เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 331 พวกเราสองคนสู้กันเป็นไง
เย่เทียนเฉินนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงในห้องของตน กำลังเข้าสู่สภาวะสมาธิ ไม่เพียงแต่จะให้ความร่วมมือกับพลังอันอ่อนโยนสายนั้นเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บในร่างกายของตน แต่ยังเรียนรู้ไม่หยุดด้วย การต่อสู้กับซาโต้ในครั้งนี้เขาได้รับบาดเจ็บแต่กลับไม่วิกฤตเหมือนกับครั้งที่แล้ว และไม่มีอันตรายถึงชีวิต
ประการแรกเป็นเพราะครั้งที่แล้วเย่เทียนเฉินเกือบจะตาย ในช่วงเวลาสำคัญจางรั่วถงใช้ร่างกายอันบริสุทธิ์ของตนช่วยชีวิตเย่เทียนเฉินกลับมาได้ และในตอนที่เย่เทียนเฉินตื่นมา เขาสัมผัสได้ว่าพลังพิเศษในร่างกายของตนแข็งแกร่งมากขึ้น ระดับความแข็งแกร่งของกายเนื้อก็ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ความสามารถส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น
ประการที่สองเป็นเพราะจางรั่วถงทิ้งพลังอันอ่อนโยนสายหนึ่งเอาไว้ในร่างกายของเย่เทียนเฉิน ในตอนที่เย่เทียนเฉินได้รับบาดเจ็บก็จะใช้พลังอ่อนโยนนี้โดยอัตโนมัติเพื่อฟื้นฟูและรักษาบาดแผล ดังนั้นในตอนที่เย่เทียนเฉินถูกซาโต้โจมตีจนบาดเจ็บ พลังอ่อนโยนสายนั้นก็เริ่มรักษาร่างกายที่บาดเจ็บแล้ว เพียงไม่นานก็ควบคุมความสาหัสของบาดแผลได้
จางหลานในสภาพเท้าเปล่าน่ารักมาก และยังให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังปิดหูปิดตา แอบย่องมาข้างเตียงของเย่เทียนเฉิน ความจริงในตอนที่จางหลานเข้ามาเย่เทียนเฉินก็รู้แล้วแต่จงใจแสร้งทำเป็นนั่งสมาธิหลับอยู่ เขาอยากจะเห็นว่าสาวแปลกคนนี้จะทำอะไร
เสียงกรนดังขึ้นทำให้จางหลานตกใจจนนอนหมอบไปใต้เตียง ท่าทางเช่นนั้นไม่ต้องพูดเลยว่าจะน่ารักและน่าตลกขนาดไหน เย่เทียนเฉินเกือบจะทนไม่ได้จนหัวเราะออกมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าจางหลานที่มีความแข็งแกร่งเด็ดเดี่ยวและมีนิสัยตรงไปตรงมาจะถึงกับมีด้านที่น่ารักแบบนี้ด้วย
จางหลานนอนหมอบอยู่ข้างเตียงนานมากจนกระทั่งเสียงกรนหยุดลง เนื่องจากกลัวว่าเย่เทียนเฉินจะรู้ตัว เธอรู้ว่าถ้าหากเย่เทียนเฉินเจอเธอ แผนการของเธอคงล้มเหลว การเดิมพันจูบแรกของตนกับเย่เทียนเฉินก็อาจจะต้องทำให้เป็นจริง
ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงที่ไม่เคยมีความรักมาก่อน สำหรับเธอแล้วจูบแรกไม่ได้เป็นเพียงปัญหาของความเขินอาย แต่ยังเกี่ยวพันไปถึงความรักชั่วชีวิตอีกด้วย ผู้หญิงทุกคนล้วนเป็นสัตว์ที่อ่อนไหวไม่เหมือนผู้ชายที่ตรงไปตรงมาแบบนั้น พวกเธอจะไม่ลืมครั้งแรกในทุกเรื่องของตนไปชั่วชีวิต ดังนั้นผู้หญิงทุกคนจึงเป็นนางฟ้าที่ควรค่าให้ผู้ชายเอาอกเอาใจและทำดีกับเธอ
จางหลานไม่มีความประทับใจที่ดีอะไรต่อเย่เทียนเฉิน อย่างน้อยในตอนนี้ก็ไม่มี ผู้หญิงแปลกคนหนึ่งกับผู้ชายแปลกคนหนึ่ง หากต้องการสานสัมพันธ์ให้แนบแน่นเป็นเรื่องที่ยากมาก ต่อให้ในสายตาของคนอื่นพวกเขาสองคนจะทะเลาะกันเหมือนคู่รักที่ดูหวานแหววมาก จนกระทั่งหานเจี๋ยก็อิจฉา แต่ในใจของพวกเขาสองคน ไม่รู้ว่าความคิดที่แท้จริงในส่วนลึกของจิตใจเป็นอย่างไร
“เจ้าบ้า หลับแล้วยังมาทำให้ฉันตกใจอีก รอให้ฉันจับนายมัดก่อนเถอะ นายจะได้รู้ถึงความร้ายกาจ หึ!” จางหลานมุ่ยปากเล็กๆ อย่างน่ารัก มองเย่เทียนเฉินแล้วพูดอย่างดุดัน
เมื่อพูดจบจางหลานก็หยิบเชือกเส้นหนึ่งออกมาจากด้านหลัง เดินไปด้านหน้าของเย่เทียนเฉิน มองใบหน้าของเย่เทียนเฉินที่ดูเหมือนกำลังหลับลึก แล้วทำหน้าทะเล้นใส่อย่างแปลกประหลาด ทำให้เย่เทียนเฉินเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา ผู้หญิงแต่คนนี้ทำตัวแปลกมากจริงๆ มีเอกลักษณ์ของเธอเท่านั้น
“หึ ยังต้องการให้คุณหนูอย่างฉันจูบนายอีก นายก็หลับฝันหวานไปเถอะ จับนายมัดซะก่อน อีกเดี๋ยวค่อยจัดการกับนาย หากกล้าไม่ยอมรับปากฉันว่าจะยกเลิกการเดิมพัน ฉันจะทำให้นายได้เห็นดี!”
จางหลานใช้เชือกมัดเย่เทียนเฉินไปพลางกรอกตาใส่แล้วพูดไปพลาง เย่เทียนเฉินเกือบจะถูกจางหลานทำให้เธอหัวเราะไปหลายครั้งแต่ก็อดกลั้นเอาไว้ตลอด เขายอมถูกผู้หญิงแปลกคนนี้มัดเพราะในตอนที่จางหลานมัดเย่เทียนเฉินก็กระตุ้นพลังพิเศษช้าๆ ทำให้เชือกขาด ถูกจางหลานจับมัดนั้นเป็นแค่สิ่งที่แสดงให้เห็นเบื้องหน้าเท่านั้น
เพี๊ยะๆ!
หลังจากที่มัดเย่เทียนเฉิน “แน่น” แล้ว จางหลานก็ผ่อนลมหายใจทันที มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มได้ใจ ตัวเธอเองก็คิดไม่ถึงว่าการมัดเย่เทียนเฉินในครั้งนี้จะราบรื่นขนาดนี้ เดิมทีคิดว่าความสามารถของคนคนนี้แข็งแกร่งเหนือระดับ ลึกล้ำไม่อาจคาดเดา เป็นไปได้มากว่าตนเองจะทำไม่สำเร็จ หากต้องการมัดคนคนนี้อย่างน้อยก็ต้องสู้กันสักยก หรือกระทั่งเป็นไปได้มากว่าคนที่ถูกมัดจะกลายเป็นตัวเอง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะมัดเย่เทียนเฉินได้สบายๆ ขนาดนี้
“ดูท่าทางเจ้าหมอนี่จะบาดเจ็บไม่เบาเลย ฉันมัดแน่นขนาดนั้น จะตายหรือเปล่านะ?” จางหลานมุ่ยปากแล้วพูดขึ้น พึมพำด้วยความดีที่ยังเหลืออยู่ในใจ
คิดไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นจางหลานจึงกรอกตาใส่เย่เทียนเฉินอย่างเป็นเอกลักษณ์ เธอคิดถึงเรื่องที่เจ้าหมอนี่ทะเลาะกับตนระหว่างการเดินทาง ไม่ยอมลงให้แม้แต่น้อย ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษแม้แต่ครึ่งส่วน ความโกรธในใจปะทุขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพบกับคนแบบนี้ คิดไปแล้วก็ยิ่งโกรธในใจ
“นี่ เจ้าบ้า ตื่น…”
“เอ๋? เจ้าบ้า…”
“เย่เทียนเฉิน…”
“นายอย่ามาทำให้ฉันตกใจ…เย่เทียนเฉิน…เย่เทียนเฉิน…”
ตอนแรกจางหลานแค่ผลักเย่เทียนเฉินเล็กน้อยเท่านั้น สุดท้ายจึงตะโกนเสียงดัง แต่ไม่สามารถทำให้เย่เทียนเฉินลืมตาขึ้นมาตอบเธอได้ เธออดไม่ได้ที่จะแปลกใจ ในใจคิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายอะไรขึ้นหรือไม่ เย่เทียนเฉินคนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น จะตายไปโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า?
“นี่!” จางหลานออกแรงสะกิดเย่เทียนเฉินอีกครู่หนึ่ง ตอนนี้ในใจไม่มีความรู้สึกสนุกแม้แต่ครึ่งส่วน และไม่ได้รู้สึกยินดีที่มัดเย่เทียนเฉินสำเร็จแล้ว เนื่องจากเย่เทียนเฉินในตอนนี้ไม่ขยับเขยื้อนเหมือนกับคนตาย ทำให้จางหลานตกใจจริงๆ
ถึงแม้ในใจของจางหลานจะมีความรู้สึกดีต่อเย่เทียนเฉินไม่มาก แต่ไม่อยากยอมมอบจูบแรกให้กับเย่เทียนเฉินเพื่อเป็นการทำตามเดิมพัน มิฉะนั้นคงไม่แอบเข้ามาในตอนกลาง คืนคิดจะมัดเย่เทียนเฉินและบีบบังคับให้เขาพูดยกเลิกการเดิมพันหรอก แต่จางหลานที่ในใจยังมีส่วนดีอยู่ ไม่คิดจะให้คนคนนี้เกิดเรื่องเลยแม้แต่ครึ่งส่วน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องตายเลย
ตุ้บ! เสียงเบาๆ ดังขึ้น เย่เทียนเฉินถึงกับล้มลงไปบนเตียงเหมือนกับศพที่ตายไปแล้ว ทำให้จางหลานตกใจจนหน้าซีด เกือบจะร้องไห้ออกมา ถ้าหากเย่เทียนเฉินตายไปจริงๆ จางหลานคงรู้สึกผิดอยู่ในใจไปชั่วชีวิต ในฐานะที่เป็นผู้หญิงแกร่งคนหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็มีความรับผิดชอบมาก ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะกำลังคิดว่าที่เย่เทียนเฉินตายไปอาจเป็นเพราะถูกตนรบกวนกะทันหันในตอนที่กำลังใช้พลังภายในรักษาตัวเองอยู่
เมื่อคิดถึงตรงนี้จางหลานก็ยิ่งร้อนใจมากขึ้น ทันใดนั้นจึงนอนหมอบลงบนเตียงโดยไม่สนใจสิ่งใด สวมชุดนอนเซ็กซี่ เผยข้อเท้าเปลือยเปล่าขาวนวล ขาทั้งสองที่งดงามอย่างไม่ต้องสงสัยแม้แต่น้อย คุกเข่าครึ่งตัวอยู่บนเตียงในสภาพนี้ มองเย่เทียนเฉินที่ล้มลงไปบนเตียงโดยไม่ขยับเขยื้อน ร้อนใจจนดวงตาอันงดงามเกือบจะมีน้ำตาไหลออกมา ตะโกนว่า
“เย่เทียนเฉิน เย่เทียนเฉิน…นายไม่เป็นไรใช่ไหม ตื่นสิ ตื่น…”
ในระหว่างที่ตะโกนจางหลานก็อดไม่ได้ที่จะตบหน้าเย่เทียนเฉิน คนคนนี้ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้ตกใจจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี อดไม่ไหวเกือบร้องไห้ พูดออกมาว่า
“ถ้ารู้ว่านายจะตาย ฉันคงทำตามสัญญาของตัวเองไปแล้ว ไม่อยากเห็นผลลัพธ์แบบนี้….”
“เธอพูดจริงเหรอ?”
“อืม…เอ๋? เจ้าบ้า…นาย…อื้อ!”
ทันใดนั้นโลกพลันพลิกคว่ำ ในตอนที่จางหลานยังไม่มีปฏิกิริยา เย่เทียนเฉินก็คลายเชือกที่มัดตนไว้ ลุกขึ้นจากเตียงแล้วกอดจางหลานเอาไว้โดยพลัน
ในตอนนี้เอง จางหลานที่มีอารมณ์ต่างๆ มากมายปะปนอยู่ในสมองไม่มีปฏิกิริยาโดยสิ้นเชิง ปากของเย่เทียนเฉินจูบลงไปบนริมฝีปากของเธอเบาๆ หยุดอยู่แบบนั้นประมาณห้าวินาที ในสมองของจางหลานก็ขาวโพลนไปห้าวินาที ในห้าวินาทีนี้ ความรู้สึกของเธอแปลกมาก ดูไม่มีความรังเกียจมากนัก แน่นอนว่าไม่ชอบด้วยเช่นกัน แต่กลับรู้สึกถึงแรงจูบของเย่เทียนเฉิน
“อื้อๆ …ปล่อยฉัน…”
จางหลานใช้แรงทั้งหมดในร่างกาย คิดจะดิ้นออกไป แต่แรงของเย่เทียนเฉินเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นความสามารถของเย่เทียนเฉินยังเหนือกว่าเธอ ไม่ว่าเธอจะใช้แรงขนาดไหนก็สลัดออกจากอ้อมกอดของไม่หลุด และไม่สามารถทำให้ปากของตัวเองหลุดจากปากของเย่เทียนเฉินได้ ดวงหน้างดงามไม่นานก็ปรากฏสีแดงด้วยความเขินอาย มือขาวนวลทุบลงบนหน้าอกของเย่เทียนเฉิน
เย่เทียนเฉินในตอนนี้หัวเราะอย่างชั่วร้ายอยู่ในใจ ที่เขาทำแบบนี้ ประการแรกเป็นเพราะทำตามคำเดิมพันในตอนแรก ลูกผู้ชายต้องพูดคำไหนคำนั้น นอกจากนี้ทั้งยังต้องการลงโทษผู้หญิงแปลกคนนี้ด้วย ถ้าหากเธอทำแบบนี้กับตนบ่อยๆ รู้สึกรับไม่ได้จริงๆ
จางหลานรับมือไม่ง่ายเลย นี่เป็นเรื่องที่เย่เทียนเฉินเข้าใจกระจ่างอยู่ในใจ ดังนั้นในครั้งนี้เขาจึงต้องการจัดการเธอให้ดีเสียหน่อย ทำให้เธอมีความทรงจำที่ลืมไม่ลง
“อา!”
วินาทีต่อมาเป็นเสียงร้องของเย่เทียนเฉิน เขาอดไม่ได้ที่จะผลักจางหลานออกอย่างฉับพลัน เนื่องจากเขารู้สึกว่าริมฝีปากของตนถูกกัด อดไม่ได้ที่จะลูบเบาๆ พบว่ามีรอยเลือดอยู่ เขารู้สึกหดหู่ไปทั้งร่าง มองไปยังจางหลานอย่างจนใจแล้วพูดว่า
“เธอเกิดปีหมารึไง?”
จางหลานในตอนนี้อายจนหน้าแดงไปหมดแล้ว ใช้ดวงตาอันงดงามจ้องเย่เทียนเฉินอย่างดุดัน เม้มปากเล็กๆ อันเซ็กซี่ ขบริมฝีปากเล็กน้อย ส่วนริมฝีปากล่างยื่นออก พูดออกมาว่า
“ฉัน…ฉันไม่จบกับนายแน่!”
“เธอไม่จบกับฉัน ฉันก็ไม่จบกับเธอ เธอคิดจะมาลอบโจมตีฉันก่อนนะ ถ้าไม่ใช่เพราะความตื่นตัวของฉัน ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะถูกเธอทรมานจนมีสภาพแบบไหนแล้ว ฉันแค่ทำตามคำเดิมพันของเรา เธอคิดจะโกงเหรอ?”
เพี๊ยะๆ! มือของจางหลานหนักมาก อายุน้อยขนาดนี้ก็กลายเป็นหัวหน้าหน่วยสวาทหญิงแล้ว ฝีมือไม่ใช่แค่การโอ้อวด หมัดขาวนวลซัดไปที่เย่เทียนเฉินโดยตรง เย่เทียนเฉินเองก็ไม่กล้าลำพองใจ ในตอนที่ผู้หญิงแปลกคนนี้บ้าขึ้นมา ร้ายกาจมากจริงๆ
ตู้มๆๆ!
เย่เทียนเฉินและจางหลานแสดงภาพประหลาดๆ ออกมาอีกแล้ว ทั้งสองต่อสู้กันอยู่บนเตียงของเย่เทียนเฉิน ฝ่ายนี้หมัดหนึ่งฝ่ายโน้นหมัดหนึ่ง ฝ่ายนี้เตะครั้งหนึ่งฝ่ายโน้นเตะครั้งหนึ่ง ไม่ยอมลงให้กัน
แน่นอนว่าจางหลานย่อมรู้จักแยกแยะ เธอรู้ว่าเย่เทียนเฉินได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงไม่ได้ลงมือเต็มที่ เพียงแค่คิดจะสั่งสอนเจ้าหมอนี่สักหน่อยก็เท่านั้น ส่วนเย่เทียนเฉินก็ไม่ได้ออกแรงเต็มกำลัง พูดตามจริงแล้ว ถ้าเขาลงมือเต็มที่จางหลานคงไม่ใช่คู่มือของเขา เขาแค่คิดอยากจะหยอกล้อจางหลานเท่านั้น