เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 214 ช่วงเวลาเป็นตาย!
สิ่งที่ทำให้คิดไม่ถึงก็คือ มือสังหารชั้นยอดทั้งสี่คนนี้ หรือยังน้อยที่สามารถมั่นใจได้ก็คือชายชุดดำร่างกำยำที่เป็นหัวหน้า จะถึงกับเป็นคนของชิบะ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นยอดฝีมือแห่งสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริวของชิบะอีกด้วย ความสามารถแข็งแกร่ง ต่อให้เป็นจางอีเต๋อก็ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะเขาได้อย่างความรวดเร็ว
ไหนเลยจะรู้ว่า ในตอนที่ชายชุดดำร่างกำยำใช้เคล็ดวิชาสังหารของตนออกมา จางอีเต๋อจะใช้เคล็ดวิชาพลังพิเศษในสายโลหะป้องกันเอาไว้ได้ โดยการใช้เคล็ดวิชาเกราะเหล็กซึ่งเป็นเคล็ดวิชาพลังพิเศษสายโลหะก่อกำเนิดเป็นกำแพงเหล็ก ซึ่งถูกเงาดาบที่ชายชุดดำร่างกำยำใช้ออกมาฟันจนพังทลายไปแล้ว
ตอนนี้ ในลานบ้านตระกูลจาง คนชุดดำทั้งสี่มาลอบสังหารมู่หรงอวี๋ตู เฮยเมี่ยนและจางอีเต๋อขวางพวกเขาเอาไว้ จางอีเต๋อขัดขวางชายชุดดำร่างกำยำที่มีฝีมือแข็งแกร่งที่สุด ส่วนเฮยเมี่ยนคนเดียวต้องรับมือกับมือสังหารชั้นยอดทั้งสามคน ถึงแม้จะเสียเปรียบอยู่บ้าง และยังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร เพียงแต่ไม่สามารถต่อสู้ยืดเยื้อออกไปเช่นนี้ได้ จะอย่างไรพลังการต่อสู้และความอดทนของทุกคนก็มีจำกัด ต่อให้อดทนสู้ต่อไปก็อาจจะทำให้เฮยเมี่ยนตายได้
“ขวางพวกเขาเอาไว้ อย่าให้พวกเขาไปรบกวนได้เป็นอันขาด!” จางอีเต๋อเห็นชายชุดดำทั้งสามคนพุ่งเข้าไปยังทิศทางของห้องยาก็ตะโกนบอกเฮยเมี่ยน เนื่องจากตัวเขาเองถูกชายชุดดำร่างกำยำขวางเอาไว้จึงไม่กล้าเข้าไป
ไม่กล่าวไม่ได้ว่า เฮยเมี่ยนที่มีฐานะเป็นขุนพลในระดับทัพฟ้า ความสามารถแข็งแกร่งเหนือระดับโดยไม่ต้องสงสัย ตอนนี้ร่างกายได้รับบาดเจ็บจากดาบเกือบสิบแผล ถึงแม้จะไม่ร้ายแรงอะไรแต่เลือดก็ไหลออกมาไม่หยุด หากว่าเป็นคนธรรมดาเกรงว่าคงจะไม่มีแรงสู้ไปนานแล้ว แต่เฮยเมี่ยนกลับพุ่งเข้าไปในทันที ถือมีทหารในแนวขวางเข้าไปขวางเบื้องหน้ามือสังหารทั้งสามคน
“หากคิดจะเข้าไปก็ต้องผ่านด่านฉันไปก่อน!” เฮยเมี่ยนในตอนนี้ก็โกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว ระเบิดความสามารถทุกด้านของตนออกมาอย่างเต็มที่
“ฆ่ามันซะ!” ชายชุดดำร่างกำยำต่อสู้กับจางอีเต๋อไปพลาง ออกคำสั่งคนชุดดำที่เหลืออีกสามคนไปพลง
ฉัวะๆๆ!
ชายชุดดำร่างกำยำเพิ่งจะพูดจบ ดาบในมือของมือสังหารชุดดำอีกสามคนก็ปรากฏไอเย็นขึ้น นี่เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังพิเศษอันแข็งแกร่งประเภทหนึ่ง เป็นจุดที่เหมือนกับเคล็ดวิชาเงาดาบที่ชายชุดดำร่างกำยำใช้ ทำให้เฮยเมี่ยนไม่กล้าลำพองใจเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากเมื่อสักครู่นี้ตอนที่ชายชุดดำร่างกำยำฟันเงาดาบไปยังจางอีเต๋อ ถึงกับทำให้เกิดความรู้สึกว่าอากาศถูกฟังจนฉีกขาดขึ้นมาได้ แม้จางอีเต๋อก็ได้ใช้เคล็ดวิชาเกราะเหล็กออกมาก่อกำเนิดเป็นกำแพงเกราะเหล็กที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังถูกเงาดาบนั้นฟันจนแหลกเป็นชิ้นในพริบตา มากเพียงพอที่จะสร้างความกดดันให้เขา
“ระวังหน่อย นี่เป็นเคล็ดวิชาประเภทหนึ่งของสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริว เงาดาบมังกรคลั่ง!” จางอีเต๋อเตือนเฮยเมี่ยนด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“หึ ไอ้แก่รู้เรื่องไม่น้อยเลย ท่าทางวันนี้จะยิ่งปล่อยกลับไปไม่ได้แล้ว!” ชายชุดดำร่างกำยำตกตะลึง ดาบสไตล์ชิบะในมือขวากวัดแกว่งไม่หยุด ต้องการที่จะฆ่าจางอีเต๋อให้ได้
“หากต้องการที่จะฆ่าคนแก่อย่างฉัน เกรงว่าจะไม่ง่ายขนาดนั้น!” ดวงตาของจางอีเต๋อเต็มไปด้วยประกายไฟ เขาลงมือเต็มที่แล้ว ไม่กล้าลำพองใจเลยแม้แต่น้อย อีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือแห่งสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริว หากไม่ระวังเพียงนิดเดียวอาจจะตายจริงๆ ก็เป็นได้
เฮยเมี่ยนได้ยินคำพูดของจางอีเต๋อ ในใจก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เขาขมวดคิ้ว เขาก็เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริวมาบ้างเล็กน้อย นี่เป็นสำนักที่คล้ายกับสำนักเส้าหลินของจีน มีอิทธิพลต่อประเทศชิบะเป็นอย่างมาก ก็เหมือนกับเส้าหลินที่เป็นสำนักระดับสูงของพรรควรยุทธโบราณ สำนักดาบโฮคุชินอิตโตริวก็เป็นตัวตนเช่นนั้นในประเทศชิบะเหมือนกัน
ฉัวะๆๆ!
มือสังหารชั้นยอดทั้งสามคนไม่เพียงแต่จะตวัดดาบที่แฝงไปด้วยประกายอันเย็นยะเยือก ยิ่งไปกว่านั้นยังพุ่งเข้าไปด้วยหวังจะฆ่าเฮยเมี่ยนก่อน แล้วค่อยบุกเข้าไปในห้องยา
“มาเลย!”
เฮยเมี่ยนตะโกนลั่น เกิดเสียงเพล้งดังสนั่น มีดทหารในมือขวาถึงกับแหลกเป็นผุยผง เงาดาบฟาดฟันฝ่ามือขวาของเขาจนเลือดไหลออกมา แต่เฮยเมี่ยนไม่สนใจ ฝ่ามือทั้งสองมีพลังภายในอันแข็งแกร่งหมุนวนและรวบรวมอยู่ที่กลางฝ่ามืออย่างรวดเร็ว ใช้พลังบังคับเศษซากมีดที่แตกเป็นร้อยชิ้นให้พุ่งเข้าไปโจมตีมือสังหารที่มีความสามารถแข็งแกร่งสามคนนั้น
เศษมีดเหล่านั้นก็เหมือนกับใบมีดขนาดเล็กที่คละเคล้าเข้ากับพลังภายในอันแข็งแกร่ง เศษมีดถูกผลักเข้าไปยังมือสังหารทั้งสามคนด้วยความเร็วดุจสายฟ้า เกิดประกายแห่งความดุเดือดและรุนแรงอย่างหาใดเปรียบ มือสังหารชั้นยอดทั้งสามคนจะอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า เฮยเมี่ยนจะยังมีกระบวนท่าที่แข็งแกร่งขนาดนี้อยู่ด้วย รวมกับที่พวกเขาพุ่งเข้าไปหาเฮยเมี่ยนจนมีระยะห่างไม่ถึงสามเมตรจึงหลบไม่ทัน ทำได้เพียงเปลี่ยนวิถีดาบในมือมาบังเอาไว้
ฉึก!
ฉึก!
มือสังหารชุดดำทั้งสองคนล้มลงบนพื้น มีเศษมีดเล็กๆ แทงทะลุร่างกายของพวกเขา มือสังหารที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากที่สุดถึงกับถูกแทงทะลุหัวใจจนล้มลงไปชักกระตุกกับพื้น รอเพียงความตายมาเยือนเท่านั้น สูญเสียพลังในการต่อสู้ไปแล้ว
มือสังหารชุดดำที่เหลืออีกสองคนจะมากจะน้อยก็ได้รับบาดเจ็บ พวกเขามองไปยังเฮยเมี่ยนที่ขวางอยู่ตรงหน้าด้วยความตกตะลึง พวกเขาเป็นนักฆ่าชั้นยอดของประเทศชิบะ เคยผ่านการฆ่าฟันยอดฝีมือและคู่แข่งมาแล้วไม่รู้เท่าไหร่ ไม่เพียงแต่ความสามารถเฉพาะตัว แต่ยังมีประสบการณ์การต่อสู้จริงที่ร้ายกาจเป็นอย่างมากอีกด้วย แต่ไหนแต่ไรก็คิดไม่ถึงว่าประเทศจีนจะมีขุนพลที่มีฝีมือร้ายกาจถึงขนาดนี้อยู่ ถึงกับใช้หนึ่งคนขัดขวางพวกเขาสามคนเอาไว้ได้ แล้วยังฆ่าพวกเขาได้คนหนึ่งอีกด้วย
“บากะ(โง่) ยังมัวอึ้งอะไรกันอยู่ ฆ่ามันซะ บุกเข้าไปในห้องยา…” ชายชุดดำร่างกำยำรู้สึกสั่นสะท้านอยู่ในใจ เขารู้สึกร้อนใจยิ่งขึ้น ชายชราผมขาวโพลนเบื้องหน้านี้ยากที่จะรับมือ หากลูกน้องทั้งสามของตนถูกฆ่า เกรงว่าวันนี้เขาก็คงต้องตายอยู่ที่นี่เช่นกัน เนื่องจากเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีอย่างต่อเนื่องของเฮยเมี่ยนและจางอีเต๋อได้เลย ในใจของเขากระจ่างแจ้งถึงจุดนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงยิ่งกดดันให้ลูกน้องของตนบุกเข้าไปในห้องยาและทำลายการรักษาของเย่เทียนเฉินและมู่หรงซิน หากทำเช่นนี้เขาก็จะมีโอกาสฆ่ามู่หรงอวี๋ตู
“อย่าให้พวกมันบุกเข้าไปในห้องยาได้เด็ดขาด!” จางอีเต๋อลงมือเต็มกำลัง ขัดขวางการบุกโจมตีของชายชุดดำร่างกำยำเอาไว้ ตอนนี้เขาสามารถทำได้เพียงเท่านี้ หวังว่าเฮยเมี่ยนจะขวางมือสังหารอีกสองคนที่เหลือเอาไว้ได้
“มีอะไรก็มาลงที่ฉัน หากต้องการฆ่าก็มาฆ่าเลย!” มู่หรงอวี๋ตูมองไปยังชายชุดดำร่างกำยำแล้วพูดขึ้น
“ฮ่าๆๆๆ มู่หรงอวี๋ตูการคิดจะช่วยหลานสาวของแกหรือไง เพ้อฝัน หญ้าสยบกายาไม่มีทางแก้ ยังไงพวกแกทุกคนก็จะต้องตาย ให้ฉันส่งหลานสาวของแกไปลงนรกก่อนก็แล้วกัน!” ชายชุดดำร่างกำยำหัวเราะ ทว่าการโจมตีในมือไม่ได้หยุด ยังคงโจมตีไปยังจุดสำคัญต่างๆ ของจางอีเต๋ออย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้เอง เย่เทียนเฉินที่อยู่ในห้องยายังคงกอดกับมู่หรงซิน รอบกายของทั้งสองเปลือยเปล่า เสียงดังเอะอะด้านนอกเย่เทียนเฉินย่อมได้ยินแน่นอน เขารู้ว่ามียอดฝีมือบุกมาลอบสังหารมู่หรงอวี๋ตู ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังคิดที่จะบุกเข้ามารบกวนการแก้พิษสยบของเขาและมู่หรงซิน เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เขาเองก็ไม่มีเวลาปลีกตัวไป ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงไอเย็นอันเสียดแทงกระดูกจากในปาก มีอะไรบางอย่างออกมาจากปากของมู่หรงซิน อีกนิดเดียวก็จะสำเร็จแล้ว จะล้มเหลวไม่ได้เป็นอันขาด!
พรึ่บ!
เย่เทียนเฉินรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้กระดูกของเขาเย็นจนแทบแข็ง พริบตาเดียวก็เจาะทะลวงเข้ามาในร่างกายของเขา คิดไม่ถึงว่าตนเองจะมีอันตรายอะไร แต่เมื่อได้รู้ว่าหลังจากที่หญ้าสยบกายาเข้ามาในร่างกายของตนเองแล้วก็วางใจ ในที่สุดก็สามารถดึงดูดหญ้าสยบกายาออกมาจากร่างกายของมู่หรงซินได้ เขารู้สึกนับถือจางอีเต๋อซึ่งเป็นเซียนแพทย์เทวะจริงๆ หญ้าสยบกายา ก่อกำเนิดพลังหยินและความเย็น โดยปกติจะตามหาร่างกายของผู้หญิงเพื่อมาเป็นร่างแฝง ร่างกายของผู้ชายมีพลังหยางมาก พูดได้ว่าหญ้าสยบกายามักจะไม่เลือกมาอาศัยอยู่อย่างเด็ดขาด แต่พอจางอีเต๋อใช้เข็มทองทั้งหกเล่มฝังเข็มลงไปยังจุดลมปราณของเย่เทียนเฉิน ทำให้พลังหยางลดลงเป็นอย่างมาก รวมกับไอร้อนจากน้ำร้อนในถังน้ำที่ซึมเข้ามาภายใน ทำให้หญ้าสยบกายารู้สึกไม่สบาย อีกทั้งมันยังสัมผัสได้ว่าด้านนอกมีร่างแฝงที่ดียิ่งกว่าจึงออกมาจากร่างกายของมู่หรงซินและเข้าไปในร่างกายของเย่เทียนเฉิน
ทันใดนั้นเอง เย่เทียนเฉินลืมตาขึ้น กอดร่างกายอันเปลือยเปล่าของตนเอาไว้ ดันมู่หรงซินให้ห่างออกไปด้วยความลืมตัว ในเมืองขวามีพลังพิเศษปรากฏออกมาเล็กน้อย ส่งมู่หรงซินออกไปนอกถังไม้
ในตอนนี้มู่หรงซินเองก็ได้สติกลับมาแล้ว มองสีหน้าของเย่เทียนเฉินที่ดูหนาวเย็นถึงขีดสุดจนแทบจะแข็ง ลืมไปเลยว่าตนเองกำลังเปลือยกายอยู่ รีบวิ่งเข้าไปข้างถังไม้แล้วเอ่ยถามอย่างร้อนใจว่า “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ดูท่าทางเธอจะดีขึ้นแล้ว ไปใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปเถอะ คุณปู่ของเธอจะได้วางใจ!” เย่เทียนเฉินรีบโคจรพลังพิเศษในร่างกายอย่างรวดเร็ว เริ่มควบคุมหญ้าสยบกายาไม่ให้มันวิ่งพล่านไปทั่ว
“งั้นคุณ…” มู่หรงซินได้สติกลับมา ตัวเองยืนอยู่เบื้องหน้าเย่เทียนเฉินด้วยร่างกายอันเปลือยเปล่า ร่างกายเว้านูนชัดเจนปรากฏออกมาทั้งหมดอย่างไม่ต้องสงสัย จึงอดไม่ได้ที่จะใบหน้าแดงระเรื่อ แต่เมื่อเห็นว่าเย่เทียนเฉินหลับตาทั้งสองอยู่ตลอดจึงวางใจลงไปไม่น้อย ทันใดนั้นจึงรู้สึกว่าเย่เทียนเฉินยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่บ้าง
“วางใจเถอะ ฉันจัดการตัวเองได้ รีบออกไปเถอะ!” เย่เทียนเฉินพูดเสียงต่ำ
“ไม่…ฉัน…ฉันจะอยู่ที่นี่ ฉันต้องการเห็นว่าคุณไม่เป็นอะไร!” มู่หรงซินรู้ว่าที่เย่เทียนเฉินเป็นแบบนี้ก็เพราะช่วยตัวเธอเองทั้งนั้น ดังนั้นจึงไม่คิดที่จะทิ้งเย่เทียนเฉินไปโดยไม่สนใจ
“หากว่าเธอยังไม่ไปอีก ฉันก็จะข่มขืนเธอแล้วนะ ฉันพูดจริงทำจริง!” ทันใดนั้นเย่เทียนเฉินลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังหน้าอกของมู่หรงซินอย่างหื่นกระหายพลางกลืนน้ำลาย
“ฉัน…” มู่หรงซินมองเย่เทียนเฉินด้วยใบหน้าอันแดงก่ำ ถอยหลังออกไปโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
“ไป!” เย่เทียนเฉินตะโกนเสียงต่ำ
มู่หรงซินถูกคำพูดของเย่เทียนเฉินทำให้ตกใจ เดินไปด้านข้างสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย มองไปยังเย่เทียนเฉินด้วยความกังวลอีกครั้งก่อนจะเดินไปยังประตูทางออกของห้องยาอย่างเชื่องช้า
เมื่อเห็นมู่หรงซินเปิดประตูเตรียมเดินออกไปแล้ว เย่เทียนเฉินก็วางใจลงมาก เขาสัมผัสได้ว่าหญ้าสยบกายานั้นลงไปถึงกระเพาะของเขาแล้ว หากยังไม่ควบคุมเกรงว่าคงจะเจาะทะลุไปถึงอวัยวะภายใน เขาจึงรีบกระตุ้นพลังพิเศษในขอบเขตจอมราชันออกมาทั้งร่าง บีบบังคับให้เข็มเงินทั้งหกเล่มที่แทงเข้ามาในร่างกายของตนออกไป มีเพียงวิธีนี้ที่จะสามารถปลดปล่อยพลังทั้งหมดของเขาออกมาได้ และบีบบังคับให้หญ้าสยบกายาออกไปจากร่าง
ในตอนเริ่มแรกที่รับปากว่าจะช่วยกำจัดพิษสยบให้มู่หรงซินนั้น เย่เทียนเฉินก็คิดถึงวิธีนี้เอาไว้แล้ว ด้วยพลังพิเศษในขอบเขตจอมราชันของตน คงจะสามารถบีบบังคับให้หญ้าสยบกายาออกมาจากร่างกายได้ เพียงแต่จะสำเร็จหรือไม่นั้นเย่เทียนเฉินก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ทำได้เพียงพยายามลองดูสุดชีวิต หากว่าพ่ายแพ้เขาก็คงจะต้องตาย…
………………….