เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 313 ผู้หญิงก้นใหญ่
หลังจากมาถึงเมืองเล็กๆ บริเวณชายแดนยูนนานก็เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว เย่เทียนเฉินไม่ได้ไปโรงแรมด้วยกันกับชางหลาง แต่เดินไปยังบาร์เตะตาแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า “ค่ำคืนไม่หวนกลับ” เพิ่งจะเข้าไปก็มีผู้หญิงเซ็กซี่อวบอิ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายเย่เทียนเฉินอย่างเซ็กซี่ มีความรู้สึกเหมือนกระแสไฟช็อต ราวกับต้องการวันไนท์สแตนด์กับเย่เทียนเฉินอย่างไรอย่างนั้น
โดยปกติแรไอเท็มมักจะหมายถึงผู้หญิง ผู้หญิงที่เป็นแรไอเท็มจะเซ็กซี่และมีเสน่ห์แพรวพราว สามารถทำให้คุณพึงพอใจไปถึงกระดูก เมืองชายแดนแบบนี้มีของเหล่านี้ด้วย แต่ก็ไม่ได้แปลกอะไรแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม ที่เย่เทียนเฉินเดินเข้าไปก็ไม่ใช่ว่าต้องการหาผู้หญิงมาเล่นสนุก เขารู้ว่าบาร์ค่ำคืนไม่หวนกลับนี้เป็นบาร์ที่สะดุดตามากที่สุดภายในเมือง ถ้าเช่นนั้นข่าวสารทุกอย่างก็จะมารวมกันที่นี่ หลังจากที่เข้าไปด้านในบางทีอาจจะรู้เบาะแสของหานเจี๋ยก็เป็นได้ ต่อให้มีคนของพวกชางหลางมามอบข่าวและข้อมูลมาให้ก็ยังไม่สู้ตนเองไปสืบหามาเอง ยังจะเร็วกว่าด้วยซ้ำ
เย่เทียนเฉินเดินไปยังบาร์ค่ำคืนไม่หวนกลับ ตอนที่เขาเดินมาถึงประตูก็พบกับขอทานคนหนึ่งมาขอเงินจึงโยนเงินให้ไปหนึ่งร้อยหยวนด้วยความสงสาร ทำให้ขอทานคนนั้นดีใจมากจนเกือบจะตามเย่เทียนเฉินเข้าไปในบาร์ด้วยกันแล้ว
“พี่ชายมากี่ท่านคะ? ต้องการเหล้าอะไร? ต้องการบริการแบบไหนคะ?” เย่เทียนเฉินเพิ่งจะเดินเข้าไปก็มีผู้หญิงสวมเสื้อผ้าเปิดเผยหน้าตาธรรมดาแต่ก้นใหญ่เดินเข้ามาต้อนรับ ทำเหมือนกับเป็นพนักงานของที่นี่
“เอาเบียร์มาแล้วกัน คิดไม่ถึงว่าเร็วขนาดนี้บาร์นี้จะมีคนมากแล้ว ครึกครื้นดีจริงๆ” เย่เทียนเฉินมองคนที่นั่งอยู่รอบๆ แล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ใช่ว่าพวกเขามาเร็ว แต่เมื่อวานพวกเขาไม่ได้ออกไปต่างหากค่ะ เที่ยวเล่นกันอย่างสนุกสนานเบิกบาน พอใจจนเดินไม่ไหวแล้ว!” ผู้หญิงก้นใหญ่มองไปยังเย่เทียนเฉินแล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์
“ถ้างั้นรบกวนคุณเอาเบียร์มาให้เถอะ ขอบคุณมากครับ!” เย่เทียนเฉินหาโต๊ะว่างๆ นั่งลงตามใจ
“ไม่มีปัญหา กรุณารอสักครู่”
เมื่อเห็นสาวก้นใหญ่เดินเยื้องย่างจากไป เย่เทียนเฉินก็มองไปยังคนที่อยู่รอบๆ คนเหล่านี้เหมือนกับคนที่อยู่ในเมือง ไม่ต่างอะไรจากอันธพาลเจ้าถิ่น ตอนที่เขาเดินเข้ามาก็มีหลายคนที่ย้อมผมหลากสีสันมองมายังเย่เทียนเฉินอย่างแปลกใจ สายตาเต็มไปด้วยความผิดปกติ
เย่เทียนเฉินเข้าใจเป็นอย่างมาก เมืองเล็กๆ แห่งนี้ห่างไกลจากสายตารัฐบาล กิจการด้านมืด ปล้นฆ่าข่มขืนล้วนมีทั้งหมด นั้นเป็นเรื่องที่ปกติมาก
“น้องชายเป็นคนต่างถิ่นใช่ไหมคะ มาที่นี่ครั้งแรกเหรอ?” สาวก้นใหญ่ถือเบียร์หลายขวดเดินเข้ามานั่งลงที่โต๊ะข้างเย่เทียนเฉินด้วยท่าทางสนิทสนม
“คุณรู้ได้ยังไงครับ ผมเพิ่งจะมาที่นี่จริงๆ” เย่เทียนเฉินถามด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าๆ เมื่อเล็กๆ ของพวกเราไม่ใหญ่ มีคนแปลกหน้าอะไร มีเรื่องแปลกใหม่อะไร ไม่นานก็ลามออกไปแล้ว เช่นเมื่อวานมีผู้หญิงคนไหนถูกเปิดซิง มีผู้หญิงคนไหนถูกเด็ดดอกไม้ จะแพร่ออกไปเร็วมาก” ผู้หญิงก้นใหญ่พูดออกมาด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์โดยไม่เขินอายเลยแม้แต่น้อย
“อ้อ? ถ้างั้นเวอร์จิ้นของคุณและดอกไม้ของคุณถูกเด็ดไปแล้วหรือยังครับ?” เย่เทียนเฉินมองผู้หญิงก้นใหญ่คนนี้ออกนานแล้ว เธอเป็นผู้หญิงขายตัว มิฉะนั้นไหนเลยจะมาตีสนิทกับตน คงคิดต้องการจะทำธุรกิจ
“ล้อเล่นหรือเปล่า น้องชายนี่เป็นคนตลกจริงๆ เวอร์จิ้นแน่นอนว่าต้องถูกทำลายไปแล้ว ส่วนดอกไม้น่ะเหรอ ยังไม่ถูกเด็ดหรอก เก็บไว้ให้ผู้ชายที่มีความสามารถ” ผู้หญิงก้นใหญ่พูดพลางหัวเราะ
“ผู้ชายที่มีความสามารถเหรอครับ ถ้างั้นในความคิดของคุณ ผู้ชายแบบไหนถึงจะเรียกว่ามีความสามารถ?”
“แน่นอนว่าผู้ชายมีเงินย่อมมีความสามารถมากที่สุด ไม่รู้ว่าน้องชายมีความสามารถนี้หรือเปล่า?” ผู้หญิงก้นใหญ่ขยับเข้ามาใกล้เย่เทียนเฉินแล้วพูดขึ้นอย่างมีเสน่ห์
ในตอนนี้เอง เย่เทียนเฉินคิดอยู่ครู่หนึ่ง ช่วงเวลาที่ผู้หญิงก้นใหญ่คนนี้อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้คงจะไม่ใช่เวลาสั้นๆ และยังออกมาขายตัวด้วย จะต้องรู้เรื่องมากมายแน่นอน บางทีอาจจะสามารถขุดเบาะแสของพวกหานเจี๋ยออกมาจากปากของเธอได้ แต่มีเพียงธนบัตรปึกใหญ่เท่านั้นถึงจะทำให้ผู้หญิงแบบนี้เปิดปากได้
เขามองไปรอบๆ เย่เทียนเฉินทำท่าทางส่งสายตาให้ผู้หญิงก้นใหญ่อย่างลึกลับ ค่อยๆ ควักแบงค์ร้อยหยวนหลายใบออกมาจากกระเป๋าเสื้อ วางไว้บนโต๊ะแล้วพูดเสียงเบาว่า “ไม่ขอปิดบังคุณ ผมมาหาคุณที่นี่เพราะมีบางเรื่องที่ต้องการจะถามคุณ ถ้าหากคุณตอบได้ เงินนี้ก็จะเป็นของคุณ”
“ต้องตอบได้แน่นอนอยู่แล้ว ฉันอยู่ที่เมืองนี้และขึ้นชื่อเรื่องก้นใหญ่ปากใหญ่ ไม่มีเรื่องอะไรที่ฉันไม่รู้หรอก คุณถามมาเถอะ” หญิงก้นใหญ่เห็นเงินร้อยหยวนหลายใบบนโต๊ะก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ยืดอกจนส่ายไปมาเล็กน้อย ดูเซ็กซี่เป็นอย่างมาก
“งั้นก็ดี ผมขอถามคุณสักหน่อยว่าเมื่อคืนมีกลุ่มคนหลายคนซึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นผู้นำมาที่เมืองแห่งนี้ คนพวกนั้นไปไหนแล้ว?” เย่เทียนเฉินเอ่ยปากถามด้วยรอยยิ้ม
ไหนเลยจะรู้ว่าเย่เทียนเฉินเพิ่งจะเอ่ยปากถาม ผู้หญิงก้นใหญ่จะเผยอปากออกแล้วพูดออกมาอย่างไม่พอใจ “น้องชาย อย่าลืมกฏสิ จ่ายเงินมัดจำก่อน”
“ฮ่าๆ ขอโทษด้วย ขอโทษด้วย…” เย่เทียนเฉินได้สติกลับมาจึงนำแบงค์ร้อยหยวนสองหยวนใบยัดใส่ร่องอกลึกของสาวก้นใหญ่และยังบีบไปเล็กน้อย
“นี่โอเคแล้ว ฉันเห็นคนกลุ่มหนึ่ง เมื่อวานพวกเขามาถึงที่นี่ประมาณสามทุ่ม เพียงแต่ผ่านทางมาเท่านั้น และเหมือนกับจะไปที่ป่าหมอกดำ ไม่รู้ว่าไปทำอะไร…” สาวก้นใหญ่รับเงินมัดจำมาแล้วรีบพูดด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์
“อ้อ ถ้างั้นก็ขอบคุณมาก แล้วเจอกัน!”
เมื่อเย่เทียนเฉินได้รู้เบาะแสของพวกหานเจี๋ยแล้วก็รู้ว่าเมื่อคืนพวกเขามาที่นี่และไปที่ป่าหมอกดำในคืนนั้นเลย ถ้าเช่นนั้นมีความเป็นไปได้มากว่าจะหายไปในป่าหมอกดำคืนนี้ ความเป็นไปได้ที่จะหลงทางมีไม่มาก ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือถูกศัตรูลอบโจมตี ศัตรูคาดเดาได้นานแล้วว่าทหารหน่วยรบพิเศษจะมาขัดขวางพวกเขา ดังนั้นจึงทำการลอบโจมตี
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เย่เทียนเฉินรู้สึกแปลกใจมากก็คือ พวกเขาเป็นคนกลุ่มคนแบบไหนกันแน่ถึงกับร้ายกาจขนาดนี้ สามารถลอบโจมตีทหารหน่วยรบพิเศษได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความสามารถที่ทำให้ทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดทั้งยี่สิบกว่าคนหายไปพร้อมกันอีกด้วย ช่างทำให้ผู้คนตกตะลึงจริงๆ
เรื่องในครั้งนี้เรียกได้ว่าร้ายแรงเป็นอย่างมาก เย่เทียนเฉินเองก็มองออก ถึงแม้ว่าท่านผู้นำสูงสุดและประธานหยางอี้จะพูดอย่างผ่อนคลายแต่ก็ร้อนใจมาก เรื่องนี้เกี่ยวพันไปถึงความลับของประเทศ หากส่งทหารออกไปเกรงว่าจะส่งผลกระทบกับนานาประเทศไม่น้อย ดังนั้นจึงคิดให้ตนและชางหลางมาจัดการ
หากทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดทั้งยี่สิบกว่าคนนี้รวมไปถึงหานเจี๋ยถูกฆ๋าหมดแล้ว เกรงว่าจะสั่นสะเทือนไปถึงเหล่าผู้นำระดับสูงของประเทศจีนด้วย ต้องทราบว่าถ้าทหารหน่วยรบพิเศษที่ปกปักษ์ชายแดนถูกฆ่า และยังถูกฆ่าครั้งเดียวไปยี่สิบกว่าคน นี่จะหมายถึงอะไรกัน? เกรงว่าคงถูกคาดเดาไปว่า มีคนต้องการเข้ามาที่ชายแดน หรือบางทีประเทศอื่นอาจจะถือโอกาสนี้มาลองเชิงกำลังทหารบริเวณชายแดนของประเทศจีน กระทั่งต้องการเข้ามาโจมตี นี่ยิ่งทำให้ทั้งประเทศต้องเตรียมป้องกัน
“หยุด พวกเราให้แกไปแล้วหรือไง?”
อันธพาลคนหนึ่งที่ย้อมผมเป็นสีแดงยืนขวางอยู่เบื้องหน้าเย่เทียนเฉิน จากนั้นจึงมีคนปิดประตูบาร์ อันธพาลสิบกว่าคนที่นั่งอยู่รอบๆ ต่างลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหาเย่เทียนเฉินด้วยท่าทางดุดัน มีบางคนหยิบขวดเบียร์หยิบเก้าอี้ขึ้นมาเหมือนกับต้องการลงมือกับเย่เทียนเฉิน
“มีอะไร? ฉันยุ่งมาก” เย่เทียนเฉินขมวดคิ้ว ตอนนี้เขารีบไปตามหาพวกหานเจี๋ย ไหนเลยจะมีอารมณ์มาจัดการพวกตัวประกอบเหล่านี้
“มีเรื่องแน่นอน ดูท่าทางแกจะมีเงินมากนี่ ช่วงนี้พวกพี่ชายจนมาก จนขนาดที่ไม่มีเงินไปซื้อผู้หญิงแล้ว เอามายืมใช้ซักหน่อยสิ?” อันธพาลที่พูดเห็นเย่เทียนเฉินเป็นพวกอ่อนแอไปแล้วโดยสิ้นเชิง พูดออกมาอย่างโอหังหาใดเปรียบ
เสียงพลั่กดังขึ้น อันธพาลผมแดงคนนั้นเพิ่งจะพูดจบก็ถูกเย่เทียนเฉินเตะจนกระเด็นออกไป กระแทกกับกำแพงอย่างรุนแรง หลังจากดิ้นอยู่ไม่กี่ครั้งก็ลุกขึ้นไม่ไหว ตอนนี้เย่เทียนเฉินรีบไปช่วยพวกหานเจี๋ย ไหนเลยจะมีใจมาพูดจาไร้สาระกับอันธพาลพวกนี้อีก คนเหล่านี้ต้องการปล้นเขา ถ้างั้นก็เป็นความซวยแปดชาติแล้ว
อันธพาลที่เหลืออีกสิบกว่าคนคิดไม่ถึงว่าเย่เทียนเฉินคนเดียวจะกล้าลงมือทำร้ายคน แล้วยังลงมือก่อนอีกด้วย ไม่คิดจะมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง? ทันใดนั้นทั้งหมดต่างเอะอะกันขึ้นมา ชูอาวุธในมือพุ่งเข้ามา
ตอนนี้เองสาวก้นใหญ่คนนั้นเห็นว่าพวกเขาทะเลาะกันก็รีบไปหลบอยู่ด้านข้าง นำธนาบัตรร้อยหยวนที่เย่เทียนเฉินยัดเข้ามาในร่องอกออกมาแล้วรีบใส่เข้าไปในกระเป๋าที่อยู่หลังก้นใหญ่ๆ ของตน กลัวว่าจะถูกปล้นไป
ไม่ถึงห้านาทีอันธพาลสิบกว่าคนที่เหลือก็ล้มไปนอนร้องโอดครวญอยู่บนพื้นทั้งหมด สาวก้นใหญ่อ้าปากกว้าง มองไปยังเย่เทียนเฉิน ไม่กล้าเชื่อโดยสิ้นเชิงว่าชายวัยรุ่นที่ดูท่าทางผอมแห้งอ่อนแอจะมีฝีมือแข็งแกร่งขนาดนี้ อันธพาลเหล่านี้เป็นงูเจ้าถิ่นในเมือง มีน้อยคนที่กล้าไปหาเรื่อง แต่ถึงกับถูกอัดหมอบทั้งหมด
“ขอบคุณเบียร์ของคุณมาก ถ้าผมกลับมา บางทีอาจจะต้องการการปรนนิบัติก็ได้!” มือของเย่เทียนเฉินทั้งซ้ายขวาถือขวดเบียร์ พูดกับสาวก้นใหญ่ด้วยรอยยิ้มก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากบาร์
เย่เทียนเฉินถือขวดเบียร์สองขวดเดินออกไปจากบาร์ จากนั้นจึงมองไปยังขอทานที่นอนหลับอยู่บนพื้นด้านข้าง วางขวดเบียร์ขวดหนึ่งไว้ด้านหน้าขอทานคนนั้น พูดด้วยรอยยิ้มว่า “สหาย พวกหานเจี๋ยไปป่าหมอกดำแล้วเหรอ? คุณรอที่นี่นานแล้ว จากการคาดเดาของคุณ พวกเขาจะเจอกับอะไร?”
ขอทานคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองเย่เทียนเฉิน ในดวงตาประดับไปด้วยความแปลกใจ ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง จัดผมรกรุงรังของตนให้เรียบร้อยจนเผยใบหน้าของตนออกมา เขาเป็นขอทานอายุประมาณสี่สิบกว่าปี บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยหนวดเครารุงรัง
“ตาแหลมดีนี่ ไม่รู้ว่าคุณชื่ออะไร?” ขอทานวัยกลางคนคนนั้นเผยรอยยิ้มสนุกสนานออกมาที่มุมปากแล้วเอ่ยถามเย่เทียนเฉิน