เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 875
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 875
ฟู๋โป๋ที่อยู่ด้านหน้านั้นไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ
เพราะว่าบนตัวเขานั้น ได้มีกลิ่นอายที่แสดงออกมาถึงออร่าที่แตกต่างจากคนอื่นๆไป!
แต่ว่าฟู๋โป๋ที่อยู่ต่อหน้าของหยางเฟิง แต่ว่ากลับแสดงออกอย่างระมัดระวัง เหมือนกับของชิ้นเล็กๆ
เย่เม่งเหยียนนั้นไม่เข้าใจ ว่าหยางเฟิงนั้นมีอะไรให้กลัวขนาดนั้น ?
แต่ว่าหยางเฟิงนั้นไม่ได้เอ่ยอะไร
เธอนั้นก็ได้ยื่นอยู่ข้างๆอย่างนิ่งๆ ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
ในสายตาคนภายนอกนั้น
เย่เมิ่งเหยียนเอนั้นก็ยังรักษาใบหน้าของหยางเฟิงไว้ เพื่อหน้าตาของวงตระกูลนี้!
หยางเฟิงที่มีสีหน้าที่เย็นชานั้นมองไปที่ฟู๋โป๋ ก่อนที่จะเอ่ยอย่างไรอารมณ์ “ เจ้ามาทำอะไรกัน? เจ้านั่นที่ไอ้แก่งั่กให้เจ้ามาที่นี่
หรอ?”
แฮะแฮะ!
ฟู๋โป๋อดไม่ได้ที่จะแกล้งไอกระแอมออกมา
เสียงคำของคุณชายนั้น
ยากที่จะรับ!
ทั้งเมืองต้าเซี่ย จะมีเพียงหยางเฟิงเท่านั้นที่จะกล้าด่าเรียกหยางติ่งเทียนว่าไอ้แก่งั่ก
ฟู๋โป๋ไม่ได้เอ่ยรับคำพูดต่อ
คำแบบนี้ เขานั้นหมดปัญญาที่จะตอบรับจริงๆ!
“นี่เป็นคุณปู่ ให้ข้านั้นมาส่งจดหมายเชิญคุณนายหญิงหนึ่งฉบับครับ!”
ฟู๋โป๋ได้ควักบัตรเชิญออกจากในกระเป๋า ก่อนที่จะส่งมอบไปให้เย่เมิ่งเหยียนด้วยมือทั้งสองช้าง
“ให้ฉันหรอ?”
เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังนี้
เย่เมิ่งเหยียนนั้นตกตะลึง
ฟู๋โป๋เอ่ยกล่าวด้วยใบหน้าที่ “ใช่ครับ!คุณนายหญิง ท่านปู่นั้นอยากที่จะเชิญท่านนั้นไปร่วมพูดคุยด้วยสักหน่อย!”
“ในเมื่อท่านนั้นได้แต่งงานกับคุณชายมาตั้งหลายปี อีกทั้งยังไม่เคยกลับไปที่บ้านของคุณชายเพื่อดูเลย ……”
“หุบปาก!”
ไม่รอให้ฟู๋โป๋เอ่ยจบ
หยางเฟิงนั้นได้จ้องมองไปที่เขาเขม็งก่อนที่จะเอ่ย:“หากกล้าที่จะเอ่ยอะไรมั่วซั่วอีก ข้านั้นฉีกปากของเจ้าเป็นชิ้นๆสะ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น
ฟู๋โป๋นั้นได้รีบหุบปากลงในทันใด
เพราะว่าเขารู้ดี หยางเฟิงนั้นเอ่ยจริงทำจริง !
เย่เมิ่งเหยียนนั้นเหลือบไปมองหยางเฟิง ก่อนที่จะหันไปเอ่ยยิ้มกับฟู๋โป๋ “ขอบคุณท่านบ้านตระกูลคุณปู่ค่ะ!”
สามีของตนคนนี้
ดีก็นับว่าดี
แต่ว่าเหมือนจะรู้แต่การตีการฆ่า การคุยกับผู้ใหญ่ก็ไม่เกรงใจกันเลยสักหน่อย
เอ่ยแล้ว เย่เมิ่งเหยียนก่อนที่จะรับบัตรเชิญมา
เมื่อมองเห็นเย่เมิ่งเหยียนรับบัตรเชิญมา
ใบหน้าของฟู๋โป๋นั้นยิ่มร่า ก่อนจะเอ่ย “ คุณหญิง งั้นกระผมขอตัวลาก่อนนะครับ!”
เมื่อเอ่ยจบ
ฟู๋โป๋นั้นก็ได้วิ่งฝุ่นตลบออกไป
เขาเกรงว่าหากตนเองอยู่ที่นี่ต่อไป หยางเฟิงคงอยากที่จะฆ่าเขาจริงๆ!
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของฟู๋โป๋ที่วิ่งออกไป
หยางเฟิงเอ่ยหึด้วยเสียงเยือกเย็น
หากไม่ใช่เพราะเย่เมิ่งเหยียนอยู่ที่นี่
เขานั้นคงจะไม่สามารถไว้ชีวิตเจ้าบ้านั่นไว้แน่!
เย่เมิ่งเหยียนเปิดบัตรเชิญออก
บนนั้นเขียนอย่างเรียบง่าย
เชิญชวนเย่เมิ่งเหยียน มาทานมื้อค่ำที่บ้านตระกูลหยาง!
เย่เมิ่งเหยียนหันมา ก่อนที่จะมองแล้วตรวจสอบหยางเฟิงด้วยสายตาแล้วเอ่ย “ที่รักคะ เหมือนฉันจะไม่เคยได้ยินมาว่า คุณนั้นยังมี
ครอบครัวนะ ? คุณเป็นคนไร้บ้านไม่ใช่หรอ?แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้มีตระกูลหยางโผล่มาล่ะ?”
แฮะแฮะ!
เมื่อมองเห็นสายตาของเย่เมิ่งเหยียน
หยางเฟิงเลยลอกเลียนแบบฟู๋โป๋
แกล้งไอขึ้นมา!
เขารุ้ดี หากว่าวันนี้ตนเองนั้นไม่ยอมอธิบายที่มันสมเหตุสมผล เย่เมิ่งเหยียนนั้นคงจะไม่ปล่อยตนไว้แน่!
หยางเฟิงจึงถอนหายใจแล้วเอ่ย “ ที่รักครับ คุณยังจำเมื่อก่อนได้ไหม ผมเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับการไร้บ้านของผมได้ไหม ที่ผมเคยเอ่ย
กับคุณ”
ใบหน้าของเย่เมิ่งเหยียนนั้นสงสัย !
แน่นอนว่าเธอนั้นจำได้
หยางเฟิงนั้นเคยเอ่ยกับเธอ
ว่ามีชายหนุ่ม เกิดมาในตระกูลใหญ่ เดิมทีที่มีชีวิตที่สุขสบายไร้ความกังวล
มีที่รักตนเอง แล้วก็มีแม่ที่รักตนเองอีก
เดิมทีนั้นเขานั้นสามารถที่จะใช่ชีวิตโดยไร้ความกังวลอย่างมีความสุขได้ตลอดชีวิต
แต่ว่าทันใดในเช้าวันหนึ่งนั้น
เดิมทีพ่อที่รักตนเองนั้นได้เกิดเปลี่ยนไปกะทันหัน
ที่เอาชายหนุ่มและแม่ของเขานั้น ขับไล่ออกจากบ้านไป!
ชายหนุ่มและแม่ของเขานั้นไม่มีที่ที่จะไป จึงทำได้แค่เร่ร่อนไปบนถนน
ในตอนท้าย แม่ของเขานั้นทนหนาวและความหิวโหยไม่ได้ก่อนที่จะล้มป่วยแล้วจึงต้องถึงแก่กรรมไป
แต่ชายหนุ่มนั้น ได้เร่ร่อนคนเดียวตั้งแต่ตอนเหนือจนถึงตอนใต้