เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 755
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 755
หยางเฟิงยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางพูดว่า วางใจเถอะ เขาไม่จากไปไหนหรอก
ถ้าหากจางหมิงกล้าจากไป
ชะตาชีวิตอันน้อยนิดของเขาก็ไม่ต้องเอาแล้ว
เพียงแต่จางหมิงเป็นคนฉลาด
เขาก็จะรู้ว่าเขาต้องทำเช่นไร
เมื่อเห็นสีหน้าที่มั่นใจของหยางเฟิง
เย่เมิ่งเหยียนก็มิได้ถามอะไรเพิ่มอีก
ยังไงซะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
หยางเฟิงจะช่วยเธอแก้ปัญหาเสมอ
หล่อนไม่จำเป็นต้องมีความกังวลใจใดๆ
ในเวลาเดียวกัน
จางหมิงที่อยู่ตรงหน้าประตูรู้สึกลุกลี้ลุกลน
โชคดีที่หยางเฟิงมิได้ปกปิดตำแหน่งที่อยู่ของตนเอง มิเช่นนั้นเขาคงทำได้รออยู่ที่บ้าน นอนรอความตาย
เมื่อเห็นหลิวซิงเดินออกมา
จางหมิงรีบไปเดินมาหาทันที พลางยิ้มแล้วถามว่า “เป็นเช่นไรประธานเย่ยินยอมให้ข้าเข้าพบหรือไม่” ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ถึงแม้หลิวซิงจะเป็นผู้จัดการใหญ่ แต่จางหมิงก็ไม่เห็นหัวเลย
แต่ตอนนี้ จางหมิงสีหน้าเต็มไปด้วยความเกรงอกเกรงใจ
หลิวซิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “ต้องกราบขออภัยด้วย คุณหยางกล่าวว่าเขามิมีเวลาว่างมาพบคุณ”
เมื่อได้ยินดังนั้น จางหมิงสีหน้าซีดเผือก
“ไม่ได้นะ!”
ขอร้องล่ะ ช่วยพูดแทนข้าหน่อย ให้ข้าเข้าไปก็โอเคแล้ว
หลิวซิงถอนหายใจอย่างเย็นชาพลางพูดว่า “แกคิดว่าแกเป็นใคร เจ้าเป็นใครถึงมาขอความเห็นใจจากข้า”
เมื่อพูดจบ
หลิวซิงเหนื่อยหน่ายที่จะสนใจจางหมิง จึงเดินออกไปจากที่ตรงนั้น
เมื่อเห็นท่าทางของหยางเฟิง
หลิวซิงก็รู้ทันที่ว่าจางหมิงจะต้องทำให้หยางเฟิงไม่พอใจเป็นแน่
ให้เขาช่วยจางหมิงร้องขอความเห็นใจ
สมองเขาคงจะผิดเพี้ยนเป็นแน่
เมื่อเห็นหลิวซิงเดินจากไป
จางหมิงก็เหมือนกับเผชิญกับผุยผงแห่งความมรณา
เขากัดฟัน ราวกับว่าได้ทำการตัดสินใจครั้งใหญ่
ในที่สุด
ตึกๆ
ทั้งกายาของเขาก็คุกเข่าอยู่บนพื้น
ถึงแม้จะต่อหน้าครอบครัวใหญ่ การคุกเข่าอยู่ที่พื้นก็เป็นเรื่องที่น่าอับอาย
แต่หากเปรียบเทียบโชคชะตาชีวิตอันน้อยนิด
การเผชิญหน้าก็เป็นเรื่องเล็กน้อย
ถ้าหากไร้ซึ่งชีวาวัน จะยังสามารถเผชิญหน้ากับสิ่งใดได้อีก
หลังจากนั้น
พนักงานของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์กรุ๊ปก็สร้างปรากฏการณ์ที่น่าสนใจขึ้นมา
บุคคลผู้หนึ่งคุกเข่าอยู่ที่หน้าประตู ไม่ว่าใครเรียกไม่ยอมตื่นขึ้นมา
ต่อมาทุกคนถึงได้ทราบว่า บุคคลผู้นี้ได้ทำร้ายคุณชายหยางเถ้าแก่ใหญ่ของพวกเขา ก็ไม่มีใครกล้าก้าวขึ้นมาแล้ง
ยังไงเสีย เรื่องราวเช่นนี้
ก็ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนชั้นล่างที่ตัวเล็กจ้อยสามารถเข้าไปก้าวก่ายได้แล้ว
……
ผ่านไป 1ชั่วโมง
หยางเฟิงและเย่เมิ่งเหยียนก็เดินออกมาจากสำนักงาน
“เฮ้ นี่ไม่ใช่หัวหน้าสถาบันวิจัยเครื่องสำอางแห่งหู้ไห่หรอกรึ?เหตุใดจึงมีคุกเข่าอยู่ด้านหน้าบริษัทของข้า?”
เมื่อครู่เมื่อเดินมาถึงปากประตู
หยางเฟิงก็เห็นว่าจางหมิงกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น
“มิบังอาจ!มิบังอาจ!”
จางหมิงสีหน้าหวาดกลัว
ก่อนที่จะมาที่ จางหมิงได้ทำการตรวจสอบแล้วว่า
หยางเฟิงเป็นเถ้าแก่ใหญ่ของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์กรุ๊ป
และหยางเฟิงก็เป็นสามีท่านประธานใหญ่เฟิงเมิ่งกรุ๊ป เย่เมิ่งเหยียน
เย่เมิ่งเหยียนชำเลืองมองหยางเฟิง
ทำไมคำพูดของหยางเฟิงทุกประโยคจึงถูกต้องเสมอ
เขาพูดว่าจางหมิงจะไม่จากไป
จางหมิงก็ไม่จากไปจริงๆด้วย
ไม่เพียงแต่ไม่จากไป
ยังมาคุกเข่าอยู่ที่หน้าประตูทางเขาบริษัท
หยางเฟิงไม่ได้สนใจเขา ถามด้วยน้ำเสียงราบนิ่งว่า เจ้ารับผิดชอบข้อมูลทางการตลาดใช่ไหม
จางหมิงรีบพยักหน้าตอบรับ “ใช่ครับๆ”
“ข้อมูลตลาดทางใต้มีหรือไม่!”
“มีครับ!”
จางหมิงไม่กล้าที่จะลังเล หยิบ USBออกมาจากกระเป๋า ส่งมอบไว้อย่างนอบน้อมไว้บนโต๊ะ
“ข้อมูลตลาดทางเหนือมีหรือไม่!”
จางหมิงสีหน้าเปลี่ยนไป ลังเลอยู่ชั่วครู่ จึงพยักหน้า
“มีครับ!”
“ข้อมูลตลาดของเอเชีย มีหรือไม่!”
สีหน้าของจางหมิงดูทุเรศทุรังยิ่งกว่าเดิม
“อันนี้ก็มีครับ!”
“ผู้นำสถาบันจางช่างเก่งกาจสมคำร่ำลือ ถ้าหากต้องการข้อมูลการตลาดทั้งโลก เจ้าก็มีหมดใช่หรือไม่?”