เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 945
เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 945
แต่ในตอนนี้!
ณ เวลานี้!
ต่อหน้าต่อตาของเขา
หลงกูเฉิงกลับบอกว่า หยางติ่งเทียนเป็นอาเขยของเขา?
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ขณะที่หลงเฟยหยูกำลังจะเปิดปากถามให้เข้าใจ
หลงกูเฉิงโบกมือของเขาและพูดว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดเรื่องไร้สาระแล้ว แกรีบไปพักฟื้นร่างกายดีกว่านะ!”
พูดจบ พวกพยาบาลก็เข็นหลงเฟยหยูเข้าไปในห้องพักคนป่วย
ขณะเดียวกัน
หลงกูเฉิงได้จัดเตรียมบอดี้การ์ดไว้สิบกว่าคน เพื่อคอยคุ้มกันหลงเฟยหยูตลอด 24 ชั่วโมง
หลังจากจัดการทั้งหมดเสร็จ หลงกูเฉิงก็ออกจากโรงพยาบาลไป
แม้ว่าหลงเฟยหยูจะปลอดภัย ไม่เป็นอะไรแล้ว
แต่การที่หยุนเฟยฉางกล้าลอบสังหารลูกชายของเขา
เรื่องนี้ เขาจะต้องคิดบัญชีกับตระกูลหยุนเป็นแน่!
หลังจากหลงกูเฉิงกลับมาถึงบ้านของตระกูลหลง ก็มีเงาหลายร่างมาปรากฏต่อหน้าเขา
ออร่าทรงพลังที่แผ่ออกมาจากคนเหล่านี้ ล้วนเป็นยอดฝีมือระดับแดนปรมาจารย์!
เขาหรี่ตาลงและพูดว่า “พวกเจ้า จงไปเฝ้าดูตระกูลหยุนไว้! หากมีความเคลื่อนไหวใดๆ ให้รีบมาบอกข้าทันที!”
หลังจากพูดจบ เหล่ายอดฝีมือระดับแดนปรมาจารย์ก็พยักหน้าและจากไป
ดวงตาของหลงกูเฉิงก็ปรากฎให้เห็นแสงในแววตาของเขา
เขาพูดกับตัวเองด้วยใบหน้าที่ดุร้าย: “ตระกูลหยุน ฉันไม่สนว่าพวกแกคิดจะทำอะไร แต่พวกแกกล้าคิดจะฆ่าลูกชายของฉัน ก็อย่ามาหาว่าฉันโหดร้ายก็แล้วกัน!”
ในขณะเดียวกัน
ตระกูลหยาง
ฟู๋โป๋พูดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “นายท่าน วันหลังห้ามทำแบบนี้อีกนะครับ ตอนนั้นมันอันตรายมาก ทำไมท่านถึงเอาตัวเองไปรับกระสุนแทนหลงเฟยหยู?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ในใจฟู๋โป๋ก็อดคิดไม่ได้
คนอื่นต่างก็รีบหลบหนีเมื่อเห็นอันตราย
แต่หยางติ่งเทียนกลับรีบตรงเข้าไปปกป้องหลงเฟยหยูด้วยตัวคนเดียว
พ่อของเขาเองยังไม่เดือดร้อนเลย
แล้วคนที่เป็นเพียงอาเขย จะฮึกเหิมอะไรขนาดนั้น
นี่คือที่เค้าเรียกว่า ฮ่องเต้ไม่เดือดร้อน ขันทีเดือดร้อนแทน!
หยางติ่งเทียนยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันไม่เป็นอะไร!”
หยางติ่งเทียนในตอนนี้ มีสีหน้ารื่นรมย์ ราวกับว่าสิ่งที่เพิ่งเผชิญมาไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร
“ยังจะบอกว่าไม่เป็นอะไรอีกหรือครับ? กระสุนลูกนั้นหากคลาดเคลื่อนไปอีกนิดเดียว ก็จะฝังเข้าไปอยู่ในหัวใจของนายท่านอยู่แล้วนะ!”
ถึงตอนนั้น ต่อให้เทพเซียนมา ก็ช่วยนายท่านไม่ได้แล้วนะ!
“นายท่านไม่ต้องใจใหญ่ขนาดนั้นได้ไหม? จะยังไงซะ นายท่านก็เป็นผู้นำตระกูลหยาง ต่อให้ไม่คิดถึงตัวเอง ก็ต้องคิดถึงตระกูลหยางบ้าง!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฟู๋โป๋ก็ไม่อยากพูดต่อแล้ว
เขาแค่รู้สึกว่าเขาเหนื่อยใจมาก
หากไม่ใช่เพราะอยู่ตระกูลหยางมานานหลายสิบปี
เขาก็คงขี้เกียจที่จะมารับใช้นายท่านคนนี้!
หยางติ่งเทียนหลุดหัวเราะพรืดออกมา
เขาเอานิ้วมือชี้ไปที่หัวใจของเขา: “กระสุนลูกนั้น เป็นไอ้เด็กบ้านั่นที่ให้คนมายิง!”
หวี่!
ทันใดนั้น
ในหัวของฟู๋โป๋ก็มีเสียงหวี่ดังขึ้น
เขารู้ว่า “ไอ้เด็กบ้านั่น” ที่หยางติ่งเทียนพูดถึงคือใคร!
คือคุณชายของตระกูลหยาง!
นักฆ่าเป็นคนที่ถูกส่งมาโดยคุณชายหรือนี่?
ต้องล้อฉันเล่นแน่ๆ?
หรือคุณชายคิดอยากที่จะฆ่าหยางติ่งเทียน?
เป็นไปไม่ได้!
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
ฟู๋โป๋ส่ายหัวอย่างรุนแรง
หากหยางเฟิงต้องการจะฆ่าหยางติ่งเทียนจริงๆ ล่ะก็
หยางติ่งเทียนได้กลายเป็นศพไปตั้งนานแล้ว จะมายืนพูดอยู่ที่นี่ได้ที่ไหน?
ทันใดนั้น
หัวใจของฟู๋โป๋ก็เต้นแรง
เขาถามด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ “นายท่าน หรือว่าท่านคืนดีกับคุณชายแล้วหรอครับ?”
เรื่องต่างๆ จะบังเอิญขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
นักฆ่าเป็นคนที่คุณชายส่งไป
สุดท้ายแล้วมือสังหารที่จับได้ กลับกลายเป็นหยุนเฟยฉาง!
เมื่อคิดดูแล้วก็รู้ได้ว่า นี่คือหลุมพรางที่คุณชายวางไว้ให้ตระกูลหยุนติดกับ
ส่วนหยางติ่งเทียนก็อยู่ที่นั่นด้วยในเวลานั้น
และก็เข้าไปช่วยหลงเฟยหยูโดยที่ไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลย
เป็นที่แน่ชัดว่า
นายท่านรู้อยู่แล้วว่า นายน้อยจะไม่ฆ่าเขาอย่างแน่นอน!
ทันใดนั้น
หัวใจของฟู๋โป๋ก็เต้นแรง