เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 738
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 738
หากสังเกตให้ดี
จะเห็นกะโหลกสีขาวอันน่าสยดสยอง
ไอปีศาจพุ่งขึ้นอากาศทำให้รู้สึกสยอง
บนบัลลังก์โครงกระดูก มีชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมพญางูสีดำนั่งอยู่
ตามตำนานเล่าว่าในก่อนยุคฉิน สามราชาห้าจักรพรรดิสวมคลุมพญางูสีดำ
ดังนั้นเสื้อคลุมพญางูสีดำจึงเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับราชวงศ์ในต้าเซี่ย
คนผู้นี้สวมชุดเสื้อคลุมพญางูสีดำ เห็นได้ชัดว่าราชวงศ์ต้าเซี่ยไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย!
เขาสวมหน้ากากปีศาจสีทองบนหัวของเขา
หน้ากากปีศาจนี้ดูน่าเศร้าและขบขัน
นี่คือหน้าตาบูดบึ้งที่ดูเหมือนร้องไห้แต่ไม่หัวเราะ
แค่มองไปก็จะรู้สึกเวียนหัวและมีเหงื่อออกเต็มตัว
ราวกับว่ามีปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวกำลังจ้องอยู่!
บนหัวของเขา เขายังสวมลูกปัดซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิในสมัยโบราณ
น่าเกรงขามและทรงพลัง!
เหมือนว่าคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าเขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นจักรพรรดิสมัยหนึ่ง
แต่ทว่าตัวของเขาเต็มไปไอปีศาจที่รุนแรง
ราวพญายมราชในขุมนรก
ชายหน้าปีศาจคนนี้คือหัวหน้าสำนักกุ่ยเหมิน!
ไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาและไม่มีใครรู้ว่าเขาชื่ออะไร
แม้แต่คนในกุ่ยเหมินก็ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา!
สรุปได้ว่าหัวหน้าสำนักกุ่ยเหมินผู้นี้ช่างลึกลับยิ่งนัก
คนที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาตายเกือบหมดแล้ว!
หัวหน้าสำนักกุ่ยเหมินก้มมองผู้คุมกฎสิบและพูดดอย่างเย็นชาว่า “ภารกิจสำเร็จแล้วหรือไม่ ชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรอยู่ที่ไหน?”
เสียงของหัวหน้าสำนักกุ่ยเหมินก็แปลกยิ่งนัก ไม่ใช่เสียงของหญิงหรือชาย ฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงผู้หญิงหรือผู้ชาย
และมีความแปลกประหลาดอยู่ในน้ำเสียงของเขา
เหมือนว่าสามารถกระตุ้นความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกที่สุดในใจของมนุษย์ได้!
ได้ยินเช่นนั้น
ผู้คุมกฎสิบคนอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัว
เหงื่อหยดลงจากหน้าผากของเขาทีละหยด
“หัวหน้าสำนัก ข้า…”
เมื่อเห็นผู้คุมกฎสิบตะกุกตะกัก
สายตาหัวเจ้าสำนักกุ่ยเหมินส่องประกายอย่างเย็นชาและเขาถามเบาๆ ว่า “ภารกิจของเจ้าล้มเหลว?”
ตุ้ม!
ผู้คุมกฎสิบก้มหัวด้วยความกลัวและตะโกนว่า “หัวหน้าสำนักโปรดยกโทษให้ข้าด้วย…”
ไม่ทันที่ผู้คุมกฎสิบจะพูดดจบ
พลังการสังหารที่น่าสะพรึงกลัวก็ปกคลุมเขาทันที
พลังการสังหารทที่แท้จริง
แม้ผู้แข็งแกร่งอย่างผู้คุมกฎสิบ ก็รู้สึกว่าเขาหายใจไม่ออก และหน้าแดงก่ำ
ราวกับจะขาดใจตาย!
“ให้โอกาสเจ้าอธิบายให้ชัดเจน มิฉะนั้น… จุดจบเจ้าน่าจะรู้!”
เสียงนี้ไร้ซึ่งความรู้สึกและเยือกเย็นอย่างมาก
ราวกับน้ำแข็งนับพันปี เหมือนว่าแช่แข็งจิตวิญญาณของคนทั้งคนได้
“หัวหน้าสำนักโปรดยกโทษให้ข้าด้วย ข้าน้อยไปตงไห่ครั้งนี้…” จากนั้น
ผู้คุมกฎสิบตัวสั่นเทาและเล่าถึงการเดินทางทั้งหมดของการไปตงไห่
“หยางเฟิง?”
“เขยแต่งเข้า?”
เมื่อฟังผู้คุมกฎสิบ
หัวหน้าสำนักกุ่ยเหมินสีหน้าดูสงสัย
นี่มันอะไรกัน?
เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะเชื่อว่าเป็นแค่เขยแต่งเข้าธรรมดาคนหนึ่ง สามารถขโมยชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรจากสองพรรคอันทรงพลังอย่างศูนย์พันธมิตรบู๊และกุ่ยเหมินได้!
ไม่เพียงแค่นั้น
ศูนย์พันธมิตรบู๊ถูกกำจัดเกือบหมด และแม้แต่เหลิงฉานผู้คุมกฎใหญ่ก็ตาย
แต่ทว่าผู้คุมกฎสิบกลับหนีรอดมาได้
แต่สาวกกุ่ยเหมินแปดร้อยคนที่ติดตามก็ตายในหมู่บ้านตระกูลเย่
การสูญเสียที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้เกิดจากเขยแต่งเข้าคนหนึ่งหรือ?
“จ้าวสิบข้าเห็นว่าสิ่งที่เจ้าพูดดมานั้นเป็นเพียงข้อแก้ตัวทั้งนั้น!”
“อะไรเขยแต่งเข้า? อะไรหยางเฟิง? ข้าคิดว่าเจ้าทำงานไม่สำเร็จ กลัวหัวหน้าสำนักจะลงโทษจึงจงใจสร้างเรื่องโกหก!”
“หัวหน้าสำนักขอให้ท่านลงโทษจ้าวสิบอย่างหนัก เพื่อไม่ให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง!”