เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 684
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 684
ที่จริงแล้ว
ไม่ใช่ว่าเสือขาวไม่พบศพ
มีศพของเย่ชิวอยู่ด้านใน
แต่เขาติดตามหยางเฟิงมาหลายปี และรู้ถึงความคิดของท่านแม่ทัพได้เป็นอย่างดี
ไม่ว่ายังไง เย่ชิวก็เป็นหลานชายของเย่ไห่
และตอนนี้ก็ไม่ว่าพ่อของตนเป็นหรือตาย หากมารู้ว่าหลานชายของเขา หลายชายเพียงคนเดียวของตระกูลเย่เสียชีวิตแล้วอีก…
เย่ไห่จะรับไม่ไหว!
ยิ่งไปกว่านั้น
การตายของเย่ชิวยังเกี่ยวข้องกับกุ่ยเหมิน
เย่ไห่เป็นเพียงคนธรรมดา
ท่านแม่ทัพคงไม่ต้องการให้เย่ไห่เข้าไปพัวพันกับความแค้นในยุทธภพพวกนี้!
ตึง!
จู่ๆ เย่ไห่ก็คุกเข่าลงบนพื้นและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
“คุณพ่อ! หรือคุณพ่อจะถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านไปหมดแล้ว?”
“ลูกอกตัญญู ยังไม่ทันได้เลี้ยงดูและดูใจบอกลากับคุณพ่อเลย…”
เย่ไห่ร้องไห้ด้วยความเสียใจเป็นอย่างมาก
ไม่มีความเสแสร้งอยู่ในนั้นเลยสักนิดเดียว
แม้ว่าเย่เทียนจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับลูกชายคนนี้สักเท่าไหร่
แม้ว่าเย่เทียนเลือกที่จะอยู่ในบ้านพักคนชรา มากกว่าจะมาอาศัยอยู่กับเขา
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เย่เทียนเป็นพ่อของเขา!
และเย่ไห่ก็เป็นลูกกตัญญู
เกิดเป็นลูกชาย
เวลานี้ไม่ร้องไห้ไม่ได้แล้ว!
และก็หยุดเศร้าเสียใจไม่ได้เช่นกัน!
เย่เมิ่งเหยียนเข้าไปปลอบประโลม: “คุณพ่อค่ะ หยุดเศร้าก่อนนะค่ะ บางทีคุณปู่อาจยังไม่ตายก็ได้?”
“ใช่แล้วครับ คุณพ่อ! เมิ่งเหยียนพูดถูก หากไม่พบศพของคุณปู่ ก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าปู่ตายแล้ว!”
ดวงตาของหยางเฟิง ปรากฏอาการแปลกๆ ออกมา
เย่เทียน จิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ จะยอมตายง่ายๆ ได้ยังไง?
เป็นไปได้มากว่า นี่เป็นแผนที่ไอ้แก่นี่ใช้เพื่อหลบหนีไป!
เพียงแต่ไม่รู้ว่า
ไอ้แก่หนังเหนียวนี่ หนีออกไปแล้ว คิดจะทำอะไร?
“เอาล่ะ!”
“พวกเธอไม่ต้องพูดต่อแล้ว!”
จู่ๆ
เย่ไห่ก็ตะคอกเสียงดัง!
เขาเป็นประธานกรรมการของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปมาตั้งนานจนสามารถเก็บงำอารมณ์ความรู้สึกไม่แสดงออกมาได้ แต่ในตอนนี้ เขากลับยั้งสติไม่อยู่แล้ว!
“ไฟที่ลุกลามขนาดนี้ แล้วคุณพ่อก็อายุตั้งขนาดนั้นแล้ว จะหนีไปได้อย่างไร!”
“เมิ่งเหยียน หลังจากลูกกลับไป เตรียมสุสานให้คุณปู่ของลูกด้วย!”
ไม่พบศพของเย่เทียน ก็ไม่มีทางที่จะจัดงานศพได้อยู่แล้ว
แต่ว่าสุสานยังไงก็ยังต้องเตรียม!
ก็ดีเหมือนกัน…
ตั้งสุสานที่ฝังสิ่งของของผู้ตายไว้ให้พ่อของตนแทน
เย่เมิ่งเหยียนพยักหน้าและพูดว่า “ได้ค่ะ คุณพ่อ!”
“เอาล่ะ ฉันรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย ขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อนนะ!”
หลังจากพูดจบ
เย่ไห่ก็กลับไปคนเดียว…
“คุณพ่อค่ะ!”
เย่เมิ่งเหยียนตะโกนเรียก แต่เมื่อเห็นพ่อของเธอไม่หันกลับมา เธอจึงทำได้เพียงวิ่งตามไปอย่างกังวล และกลับไปพร้อมกับเขา
ขณะที่มองดูแผ่นหลังของเย่ไห่ที่กำลังจากไป
หยางเฟิงก็ส่ายหัวเบาๆ
พ่อตาของเขาคนนี้ จิตใจดีเกินไป…
ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่สงสัยเลยว่าพ่อของเขาแกล้งตายหรือไม่
บางทีในความคิดของเย่ไห่ เย่เทียนเป็นเพียงชายชราอายุแปดสิบ
แต่หยางเฟิงรู้ดีว่า
เย่เทียนเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์สุดๆ ตัวหนึ่ง!
รอจนทั้งสองคนขึ้นรถ และเดินทางจากไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
สีหน้าของหยางเฟิงเคร่งขรึมขึ้นมา
เสือขาวตอบกลับ: “เรียนท่านแม่ทัพ จากการตรวจสอบของข้าน้อย นี่เป็นการวางเพลิงที่โดยฝีมือคนครับ บนพื้นมีร่องรอยของน้ำมันอยู่ครับ!”
“นอกจากร่างของเย่ชิวแล้ว ก็ไม่มีร่างของคนอื่นอีก เย่เทียนต้องทำการหลบหนีเป็นแน่ครับ!”
เสือขาวเป็นถึงขุนพลในกองทัพ
ต่อหน้าเขา ใช้วิธีห่วยๆ เช่นนี้ ช่างไร้เดียงสาเกินไปจริงๆ!
หลังจากได้ยินสิ่งที่เสือขาวพูด
มุมปากของหยางเฟิงค่อยๆ ก็เผยให้เห็นการยิ้มอย่างเย้ยหยัน
เสือขาวถามด้วยสีหน้าซีดเผือด “ท่านแม่ทัพ จะสั่งการให้ค้นหาทั่วทั้งเมืองไหมครับ?”
หยางเฟิงไม่ตอบ แต่ถามกลับว่า “นายรู้จักวิธีฝึกลิงไหม”
“หืม?”
เสือขาวงุนงง
“คนฝึกลิงที่ฝีมือดี จะไม่ตีลิงให้ยอมจำนนในคราวเดียว เพราะลิงที่ฝึกออกมา นิสัยแย่ๆ จะไม่เปลี่ยน
แต่เขาจะจงใจให้ลิงทำผิด ทำผิดหนึ่งครั้ง ก็ตีจนหายใจโรยรินหนึ่งครั้ง ทำแบบนี้สักสามถึงห้าครั้ง ลิงตัวนั้นก็จะเชื่อฟังแล้ว”
“คนก็เหมือนกับลิง เมื่อพวกเขาประเมินตัวเองสูงเกินไป ก็จะไม่เห็นใครอยู่ในสายตา รอจนเมื่อเจอปัญหาจริงๆ และถูกทุบตีสักสองสามครั้ง พวกเขาถึงจะรู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”
“ทำให้คนพวกนี้ตายง่ายๆ มันธรรมดาเกินไป”
“ฉันจะทำให้พวกมันสิ้นหวัง!”
เงียบฉี่……
เสือขาวสูดหายใจเขาลึก
จากสายตาของหยางเฟิง เขาเหมือนจะมองเห็นเทพมรณะที่ไล่ฆ่าฟันข้าศึกในสนามรบอีกครั้ง!
เสือขาวรู้ว่า
ท่านแม่ทัพโกรธจัดแล้ว!
ช่างน่าตลกสิ้นดี!
พวกมดที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำกลุ่มนี้ ไม่รู้ซะแล้วว่าพวกมันกำลังทำให้สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวขนาดไหนโกรธอยู่!
ในขณะเดียวกัน
ที่ชานเมืองของตงไห่
“เธอจะพาฉันไปไหน”