เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 849

เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 849
หากไม่มองไปที่เขานั้นคือพี่ชายของหนิงชิงเฉิงล่ะก็

ตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่าเขานั้นจะต้องตีเจ้าหนิงหวูเชวจนเขาต้องเรียกว่าพ่อเลย ！

ไม่คิดเลยว่า เมื่อโตขึ้นแล้ว เจ้าหนิงหวูเชวจะเปลี่ยนไปเป็นโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้

อีกทั้งยังกล้าที่จะฆ่าสังหารคนในงานประชุมผู้ถือหุ้น

ถึงแม้ว่าตระกูลหนิงจะร่ำรวยมาก

หรือว่าเขานั้นจะได้รับความโกรธแค้นอะไรมาจากพวกผู้ถือหุ้นหรือเปล่า?

หยางเฟิงหัวเราะเยือกเย็นออกมา

มองแล้วในครั้งนี้ เจ้าหนิงหวูเชวนั้นอยากที่จะรนหาที่มาเล่นกับไฟเอง！

“สามี พวกเราตอนนี้จะทำยังไงดีคะ？”

“ถึงแม้พวกเราจะไม่กลัวชิงเฉิงกรุ๊ป แต่ว่าเจ้าหนิงหวูเชวนี่มันบ้าเกินไปแล้ว ใครจะไปรู้ว่าเขานั้นจะกล้าทำเรื่องบ้าๆอะไรเช่นนี้？”

เย่เมิ่งเหยียนนั้นเอ่ยด้วยสีหน้ากังวลแล้วมองไปที่หยางเฟิง

ตอนนี้สามารถแน่ใจได้ว่า เจ้าหนิงหวูเชวนั้นเป็นคนบ้าคนหนึ่ง

หากให้เขานั้นรวบซื้อหุ้นของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปไปจริงๆ

สำหรับทั้งเฟิงเมิ่งกรุ๊ปแล้วนั้น นี่มันเป็นวิกฤตครั้งใหญ่เลย！

หยางเฟิงหรี่ตา ก่อนที่จะเอ่ยยิ้มๆ “เดิมทีแล้วผมนั้นกำลังคิดว่าจะทำยังไงถึงจะเอาชนะพวกชิงเฉิงกรุ๊ปได้ ทั้งชิงเฉิงกรุ๊ปนั้นเป็นบริษัทที่ใหญ่ หากทำไม่ดี จะทำให้คนตกงานกันเยอะมาก อีกทั้งยังจะทำให้สังคมนั้นวุ่นวายไปอีก

“ไม่คิดเลยว่า หนิงหวูเชวนั้นจะส่งโอกาสดีๆที่สิบปีหายากอะไรเช่นนี้มาให้ผม อยากที่จะซื้อเฟิงเมิ่งกรุ๊ปไปหรอ ฝันไปเถอะ นี่สวรรค์อยากที่จะดับชิงเฉิงกรุ๊ปแล้ว！”เอ่ยถึงตอนนี้

หยางเฟิงหัวเราะหึออกมา

เมื่อก่อนชิงเฉิงกรุ๊ปนั้น หลายครั้งมากที่โจมตีโรงงานของภรรยาตนเอง

ถึงแม้จะเป็นเหมือนคนโคลนแต่ก็แบ่งช่วงไฟแห่งความโกรธ

เดิมทีแล้วมองไปที่หนิงชิงเฉิงแล้ว หยางเฟิงนั้นไม่อยากที่จะลงมือ

แต่ว่าตอนนี้ กรรมการของชิงเฉิงกรุ๊ปนั้นได้เปลี่ยนเป็นหนิงหวูเชวแล้ว

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นอย่ามาหาข้านั้นอำมหิตลงมือก็แล้วกัน！

เมื่อได้ยินดังนั้น

เย่เมิ่งเหยียนเอ่ยถามอย่างสงสัย“สามี คุณคิดยังไงอะไรหรอคะ?”

โจมตีชิงเฉิงกรุ๊ป นั้นเป็นความปรารถนาของเย่เมิ่งเหยียน

อีกทั้งชิงเฉิงกรุ๊ปใหญ่มากมาย เกือบที่จะครอบครองเมืองเหนือไปจนหมด

ถึงแม้ตอนนี้บริษัทเฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้นกำลังที่เติบโตขึ้น แต่ว่าก็จะแข่งกับชิงเฉิงกรุ๊ป ได้เท่านั้น

อยากที่จะโจมตีทำลายชิงเฉิงกรุ๊ปได้นั้น นั้นเหมือนความฝันที่ไม่อาจจะเป็นจริงได้

แต่ในเมื่อหยางเฟิงเอ่ยดังนี้

เย่เมิ่งเหยียนก็เชื่อแล้ว หยางเฟิงนั้นต้องมีความคิดวิธีแน่นอน

เพราะว่าหยางเฟิงเวลาทำเรื่อง ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยทำให้เธอนั้นผิดหวังเลย

เอ่ยตามจริง

ถึงจนตอนนี้ เย่เมิ่งเหยียนนั้นก็เริ่มสงสัยในตัวตนของเหยางเฟิงเลยไม่น้อย

เธอนั้นค่อยๆแอบซ่อนความคิด ว่าสามีของเธอเอง นั้นเป็นคนที่มีพลังอำนาจ ที่แม้แต่ตัวเองก็คิดไม่ถึง

แต่ว่าหยางเฟิงนั้นไม่เคยเอ่ยอะไร เธอนั้นก็ไม่ได้เอ่ยถาม

ในใจของเธอนั้น หยางเฟิงเขานั้นเหมือนกับตัวแทนของประเทศ ราวกับว่ามีการปกปปิดความลับ ไม่สามารถที่จะเผยออกมาได้ ……

หยางเฟิงหัวเราะ“เมิ่งเหยียน ตอนนี้เธอนั้นต้องรีบเพิ่มทุนหุ้นลงไปนะ เพื่อดึงดูดดเงินลงทุนจากชิงเฉิงกรุ๊ป！ ถึงแม้จะเป็นการเพิ่มทุนหุ้น แต่ว่าก็จะเป็นการเจือจางหุ้นให้กับเฟิ่งเมิ่งกรุ๊ปของพวกเรา！”

“แต่ว่าคุณไม่ต้องกังวลนะ พวกเราตระกูลเย่เดิมทีแล้วก็ได้ถือหุ้นของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปไปแล้วเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ พวกเรานั้นจะปล่อยไปแค่สามสิบกว่า ก็เพียงพอสำหรับชิงเฉิงกรุ๊ปแล้วล่ะ”

เฟิ่งเมิ่งกรุ๊ปก่อนหน้านี้นั้นคือเย่ซื่อกรุ๊ป เดิมทีแล้วนับว่าเป็นกิจการธุรกิจของตระกูลเย่อยู่แล้ว

หลังจากนั้นก็ได้หยางเฟิงที่มาซื้อเฟิงเมิ่งกรุ๊ป

เย่เมิ่งเหยียนและคนอื่นในครอบครัวก็ได้ถือหุ้น ที่ถือไปแล้วกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์

ถึงแม้จะโยนออกสามสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

ตระกูลเย่นั้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป！

แต่ว่าชิงเฉิงกรุ๊ปนั้นไม่เหมือนกัน

ถึงแม้ตระกูลหนิงนั้นจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในชิงเฉิงกรุ๊ป