เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 667
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 667
ตระกูลหนิงอย่างพวกเขา เคยถูกคนธรรมดาเช่นนี้ดูถูกดูแคลนเมื่อใดกัน?
“หุบปากซะ!”
ไม่รีรอให้สวีโหย่วหรงได้พูดจบ
หนิงชิงเฉิงก็ตวาดตำหนิเธอ
หนิงชิงเฉิงมีสัญชาตญาณบางอย่าง
ผู้คนเหล่านี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับหยางเฟิง
เพียงแต่เฮียหยางของพวกเขา มีความเกี่ยวข้องกับคนของแวดวงทหารเมื่อใดกัน?
เขาเป็นลูกเขยของตระกูลเย่มิใช่รึ?
ข้อสงสัยต่างๆ ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ
แฮก!
แฮก!
แฮก!
ขณะนี้
หยางเฟิงรอให้ผู้คนเดินออกมา
“ฮ่า ฮ่า”
หยางเฟิงสูดอากาศบริสุทธิ์ และหัวเราะพลางพูด “ในที่สุดก็ออกมาแล้ว”
“เข้าพบท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่!”
“เข้าพบท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่!”
“เข้าพบท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่!”
ชั่วพริบตาเดียว
พลทหารแห่งสำนักเทพมรณะห้าพันนาย เงยหน้ามองผู้บัญชาการหนุ่มของพวกเขา
แววตารุ่มร้อนแผดเผา
ซื่อสัตย์ภักดีอย่างถึงที่สุด
ถึงขนาดน้ำตาปริ่ม
ในสายตาของพวกเขา
หยางเฟิงเป็นเทพสงครามผู้ไร้พ่าย
เป็นตำนานของต้าเซี่ย
เนิ่นนานเหลือเกินที่พวกเขาไม่ได้พบท่านแม่ทัพ
พวกเขาภาคภูมิใจที่ได้เป็นทหารของหยางเฟิง
ภายใต้ฟากฟ้า
กลิ่นคาวเลือดอันเข้มข้น ล้วนขึ้นอยู่กับโฮ่ร้องของสำนักเทพมรณะ ต้องไม่ให้เหลือซาก!
เพียงชั่วพริบตาเดียว
หนิงชิงเฉิงถึงกับตกตะลึง
เธอมองไปยังแววตาของหยางเฟิง เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้
พลทหารเหล่านี้ มีความเกี่ยวข้องกับหยางเฟิงจริงๆ รึ?
พวกเขาเรียกหยางเฟิงว่าท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่รึ?
ท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่นี้ คืออะไร?
แม้ว่าหนิงชิงเฉิงจะเป็นคุณหนูของตระกูลหนิง ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพลทหารมาก่อน
แต่แล้วหยางเฟิงกลับเป็นท่านแม่ทัพ
เป็นเรื่องของคนใหญ่คนโตที่อยู่เหนือการฑูตทหารและอำนาจของชั้นศาลทั้งหมด เป็นความลับสูงสุดของต้าเซี่ย!
ทั่วทั้งต้าเซี่ย ผู้ที่รู้ว่าตัวตนของหยางเฟิงคือท่านแม่ทัพมีไม่เกินสามคน
คือเจ้ามังกร
คือผู้นำตระกูลแห่งตระกูลหยาง
คืออัครเสนาบดีตำแหน่งปัจจุบัน
แม้แต่ผู้นำตระกูลแห่งตระกูลหนิง ก็ยังไม่รู้ว่า “ท่านแม่ทัพ” สองคำนี้ ท้ายที่สุดแล้วหมายถึงอะไร?
อย่าพูดถึงการเป็นหนิงชิงเฉิงผู้เล็กจ้อยเลย
แต่เนื่องจากความฉลาดหลักแหลมของหนิงชิงเฉิง
เพียงครู่เดียวเธอสามารถก็เดาออก
ดูเหมือนว่าตัวตนของหยางเฟิงนั้นไม่ง่ายดายเหมือน คุณชายที่ถูกทอดทิ้งตระกูลหยางและลูกเขยตระกูลเย่
เขาน่าจะยังมีตัวตนอันลึกลับที่ซ้อนเอาไว้อยู่
เมื่อคิดถึงจุดนี้
หัวใจของหนิงชิงเฉิงก็ไม่สามารถหยุดเต้นโครมครามได้
ตนไม่ได้มองผิดไปจริงๆ
ชายที่ตนชอบ จะเป็นลูกเขยผู้ไร้ความสามารถได้อย่างไร?
เพียงชั่วพริบตา
หนิงชิงเฉิงมองไปยังแววตาของหยางเฟิงอย่างหนักแน่นมากขึ้น
เธอต้องแย่งชิงหยางเฟิงจากข้างกายของเย่เมิ่งเหยียนมาให้ได้
เพราะหยางเฟิงต้องเป็นของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น!
“ท่านแม่ทัพ”
ขณะนี้
กัสสปะได้มาอยู่ต่อหน้าของหยางเฟิง และพูดอย่างอับอายว่า
“ข้าน้อยทำผิดไปเสียแล้วที่ปล่อยให้ผู้คุมกฎสิบแห่งกุ่ยเหมินหนีไปได้”
หยางเฟิงยิ้มเล็กน้อยพลางตอบ “ไม่เป็นไร”
คนเยี่ยงนั้นเป็นได้เพียงแค่ไม้ใกล้ฝั่ง
“ลำบากเหล่าสหายเสียแล้ว!”
“ไม่ลำบากอะไรเลยขอรับ!”
เพียงชั่วพริบตา
ลูกสมุนสำนักเทพมรณะห้าพันนายล้วนมีความสุขสนุกสนาน
หยางเฟิงก็คือเทพเจ้าของพวกเขา
หยางเฟิงยิ้มแย้ม พวกเขาก็ยิ้มแย้ม
หยางเฟิงหลั่งน้ำตา งั้นพวกเขาก็ต้องกระอักเลือด
ผู้ใดอาจหาญยั่วยุท่านแม่ทัพ ต้องถูกสังขารอย่างไร้ความปราณี
การที่ผู้คุมกฎสิบหนีไป
หยางเฟิงไม่คิดแปลกใจเลย
อย่างไรเสีย คนเช่นนั้นก็เป็นผู้แข็งแกร่งของแดนปรมาจารย์ใหญ่
ผู้แข็งแกร่งเยี่ยงนั้น ต้องอยู่ในระดับสูงที่ไม่หวาดกลัวอาวุธความร้อนธรรมดาแน่นอนอยู่แล้ว
แต่หยางเฟิงก็ไม่เคยใส่ใจเรื่องอื่นอยู่แล้ว
เมื่อเทียบกับสิ่งที่ตนเก็บเกี่ยวได้จากครั้งนี้
เงินทองสี่พันล้าน ตำราหมัดหย่งชุน ยาสมุนไพรนับร้อยปีถึงพันปี และแม้แต่ชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกร……
ผู้คุมกฎสิบ ไม่คุ้มค่าพอจะพูดถึง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
กัสสปะ ไม่เจอกันนานเสียแล้ว
ขณะนี้
เสือขาวยิ้มกว้างทันใด
เขาก้าวไปข้างหน้าและโอบกอดกัสสปะไว้แน่น
ทั้งสองเป็นสหายร่วมสงคราม
เป็นสมุนใต้บัญชาที่สำคัญของหยางเฟิง
สามารถระวังหลังให้กันได้ ถึงได้เป็นพวกพ้องของกันและกัน
ระหว่างพวกเขานั้น