CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 235 ไม่ทำแบบนี้แล้วจะทำแบบไหน?

  1. Home
  2. เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ
  3. บทที่ 235 ไม่ทำแบบนี้แล้วจะทำแบบไหน?
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เย่เทียนเฉินลงมืออัดจางอวิ๋น และยังเตะหลัวเสียนเม่ยแม่ของจางอวิ๋นอีกด้วย ทำให้ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นตกตะลึง ใครก็คิดไม่ถึงว่า เย่เทียนเฉินที่นับว่าอายุน้อยที่สุดในที่นี้จะถึงกับลงมืออัดคนได้ และยังลงมือกับน้าของตนอีกด้วย คนคนนี้ทำตามหลักการโดยไม่สนใจตัวคนจริงๆ !

ยิ่งไปกว่านั้นจากการตบและเตะสองแม่ลูกหลัวเสียนเม่ยของเย่เทียนเฉิน ทำให้คนอื่นๆ ต่างก็ได้สติ คิดถึงข่าวลือเกี่ยวกับทุกการกระทำของเย่เทียนเฉินในเมืองหลวงขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังได้ยินเรื่องราวในช่วงที่เดินทางไปยังประเทศ M ของเย่เทียนเฉินมาอีกด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเย็นยะเยือก คนคนนี้นับว่าเป็นหลานสายนอกของตระกูลหลัว ถึงกับแข็งแกร่งจนถึงขั้นนี้เชียว มีแนวโน้มมากว่าจะทำให้ตระกูลเย่รุ่งเรืองขึ้นมาได้

คนกลุ่มหนึ่งเดินมาถึงห้องโถงของบ้านเดิม เป็นห้องโถงสไตล์โบราณ บนยกพื้นที่สูงที่สุดมีเก้าอี้อยู่ตัวหนึ่ง ด้านล่างทั้งสองฝั่งมีเก้าอี้วางเรียงราย เมื่อก่อนเก้าอี้ในตำแหน่งที่อยู่สูงสุดนั้นมักจะเป็นที่นั่งของแม่เฒ่าของตระกูลหลัวมาโดยตลอด และมีเพียงเธอเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติพอที่จะได้นั่งตำแหน่งนี้ ตอนนี้หลัวฉีกลับไปนั่งอยู่ด้านบน ทำเหมือนกับว่าได้กลายเป็นผู้นำสูงสุดของตระกูลหลัวไปแล้ว กลายเป็นหัวเรือใหญ่ของตระกูลหลัวไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น

หลัวฉีนั่งอยู่เก้าอี้กลางห้อง ลูกสาวของเขาหลัวชิงหงยืนอยู่ด้านหลัง มองไปยังเย่เทียนเฉินและหลัวเยี่ยนอย่างดุดัน ก่อนหน้านี้เธอก็ถูกหลัวเยี่ยนสั่งสอนมา ถูกสั่งสอนจนพูดอะไรไม่ออก หน้าแดงหูแดงไปหมด เพราะต้องการที่จะออกหน้าให้พ่อของตน แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลัวเยี่ยน จึงต้องทำให้ตัวเองขายหน้า

คุณลุงคนอื่นๆ เมื่อเห็นว่าหลัวฉีนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงกลาง ในใจของคนจำนวนมากก็รู้สึกไม่พอใจ แต่กลับไม่ได้เอ่ยปากอะไร เหตุผลประการแรกก็คือ หลัวฉีเป็นลูกชายคนเดียวของหลัวเหยียนซง หลายปีมานี้ก็สงบเสงี่ยมลงมาก ตามปกติเขาก็ควรจะได้เป็นหัวเรือใหญ่คนต่อไปของตระกูลหลัว ไม่ว่าใครก็ไม่อยากที่จะล่วงเกิน ต่อให้คุณลุงเหล่านี้จะไม่ได้หวาดกลัวอะไร แต่ก็ต้องคิดถึงลูกๆ ของตน จะอย่างไรภายหลังหลัวฉีกลายเป็นผู้นำตระกูลคนใหม่ของตระกูลหลัว ด้วยนิสัยใจแคบของเขาจะต้องสร้างความลำบากให้กับลูกๆ ของคนที่เคยขัดขวางเขาแน่นอน เหตุผลประการที่สองก็คือ ตอนนี้ความคิดของทุกคนต่างจับจ้องอยู่ที่กล่องหยกหงส์มังกร ของสิ่งนี้มีความเย้ายวนใจมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าใครก็ต้องการที่จะครอบครอง บนโลกใบนี้มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง ล้ำค่าจนมิอาจประเมินค่าได้

ตอนนี้เอง คุณลุงทั้งหลายของตระกูลหลัวรวมถึงผู้อาวุโสจำนวนหนึ่งต่างก็นั่งอยู่บนเก้าอี้สองฝั่งของห้องโถง มีเพียงเย่เทียนเฉิน หลัวเยี่ยน และลุงหวังสามคนเท่านั้นที่ยืนอยู่กลางห้องโถง สภาพแบบนี้คล้ายกับกำลังสอบสวนพวกเขาอย่างไรอย่างนั้น ทำให้เย่เทียนเฉินรู้สึกไม่พอใจมาก

ภายในห้องโถงเงียบสงัด ใครก็ไม่กล้าเอ่ยปากเป็นคนแรก ถึงแม้พวกเขาจะอยากได้กล่องหยกหงส์มังกรมาก แต่ของสิ่งนี้แม่เฒ่าตระกูลหลัวก็มอบให้กับหลานสาวของตนก่อนตาย รวมกับการกระทำของเย่เทียนเฉินเมื่อครู่นี้ทำให้ในใจของใครหลายคนต่างรู้สึกหวาดกลัว ถึงแม้พวกเขาจะมีคนมากกว่า และจะไม่ยอมให้เย่เทียนเฉินและหลัวเยี่ยนนำกล่องหยกหงส์มังกรออกไปจากตระกูลหลัวง่ายๆ แต่ยังคงหวาดกลัวว่าเย่เทียนเฉินจะบ้าคลั่งขึ้นมาแล้วจัดการพวกเขาทุกคน คนคนนี้เป็นคนที่ทำตามหลักการโดยไม่สนใจตัวคน คงจะไม่เห็นพวกเขาเป็นญาติผู้ใหญ่อะไรแน่นอน

เย่เทียนเฉินมองไปรอบๆ ในตอนที่ยังไม่มีใครเอ่ยปากเขาก็เดินไปยังหลัวเสียนเม่ยและจางอวิ๋น สองแม่ลูกคู่นี้นั่งอยู่บนม้านั่งยาวตัวหนึ่ง จางอวิ๋นในตอนนี้มุมปากยังคงมีรอยเลือด ใบหน้าบวมช้ำเหมือนหมู ส่วนหลัวเสียนเม่ยก็กุมท้องของตนเอาไว้ตลอด มองหลัวเยี่ยนและเย่เทียนเฉินอย่างเคียดแค้น เดิมทีเธอก็เป็นผู้หญิงปากร้ายคนหนึ่งอยู่แล้ว บุกเข้าไปในบ้านสไตล์โบราณอย่างร้อนอกร้อนใจ พอไปถึงก็พ่นคำด่าออกมา ต้องการที่จะเพ่งเล็งหลัวเยี่ยนผู้เป็นพี่สาวของตนอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องการที่จะได้รับกล่องหยกหงส์มังกรอีกด้วย ไหนเลยจะรู้ว่าเย่เทียนเฉินจะกล้าลงมืออัดตน ตัวแปรนี้มากมายเกินไปจริงๆ ทำให้ใครหลายคนคิดไม่ถึง กระทั่งตัวเองก็ยังต้องตกตะลึง

“แกคิดจะทำอะไร ไอ้เดรัจฉาน ฉันจะไม่ยอมให้พวกแกออกไปจากประตูบ้านของตระกูลหลัวได้อย่างมีชีวิตแน่…” หลัวเสียนเม่ยเห็นเย่เทียนเฉินเดินมาทางพวกเขา จึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาอย่างโหดเหี้ยม

เย่เทียนเฉินไม่ได้พูดอะไร ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ดูไร้พิษภัย ก้าวเดินไปยังจางอวิ๋น จางอวิ๋นในตอนนี้ถูกตบจนใบหน้าบวมเป่งเหมือนกับหมู เจ็บจนต้องซี้ดปาก เมื่อเห็นเย่เทียนเฉินเดินมาหาตน ในดวงตาก็ปรากฏความหวาดกลัวขึ้น เขาจางอวิ๋นทำตัวยโสโอหังอยู่ในตระกูลหลัวจนเคยชินแล้ว ต่อให้เป็นภายนอกก็เกรงว่าจะไม่มีใครกล้าอัดเขา แต่เย่เทียนเฉินไม่พูดพร่ำทำเพลง เพิ่งจะมายังตระกูลหลัวไม่ถึงครึ่งวันก็ตบหน้าเขาไปสองครั้งแล้ว คนคนนี้มีนิสัยอย่างไรกันแน่ จะทำให้คนคาดเดาไม่ได้มากไปแล้ว จะแปลกเกินไปแล้ว

“แก..แกคิดจะทำอะไร?” จางอวิ๋นนั่งยืดตัวตรงด้วยความหวาดกลัว มองเย่เทียนเฉินแล้วถามอย่างตึงเครียด

“แกดูสิว่าที่นี่ต่างก็เป็นญาติผู้ใหญ่แกทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าแกควรจะลุกขึ้นหรือไง? ไม่ควรส่งเก้าอี้ออกมาหรือไง?” เย่เทียนเฉินมองจางอวิ๋นแล้วเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

“แก…” จางอวิ๋นมองเย่เทียนเฉินด้วยความโกรธอย่างหาใดเปรียบ ต่อหน้าของคนมากมายขนาดนี้จะให้เขายืนขึ้นแล้วมอบเก้าอี้ออกไป ช่างน่าขายหน้าจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นตลอดมาเขาจางอวิ๋นก็มีอำนาจมากในตระกูลหลัว อีกทั้งยังมีแม่ที่มีนิสัยฉุนเฉียวง่าย ใครกล้ามาทำให้เขาได้รับความอับอายต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้บ้าง?

“ไอ้เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน กล้ามาบอกให้ลูกชายของฉันมอบที่นั่งให้แก แกคู่ควรหรือไง?” ทันใดนั้นหลัวเสียนเม่ยลุกขึ้นยืนจากบนที่นั่ง มองเย่เทียนเฉินอย่างขบเคี้ยวเคี้ยวฟันแล้วตะโกนออกมา

เมื่อครู่นี้ถึงแม้ว่าหลัวเสียนเม่ยและจางอวิ๋นจะถูกเย่เทียนเฉินอัด และรู้สึกมึนงงอยู่บ้าง เพราะคิดไม่ถึงว่าเย่เทียนเฉินจะถึงกับกล้าลงมือได้ คิดไม่ถึงว่าจะถึงกับกล้าทำตัวเป็นศัตรูกับญาติผู้ใหญ่มากมายขนาดนี้ ตอนนี้เมื่อได้สติกลับมาจึงรู้สึกโกรธเคืองมากและยิ่งทำตัวยโสโอหังมากขึ้นอีกด้วย คิดว่าต่อให้เย่เทียนเฉินและหลัวเยี่ยนจะร้ายกาจขนาดไหนก็ไม่ใช่คู่มือของคนตระกูลหลัวเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลัวฉี เขาเป็นคนที่ใกล้จะได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลหลัวคนต่อไป จะต้องไม่ยอมปล่อยหลัวเยี่ยนไปแน่

เมื่อปีนั้นที่ทำให้เรื่องของหลัวเยี่ยนและเย่หงเป็นเรื่องใหญ่ คนที่ลงแรงมากที่สุดก็คือหลัวฉี เนื่องจากเมื่อปีนั้นเขาเป็นคนที่ไม่เรียนหนังสือ แต่หลัวเยี่ยนผู้เป็นน้องสาวกลับแสดงความเฉลียวฉลาดออกมา กระทั่งคุณลุงทั้งหลายของตระกูลหลัวก็ยังอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ ในตอนนั้นหลัวเหยียนซงผู้เป็นพ่อก็ได้คิดถึงตำแหน่งผู้นำตระกูลแล้ว และได้เลือกหลัวเยี่ยนผู้เป็นลูกสาวให้รับผิดชอบต่อไป ถึงแม้ในตระกูลหลัวจะยังมีคนคัดค้าน แต่ท่าทีของหลัวเหยียนซงก็เด็ดขาดมั่นคงมาก จนกระทั่งหลัวเยี่ยนและเย่หงรักกัน หลัวฉีจึงได้รู้ว่าโอกาสของเขามาถึงแล้ว ขอเพียงไล่หลัวเยี่ยนออกไปจากตระกูลหลัวได้ เขาก็จะมีโอกาสที่จะได้เป็นผู้นำตระกูล ดังนั้นจึงป่าวประกาศออกไปทั่ว กระทั่งไม่สนใจที่จะทำลายชื่อเสียงของน้องสาวแท้ๆ ของตน สุดท้ายเขาก็ได้รับสิ่งที่ต้องการ ทำให้หลัวเยี่ยนทะเลาะกับพ่อและต้องออกไปจากตระกูลหลัว

ดังนั้นนี่จึงทำให้ในใจของสองแม่ลูกหลัวเสียนเม่ยมีความกล้า รวมกับการปรากฏขึ้นของกล่องหยกหงส์มังกร ถึงตอนนั้นต่อให้ต้องบีบบังคับหรือต้องฆ่าสองแม่ลูกหลัวเยี่ยนและเย่เทียนเฉินก็ไม่รู้สึกเสียดาย ยังไงคนตระกูลหลัวเหล่านี้ก็ไม่ยอมให้นำกล่องหยกหงส์มังกรไปแน่

“ฉันจะคู่ควรหรือเปล่าเดี๋ยวแกก็จะรู้เอง…”

คำพูดของเย่เทียนเฉินเพิ่งจะถูกกล่าวออกมา มือขวาก็กระชากผมของจางอวิ๋น ใช้แรงดึงไปกระแทกฟาดลงไปบนโต๊ะไม้เล็กๆ ด้านข้างที่ใช้วางถ้วยชา

โครม!

เสียงดังกังวาน ศีรษะของจางอวิ๋นกระแทกกับโต๊ะไม้ ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องราวกับหมูถูกเชือด จางอวิ๋นล้มลงกับพื้น มือทั้งสองกุมศีรษะของตนที่เต็มไปด้วยเลือด ดิ้นไปมาไม่หยุด ถ้วยชาบนโต๊ะไม้เล็กๆ นั้นถูกศีรษะของเขากระแทกจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ไปแล้ว เลือดสดๆ ไหลลงมาตามขาโต๊ะ ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นต่างต้องตกใจ

“แก…”

เมื่อเห็นเย่เทียนเฉินลงมือทำร้ายคนอีกครั้ง คุณลุงทั้งหลายของตระกูลหลัวก็เกิดความโกรธปะทุขึ้นมา เย่เทียนเฉินทําร้ายคนต่อหน้าพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า จะไม่เห็นญาติผู้ใหญ่ตระกูลหลัวอย่างพวกเขาอยู่ในสายตาเกินไปหรือเปล่า? โดยเฉพาะท่าทางเรียบเฉยหลังจากที่ทำร้ายคนแล้วแบบนั้น ดูเหมือนไม่หวาดกลัวเลย และดูเหมือนกับไม่คิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาอย่างไรอย่างนั้น

“เรียกผู้คุ้มกัน เรียกผู้คุ้มกัน…” หลัวเสียนเม่ยตกใจจนนิ่งงันไปแล้วโดยสิ้นเชิง เธอรีบผละออกมาจากที่นั่ง วิ่งไปยังข้างกายของลูกชายที่กำลังส่งเสียงกรีดร้องและชักดิ้นชักงออยู่บนพื้น ตะโกนออกมาเสียงดัง

“ตอนนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมว่าฉันต้องการที่จะทำอะไร? อย่าคิดว่าพวกคุณมีคนมาก ก็จะทำอะไรกับผมและแม่ได้ ก็แค่ไอ้แก่ที่ไร้มนุษยธรรมกลุ่มหนึ่ง ผมไม่เกรงใจหรอกนะ!” ในตอนนี้ เย่เทียนเฉินโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว แม่ของเขาอดทนได้ แต่เขาทำไม่ได้ เพราะเขาไม่อาจเห็นแม่ของตนได้รับการข่มขู่คุกคาม และรู้ว่าคนกลุ่มนี้จะไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปแน่ ถ้าไม่ลงมือจะทำอะไรได้อีก? หรือกับพวกที่ไร้มนุษยธรรมเหล่านี้ กับไอ้แก่ที่ไม่เห็นแก่ญาติมิตรเหล่านี้ยังต้องพูดคุยกันอย่างมีเหตุผลอีก?

“เย่เทียนเฉิน ฉันไม่สนว่าหลังจากที่แกกลับมายังเมืองหลวงจะเปลี่ยนแปลงไปยังไง จะทำเรื่องอะไรมาบ้าง แต่วันนี้แกคงยากที่จะมีชีวิตออกไปจากตระกูลหลัวแล้ว!” ในที่สุดหลัวฉีก็อดทนต่อไปไม่ไหว มองเย่เทียนเฉินอย่างโหดเหี้ยมแล้วพูดขึ้น

หลายปีมานี้ หลัวฉีสงบนิสัยดั้งเดิมของตนเองลงไปไม่น้อย แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่สิ่งที่เขาเสแสร้งออกมาเท่านั้น เพราะเขาต้องการที่จะรอ รอหลัวเหยียนซงผู้เป็นพ่อส่งมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้แก่เขา ต้องการรอให้หลัวเหยียนซงตายไปก่อน เช่นนั้นเขาก็จะกลายเป็นผู้นำตระกูลและสามารถทำทุกอย่างได้ตามแต่ใจต้องการ ก่อนหน้านี้เขาจำเป็นที่จะต้องอดทน จำเป็นที่จะต้องเสแสร้งว่าตนเองเปลี่ยนไปแล้วและรู้ความขึ้นแล้ว

ตอนนี้เย่เทียนเฉินทําร้ายคนต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่า นี่ไม่เพียงแต่เป็นการทำร้ายจางอวิ๋นต่อหน้าผู้คน แต่ยังเท่ากับเป็นการตบหน้าเขาหลัวฉีอีกด้วย เป็นการไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา จะให้เขาที่เป็นว่าที่ผู้นำตระกูลแห่งตระกูลหลัวเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? ดังนั้นหลัวฉีจึงเอ่ยปากขึ้นมาแล้ว แสดงท่าทีออกมา เขาตัดสินใจเอาไว้ในใจเรียบร้อยแล้วว่า ต่อให้เขาจะไม่อะไรกับหลัวเยี่ยนผู้เป็นน้อง แต่ก็ต้องฆ่าเย่เทียนเฉินให้ได้ มิฉะนั้นวันหน้าหากอีกฝ่ายรุ่งเรืองขึ้นมาจริงๆ เขาหลัวฉีคงวุ่นวายมาก

“เรียกผู้คุ้มกัน? ฉันว่าช่างมันเถอะ คนพวกนั้นมาก็ต้องตาย!” เย่เทียนเฉินมองหลัวฉีแล้วพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย

“แก…หึ ฉันจะดูซิว่าแกจะร้ายกาจขนาดไหน ถึงได้กล้ามาเป็นศัตรูกับพวกเราตะกูลหัวทั้งตระกูล!” หลัวฉีโบกมือ มีคนออกไปเรียกผู้คุ้มกันมา ผู้คุ้มกันของตระกูลหลัวย่อมเป็นผู้คุ้มกันพร้อมอาวุธปืน ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก

เย่เทียนเฉินไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแย้มยิ้มเล็กน้อย ถือเก้าอี้ที่จางอวิ๋นนั่งเดินไปยังข้างกายของหลัวเยี่ยนแล้วจึงวางเก้าอี้ตัวนั้นไว้ด้านหลัง ก่อนจะกล่าวว่า “แม่ครับ มานั่งเถอะ ผมจะเป็นผู้ดูแลให้แม่เอง!”

“เทียนเฉิน…อย่าทำแบบนี้เลย…ยังไงพวกเขาก็…” หลัวเยี่ยนยังคงมีจิตใจดีงาม ในสายตาของเขาคุณลุงเหล่านี้ หรือกระทั่งพี่ชายและน้องสาวแท้ๆ ของตน ต่างก็ไม่มีความรู้สึกดังครอบครัวกับเธอ แต่เธอก็ยังคงมองพวกเขาเป็นญาติมิตรของตน ไม่อยากให้เกิดเรื่องใหญ่อะไร และไม่อยากให้พ่อแท้ๆ ต้องโกรธหลังจากที่ตามกลับมา อย่างไรเสียพวกเขาก็อายุมากแล้ว

“แม่ครับ แม่อย่าใจดีเกินไปเลย ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ พวกเราคงไม่รอดออกไปจากที่นี่จริงๆ ผมรู้จักหนักเบานะครับ!” เย่เทียนเฉินพูดข้างหูของหลัวเยี่ยนเสียงเบา

………………

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 235 ไม่ทำแบบนี้แล้วจะทำแบบไหน?"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์