นกระดานเกมหมากรุก
ส่วนสิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็เป็นเหมือนหมากตัวหนึ่งๆ บนกระดาน!
นักบู๊เหล่านี้
ตายไปสองถึงสามพันคนที่ประตูสุสาน
หลังจากเข้ามาในหุบเขา
เพื่อที่จะแย่งชิงสมุนไพร และต่อกรกับกับดักค่ายกลและสัตว์ร้าย
ก็บาดเจ็บล้มตายกันไปอีกสองสามพันคน
เดิมทีผู้คนหลายหมื่นคนที่ดุดัน ตอนนี้เหลือเพียงไม่ถึง 5,000 คนเท่านั้น!
เพื่อตามหาสุสานของเย่เวิ่น
และยิ่งเพื่อความอยู่รอดในหุบเขาที่อันตรายนี้
นักบู๊ห้าพันคนนี้จึงต้องพึ่งพากุ่ยเหมินและศูนย์พันธมิตรบู๊
เมื่อได้ยินดังนั้น
เหลิงฉานพยักหน้าและกล่าวว่า “กองหนุนไร้ประโยชน์พวกนี้ไม่ใช้ก็เสียเปล่า ให้พวกมันลองลุยไปก่อน ไปลองหยั่งเชิงดู!”
ไม่ว่าจะผู้คุมกฎสิบหรือเหลิงฉาน ล้วนแล้วเป็นจิ้งจอกเฒ่าทั้งนั้น
หยางเฟิงถอยกลับอย่างประหลาดเช่นนี้
ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง!
หลังจากที่ทั้งสองคนเห็นพ้องต้องกัน
ก็ให้นักบู๊ห้าพันคนรีบบุกไปข้างหน้าทันที!
อย่างไรก็ตาม นักบู๊เหล่านี้ไม่ใช่คนโง่ หาข้ออ้างต่างๆ และยึกยักชักช้า
หลังจากที่ผู้คุมกฎสิบและเหลิงฉานลงมือสังหารผู้คนนับร้อย
นักบู๊กว่าห้าพัน ก็ยอมทำตัวดีเชื่อฟังในที่สุด!
เพราะหากไม่ลุย ก็จะถูกศูนย์พันธมิตรบู๊และกุ่ยเหมินฆ่าตายอยู่ดี
หากเป็นเช่นนั้น
สู้ออกไปลุยสู้จนตัวตายยังจะดีซะกว่า!
“ฆ่ามัน!”
“จะซ้ายหรือขวาก็มีแต่ตายทั้งนั้น พวกเราบุก!”
“พี่น้องทั้งหลาย ลุย!”
…
ไม่นานนัก
ก็มีเสียงตะโกนฆ่าดังไปทั่ว
นักบู๊จำนวนนับไม่ถ้วน วิ่งพุ่งไปยังทิศที่พวกหยางเฟิงถอยหนี
และในเวลานี้
ก็มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น
ฟิ่ว!
ฟิ่ว!
ฟิ่ว!
ทันใดนั้น ทั้งสองด้านของป่าและเขา ก็มีลูกศรแหลมคมนับไม่ถ้วนบินพุ่งออกมา!
คนจำนวนไม่น้อยทยอยโดนลูกศรยิงเสียชีวิต
“แย่แล้ว มีการซุ่มโจมตี!”
“รีบถอยเร็ว!”
“หากยังไม่ถอยอีก พวกเราจะตายกันหมด!”
เสียงตะโกนร้องก็ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
ต่อหน้าลูกธนูนับไม่ถ้วน
นักบู๊นับพันต่างรีบพากันถอยกลับอย่างบ้าคลั่ง
อ๋า!
อ๋า!
อ๋า!
…
ยังไม่ทันรอพวกเขาได้รู้สึกตอบสนอง
เสียงกรีดร้องโหยหวนก็ดังขึ้นอีกรอบ
เห็นเพียงจู่ๆ พื้นก็ถล่มลงไป!
นักบู๊นับไม่ถ้วนตกลงไปในหลุม
ในหลุมขนาดใหญ่มีหอกแหลมคมมากมายนับไม่ถ้วนอยูที่ก้นหลุม