เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 359 ชิงเฉิงเยว่
ในหมู่สี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณ คนที่เย็นชาดุจน้ำแข็งอย่างแท้จริงก็คือตงฟางเมิ่งแห่งพรรคสุสานโบราณ ส่วนชิงเฉิงเยว่ที่ว่ากันว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ในการฝึกฝนวรยุทธที่หาได้ยากยิ่งในรอบ 100 ปี ดูเหมือนจะไม่ใช่สาวงามเย็นชาอะไร สิ่งที่ทำให้เย่เทียนเฉินคิดไม่ถึงก็คือ ผู้หญิงคนนี้ที่เดิมทีเขาคิดว่าเย็นชาและมีวิธีการโหดเหี้ยม ตอนนี้เมื่อเห็นพวกเธอสนทนากันแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่โหดเหี้ยม เธอต้องการฆ่าเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์มาโดยตลอด ในเรื่องการฆ่าฟันเธอเด็ดขาดยิ่งกว่าตงฟางเมิ่งมาก
การมาถึงของชิงเฉิงเยว่ทำให้การประลองสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการฆ่าฟันในพริบตา ก่อนที่ชิงเฉิงเยว่จะมาถึง เทียนซวงเอ๋อร์และเซี่ยอวี่เหอก็ทำการต่อสู้กันไปแล้วครั้งหนึ่ง ทั้งสองล้วนได้รับบาดเจ็บ บางทีความสามารถของพวกเธอสองคนคงไม่อ่อนแอไปกว่าชิงเฉิงเยว่และตงฟางเมิ่ง เนื่องจากว่าหากยังไม่ได้ต่อสู้ฆ่าฟันกันสุดชีวิต ไม่ว่าใครก็ไม่กล้ามั่นใจว่าจะชนะใคร ยิ่งไปกว่านั้น ในการต่อสู้ของเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ ความสามารถที่พวกเธอแสดงออกมา กระทั่งเย่เทียนเฉินและตงฟางเมิ่งก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตกใจ รู้สึกว่าผู้หญิงสองคนนี้แข็งแกร่งพอๆ กัน ความสามารถลึกล้ำไม่อาจคาดเดา แต่ตอนนี้พวกเธอสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเพียงตงฟางเมิ่งที่ยังไม่ได้ลงมือกับชิงเฉิงเยว่ที่แข็งแกร่งที่สุด
บทสนทนาง่ายๆ อาจเป็นผู้หญิงสองคนนี้ที่แข็งแกร่งที่สุดในพรรควรยุทธโบราณ ต่างจ้องมองไปยังอีกฝ่าย พวกเธอยังไม่ลงมือ ระหว่างคนทั้งสองมีพลังภายในระเบิดออกมา ทำให้ป่าสั่นสะเทือนไปทั่ว ใบไม้ปลิวว่อนกลางท้องฟ้า ถูกพลังภายในอันไร้รูปร่างพัดจนม้วนตลบลอยสูงขึ้นสู่ฟ้าอีกครั้ง เซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหลายก้าว เดิมทีพวกเธออยากจะเข้าร่วมต่อสู้ด้วย แต่จากสภาพของพวกเธอในตอนนี้ และจากพลังการต่อสู้ของชิงเฉิงเยว่และตงฟางเมิ่งที่ระเบิดออกมา หากพวกเธอพุ่งเข้าไปจะต้องตายโดยไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าใครคงไม่โง่ถึงขั้นส่งตัวเองเข้าไปตาย
“ก่อนพวกเราจะเริ่ม ฉันคิดว่าฆ่าพวกเธอสองคนก่อนจะดีกว่า เลี่ยงไม่ให้พวกเธอสอดมือสอดเท้า!” ชิงเฉิงเยว่หันไปมองเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์อย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้น
เทียนซวงเอ๋อร์และเซี่ยอวี่เหอตกตะลึง ต่างพากันตั้งท่ารับการต่อสู้พร้อมกัน ไม่กล้าลำพองใจแม้แต่น้อย ชิงเฉิงเยว่ถูกเรียกขานว่าเป็นอัจฉริยะในด้านการฝึกฝนวรยุทธที่หาได้ยากในรอบ 100 ปี การดวลกันกับตงฟางเมิ่งยังไม่ทันได้ลงมือก็ระเบิดพลังภายในที่ทำให้ผู้คนต้องตกตะลึงออกมาแล้ว ถามหน่อยว่าใครจะกล้าดูถูก? เกรงว่าหากเย่เทียนเฉินลงมือก็ยังต้องระมัดระวังให้มาก ความแข็งแกร่งของตงฟางเมิ่งและชิงเฉิงเยว่เกินกว่าที่เขาจินตนาการไปแล้ว พรรควรยุทธโบราณที่สืบทอดกันมานับพันปีของประเทศจีนทำให้เขาไม่กล้าดูถูกเลยจริงๆ
“ถ้าฉันยังอยู่ก็ไม่อนุญาตให้ฆ่าพวกเธอ ถ้าเธอแพ้ พรรคของพวกเราทั้งสี่ยังสามารถร่วมมือเป็นพันธมิตรกันได้ เพื่อระงับการนองเลือดในยุทธภพและลดการฆ่าฟัน!” ตงฟางเมิ่งพูดกับชิงเฉิงเยว่อย่างเย็นชา
“งั้นเหรอ? พรรคสุสานโบราณเหลือเธอแค่คนเดียวยังคิดจะก่อตั้งพันธมิตรอีก หรือคิดจะเป็นหัวหน้าพันธมิตร?” ชิงเฉิงเยว่เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มไม่สบอารมณ์
“ฉันไม่มีความคิดแบบนั้น เพียงแค่อยากทำความปรารถนาของท่านอาจารย์ให้สำเร็จ ให้การฆ่าฟันในยุทธภพน้อยลงบ้าง พรรควรยุทธโบราณต่อสู้กันทั้งในทางลับและทางสว่างมาหลายปี เบื้องหลังไม่รู้ว่ามีการฆ่าฟันนองเลือดมากน้อยแค่ไหน ฉันกับท่านอาจารย์เพียงอยากทำให้พวกมันสงบลงเท่านั้น ส่วนเรื่องตำแหน่งหัวหน้าพันธมิตร พรรคของพวกเธอสามคน พรรคไหนจะเป็นฉันก็ไม่มีปัญหา!” ตงฟางเมิ่งพูดอย่างเรียบเฉย
“พูดได้ดี แต่การประลองในครั้งนี้พรรคสระหยกของฉันเป็นคนจัดขึ้น ก่อนทุกคนเข้าร่วมก็รู้กันแล้วว่าเป็นตายแล้วแต่โชคชะตา อาจารย์ของฉันบอกให้ฆ่าพวกเธอทั้งสามคนให้หมด คำสั่งของท่านอาจารย์ฉันไม่อาจไม่ฟัง ก็เหมือนกับที่เธอต้องฟังคำสั่งของอาจารย์ของเธอ…”
คำพูดของชิงเฉิงเยว่เพิ่งจะกล่าวออกมา ตำแหน่งเดิมที่เธอยืนก็หลงเหลือเพียวภาพติดตา เย่เทียนเฉินที่เห็นดังนั้นก็ตกตะลึง กระทั่งเขาก็เห็นได้ไม่ชัดเจน การเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนนี้มีแรงระเบิดมากจริงๆ
ตู้ม!
เมื่อเห็นชิงเฉิงเยว่หายไป เทียนซวงเอ๋อร์และเซี่ยอวี่เหอจึงรีบตั้งท่าท่ามกลางความตกตะลึง ป้องกันการโจมตีของชิงเฉิงเยว่ เพียงแต่พวกเธอมองไม่เห็นว่าชิงเฉิงเยว่อยู่ที่ไหน และสัมผัสไม่ได้ การโจมตีของผู้หญิงคนนี้รวดเร็วมาก ห่างไกลจากการรับรู้ของพวกเธอไปมากนัก
อย่างไรก็ตามใน เวลาเพียงชั่วพริบตา เบื้องหน้าเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์พลันเกิดเสียงดังสนั่น จนกระทั่งเมื่อพวกเธอได้สติกลับมา พบว่าตงฟางเมิ่งลอยตัวมาเบื้องหน้าพวกเธอ สกัดกั้นฝ่ามือทั้งสองโจมตีที่ออกมาพร้อมกันของชิงเฉิงเยว่ไว้ได้ในพริบตา
ที่แท้ ในตอนที่ชิงเฉิงเยว่ยังพูดไม่จบเธอก็เริ่มโจมตีแล้ว ทะยานตัวมาเบื้องหน้าเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ด้วยความเร็วสูงสุด ปล่อยฝ่ามือทั้งสองออกมาพร้อมกัน คิดโจมตีผู้หญิงสองคนนี้ บางทีในตอนที่เทียนซวงเอ๋อร์และเซี่ยอวี่เหอไม่ได้บาดเจ็บสาหัสอาจจะรู้ตัวและหลบชิงเฉิงเยว่ได้ แต่เมื่อครู่พวกเธอเพิ่งผ่านการต่อสู้ครั้งใหญ่มา ไม่เพียงแต่จะสูญเสียพลังภายในไปมาก แต่ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย ดังนั้นจึงหลบไม่พ้นและไม่อาจรับรู้ถึงกระบวนท่าสังหารอันรวดเร็วเช่นนั้นของชิงเฉิงเยว่ได้
แต่ในตอนที่ฝ่ามือทั้งสองของชิงเฉิงเยว่ตบลงมา ตงฟางเมิ่งก็ไล่ตามทัน ใช้ฝ่ามือโจมตีออกไปเช่นเดียวกัน ขวางชิงเฉิงเยว่เอาไว้ได้ ฝ่ามือทั้งสองของผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดปะทะกันจนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นชั่วครู่ บริเวณรอบไชิงเฉิงเยว่และตงฟางเมิ่งเกิดหลุมใหญ่ ร่างกายของผู้หญิงทั้งสองจมลงไปหลายเซนติเมตร นี่คือผลของการปะทะกันระหว่างพลังภายในของพวกเธอ ทำให้พื้นเกิดระเบิดขึ้น
“ยังไม่ไปอีก?” ในตอนที่เทียนซวงเอ๋อร์และเซี่ยอวี่เหอยังไม่มีปฏิกิริยากลับมา ตงฟางเมิ่งก็หันไปมองพวกเธอแล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา
เซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว พวกเธอต่างไม่ใช่คนโง่ เมื่อเห็นความร้ายกาจของชิงเฉิงเยว่ หากจะฆ่าพวกเธอย่อมทำได้แน่ ตนเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ใช่ศัตรูของเธอแล้ว หากยังพุ่งเข้าไป ไม่ใช่ว่าหาเรื่องตายรึไง? ดังนั้นทั้งสองจึงรีบถอยออกมา พวกเธอรู้ว่าการต่อสู้ที่นี่ตอนนี้ ไม่ใช่อะไรที่พวกเธอจะสอดมือเข้าไปได้ ตงฟางเมิ่งและเทียนซวงเอ๋อร์แข็งแกร่งมากจริงๆ
“ไปก่อน รักษาชีวิตไว้ก่อน!”
ไม่กล่าวไม่ได้ว่าชิงเฉิงเยว่เป็นผู้หญิงที่โหดเหี้ยมคนหนึ่ง หน้าตาสวยงามเหมือนนางฟ้า นิสัยก็ไม่เหมือนผู้หญิงเย็นชา แต่ในตอนที่ลงมือทั้งโหดเหี้ยมและดุดันเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ถอยหลังไป ทำท่าทางอยากจะจากไป เธอก็สะกิดตัวกระโดดขึ้น พลังที่แท้จริงในฝ่ามือทั้งสองซัดสาด ตบฝ่ามือออกไป
พริบตานั้น เบื้องหน้าเทียนซวงเอ๋อร์และเซี่ยอวี่เหอพลันเกิดฝ่ามือขนาดใหญ่ขึ้น ในตอนที่ซัดลงมามีเสียงดังสนั่นประดุจสายฟ้าฟาด น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น ฝ่ามืออันใหญ่โตมโหฬารคล้ายกับจะครอบคลุมทั่วทั้งป่า ทำให้ผู้คนไม่กล้าจินตนาการเลยว่านี่เป็นเพียงฝ่ามือที่ซัดออกมามั่วๆ เท่านั้น
“ฝ่ามือสะท้านฟ้า…” ตงฟางเมิ่งขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ
เย่เทียนเฉินที่หลบอยู่บนต้นไม้ได้ยินคำพูดพึมพำกับตัวเองของตงฟางเมิ่ง ในใจพลันตื่นตะลึง นี่คือฝ่ามือสะท้านฟ้าหรือ? จะทำให้ผู้คนต้องสั่นสะท้านเกินไปแล้ว ชิงเฉิงเยว่ไม่ได้รวบรวมพลังภายในอะไรเลย และไม่ได้ใช้พลังภายในอะไรด้วย แค่ซัดฝ่ามือออกไปมั่วๆ เท่านั้น ถึงกับมีพลังอำนาจขนาดนี้เชียว ฝ่ามือสะท้านฟ้าของพรรคสระหยกแข็งแกร่งจนทำให้ผู้คนไม่กล้าจินตนาการจริงๆ หากถูกฝ่ามือนี้เข้าไปไม่ตายก็คงชีพจรขาดสะบั้นทั้งร่าง
เทียนซวงเอ๋อร์และเซี่ยอวี่เหอก็ตื่นตะลึงหาใดเปรียบ ฝืนพยุงร่างกายขึ้นพร้อมกัน ปล่อยกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของตนออกไปต่อต้าน
ไอเย็นกลุ่มหนึ่งแปรเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์ของฝ่ามือเช่นเดียวกับฝ่ามือสะท้านฟ้าแล้วซัดออกไป ในมือของเซี่ยอวี่เหอก็มีประกายสีทองยิงออกมา นั่นคือมีดบินจักรพรรดิทองคำของพรรคมีดบิน ร้ายกาจไม่อาจต้านทาน มุ่งโจมตีไปยังฝ่ามือสะท้านฟ้า
ตู้ม!
เสียงดั่งสนันฟ้า หากไม่ใช่เพราะป่านี้มีค่ายกลอยู่จึงทำให้บริเวณรอบๆ มั่นคง เสียงดังสนั่นนี้คงทำให้ภูเขาหลังมหาวิทยาลัยหลงเถิงทั้งลูกกลายเป็นที่ราบไปแล้ว การโจมตีตอบโต้ของเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ ทำได้เพียงทำให้ฝ่ามือนี้ช้าลงเท่านั้น แต่ไม่อาจหยุดยั้งอำนาจของฝ่ามือนี้ได้โดยสิ้นเชิง การยืดเวลาออกไปทำให้เซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์มีโอกาสหนีเอาตัวรอด ทั้งสองพลิกตัวขึ้นจากพื้นแล้วรีบหลบไป เสียงดังสนั่น คลื่นพลังการโจมตีทำให้พวกเธอกระเด็นออกไป
ฟิ้ว!
ฟิ้ว!
เดิมทีเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสในตอนที่สู้กันแล้ว ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะหลบฝ่ามือที่โจมตีเอาชีวิตของชิงเฉิงเยว่ได้ แต่ทั้งสองยังถูกการปะทุของพลังทำให้กระเด็นออกไป มุมปากกระอักเลือดสดๆ ออกมา พวกเธอสูญเสียพลังในการต่อสู้ไปแล้ว ฝ่ามือทั้งสองที่ชิงเฉิงเยว่ซัดออกมาเมื่อครู่นี้ หากไม่ถูกตงฟางเมิ่งขวางเอาไว้ เกรงว่าพวกเธอทั้งสองคนคงกลายเป็นศพไปนานแล้ว ตอนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบตาย ไม่มีพลังการต่อสู้อะไรอีก เมื่อเผชิญหน้ากับชิงเฉิงเยว่ที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก หากตงฟางเมิ่งไม่ช่วยชีวิตคงตายโดยไม่ต้องสงสัย
“เธอต้องการช่วยสองคนนั้นจริงๆ เหรอ?” ชิงเฉิงเยว่เอามือไพล่หลัง มองไปยังตงฟางเมิ่งอย่างเย็นชา เซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปแล้ว เรียกได้ว่าไม่ว่าชิงเฉิงเยว่หรือตงฟางเมิ่ง หากต้องการฆ่าพวกเธอก็ง่ายดั่งพลิกฝ่ามือ ก็เหมือนกับที่ชิงเฉิงเยว่พูด หากตงฟางเมิ่งไม่ช่วยพวกเธอ เทียนซวงเอ๋อร์และเซี่ยอวี่เหอคงตายแน่แล้ว
ความจริงแล้ว ส่วนสำคัญเป็นเพราะเทียนซวงเอ๋อร์และเซี่ยอวี่เหอระงับอารมณ์ไม่อยู่จนลงมือสู้กันก่อน ไม่เพียงแต่จะสูญเสียพลังภายในไปจำนวนมาก ยังทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย นี่กลายเป็นจุดอ่อนถึงชีวิตของพวกเธอ มิฉะนั้นหากต่อสู้สุดชีวิตกับชิงเฉิงเยว่ อย่างน้อยหากชิงเฉิงเยว่ต้องการฆ่าพวกเธอคงไม่ง่ายขนาดนั้น กระทั่งชิงเฉิงเยว่เองก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็นเลือดออกมาบ้าง
“ฉันบอกแล้ว ต่อหน้าฉันไม่อนุญาตให้มีการฆ่าฟัน หากเธอต้องการฆ่าก็ต้องผ่านด่านฉันให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน!” ตงฟางเมิ่งมองชิงเฉิงเยว่แล้วพูดอย่างเย็นชา
“ถ้าพูดแบบนี้ แสดงว่าฉันต้องฆ่าเธอก่อนเท่านั้นเหรอ?” สายตาของชิงเฉิงเยว่เปลี่ยนไปคมกริบ มองไปยังตงฟางเมิ่งด้วยสายตาเจือไอสังหาร
“ถูกต้อง!” ตงฟางเมิ่งใจเย็นมาก ยังคงกล่าวเพียงสองคำนี้ออกมาสั้นๆ
“ดี แต่ฉันเป็นคนที่ชอบทำตรงกันข้าม ฉันจะฆ่าพวกเธอก่อนแล้วค่อยฆ่าเธอ ดูซิว่าเธอจะหยุดฉันได้หรือเปล่า!” มุมปากของชิงเฉิงเยว่เผยรอยยิ้มสนุกสนานออกมา
ฉัวะ!
ฉัวะ!
ตงฟางเมิ่งเคลื่อนไหวเป็นคนแรก ครั้งนี้เธอเป็นคนเริ่มโจมตีก่อน เธอรู้ว่าชิงเฉิงเยว่เป็นคนที่พูดจริงทำจริง ผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งมาก จากการสู้กันเมื่อครู่นี้ทำให้เธอรู้ว่า การประลองสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณในคืนนี้ ใครจะชนะใครจะแพ้ การต่อสู้เป็นตาอย่างแท้จริงกำลังจะอุบัติขึ้นระหว่างเธอชิงเฉิงเยว่แล้ว