เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 367 พาตงฟางเมิ่งไปรักษา
เย่เทียนเฉินคนนี้ บางครั้งก็พึ่งพาไม่ได้ แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ถึงกับคิดแผนชั่วร้ายออกมาได้ ขโมยเอี๊ยมสีชมพูของชิงเฉิงเยว่ไป ทำให้ชิงเฉิงเยว่โกรธจนดวงตาอันงดงามทั้งสองเต็มไปด้วยโทสะ อยากจะฟันเจ้าเย่เทียนเฉินสาระเลวนี่เป็นหลายชิ้น
ไหนเลยจะรู้ว่า ในตอนที่ชิงเฉิงเยว่ซัดฝ่ามือทำลายกำแพงดินหลายสิบแถวที่เย่เทียนเฉินสร้างขึ้นมาได้ เย่เทียนเฉินจะอุ้มตงฟางเมิ่งหนีไปแล้ว ชิงเฉิงเยว่โกรธจนกัดฟันแน่น ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เธอจะฆ่าตงฟางเมิ่ง เซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ไม่ได้ กระทั่งเอี๊ยมของตัวเองก็ถูกเย่เทียนเฉินขโมยไปด้วย หากแพร่ออกไป เธอที่ถูกเรียกขานว่าเป็นอัจฉริยะบุคคลในด้านการฝึกฝนวรยุทธในรอบหลาย 100 ปีของพรรควรยุทธโบราณ ผู้หญิงที่บริสุทธิ์ดุจสายน้ำสะอาดดุจหยกแบบเธอจะไม่กลายเป็นเรื่องน่าตลกเหรอ?
“เจ้าคนสาระเลว ฉันไม่ปล่อยนายไปแน่!” ชิงเฉิงเยว่ขบริมฝีปากล่างของตน พูดด้วยความโกรธจนแดงก่ำไปทั้งหน้า
การประลองสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณก็สิ้นสุดลงด้วยวิธีเช่นนี้เอง ชิงเฉิงเยว่ชนะคนอื่นทั้งหมดได้ เย่เทียนเฉินเองก็แปลกใจมาก เขารู้ว่าฝีมือของสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณแข็งแกร่งมาก แต่ไม่คิดว่าจะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิงเฉิงเยว่ ความสามารถไม่ด้อยไปกว่าเขาเลย อาจจะเหนือกว่าเขาด้วยซ้ำ ส่วนตงฟางเมิ่ง ในสภาพที่ยังฝึกคัมภีร์ดรุณีหยกไม่สมบูรณ์ เมื่อสู้กับชิงเฉิงเยว่ ท้ายที่สุดก็เกือบจะลากชิงเฉิงเยว่ไปตายด้วยกันได้ ความสามารถและความเฉลียวฉลาดของผู้หญิงคนนี้ไม่อาจดูเบาได้จริงๆ คัมภีร์ดรุณีหยกกว้างขวางลึกซึ้ง ในนั้นนอกจากเคล็ดวิชาฝึกฝนพลังภายในอันลึกล้ำแล้ว ยังมีเคล็ดวิชาอยู่เป็นจำนวนมาก ในตอนที่ตงฟางเมิ่งสู้กับชิงเฉิงเยว่ก็แสดงออกมาจำนวนหนึ่ง ดูลึกลับน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมากจริงๆ
เช้าวันต่อมา นักศึกษาของมหาวิทยาลัยหลงเถิงล้วนมาเข้าเรียนตรงเวลา ในตอนที่ได้ยินว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่ภูเขาด้านหลังก็ถูกทางโรงเรียนห้ามเข้าไปอย่างเข้มงวดแล้ว สิ่งที่อาจจะไม่มีใครรู้ก็คือ นอกจากเย่เทียนเฉินที่ไม่ค่อยมาเข้าเรียนแล้ว ฉินเหยาเยว่ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาสาวสวยของคณะโบราณคดีก็ไม่ได้มาจริงๆ ส่วนตงฟางเมิ่งที่ได้รับเลือกให้เป็นดาวอันดับหนึ่งสามปีซ้อนของมหาวิทยาลัยหลงเถิงก็ลาป่วยเช่นกัน แน่นอนว่าคนที่ไม่รู้เรื่องภายในจะไม่รู้เรื่องการต่อสู้ของสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณเมื่อคืนอย่างเด็ดขาด เกรงว่าคนที่ได้เห็นด้วยตาคงมีเพียงเย่เทียนเฉินคนเดียว
เมืองหลวง หมู่บ้านบริเวณภูเขาเล็กๆ ที่อยู่ห่างไกลแห่งหนึ่ง เย่เทียนเฉินพาตงฟางเมิ่งมาที่นี่ เข้าไปยังบ้านที่ไม่เล็กไม่ใหญ่หลังหนึ่ง บริเวณประตูบ้านเขียนไว้สองคำว่า
ตระกูลจาง
เย่เทียนเฉินพาตงฟางเมิ่งมาหาจางอีเต๋อที่นี่ ตงฟางเมิ่งที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนลมหายใจรวยระริน เกรงว่าบนโลกนี้ คนที่จะช่วยเธอได้มีแค่จางอีเต๋อคนเดียวแล้ว
กล่าวตามจริง หากไม่ใช่เพราะต้องการช่วยตงฟางเมิ่ง เย่เทียนเฉินคงไม่มาหาจางอีเต๋อ จะอย่างไรจางอีเต๋อก็มีอคติกับเขาเพราะเรื่องของจางรั่วถงไม่มากก็น้อย ส่วนจางรั่วถงที่เสียสละเพื่อตนมากมาย ตอนนี้ก็หายตัวไปยังไม่พบ ในใจของเย่เทียนเฉินรู้สึกตำหนิตัวเอง นี่เป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง เสียสละเพื่อตนเงียบๆ โดยไม่เสียดายร่างกายอันบริสุทธิ์ของตน ยิ่งไปกว่านั้นยังหลงเหลือพลังที่มีฤทธิ์รักษาอันแข็งแกร่งเอาไว้ในร่างกายเขาด้วย เท่ากับว่าทำให้เย่เทียนเฉินมีอัตราการชนะเพิ่มขึ้นในการต่อสู้หลังจากนี้ เย่เทียนเฉินรู้สึกติดหนี้จางรั่วถงมาก ไม่ว่าจะอย่างไรหากได้พบจางรั่วถงอีกครั้งจะต้องดูแลผู้หญิงคนนี้ให้ดี ไม่ว่าตัวเองจะชอบหรือไม่ก็ตาม
เย่เทียนเฉินอุ้มตงฟางเมิ่งเดินเข้าไปในลานบ้านตระกูลจาง วางตงฟางเมิ่งที่ลมหายใจรวยระริน สีหน้าขาวซีดและสลบไสลไม่ได้สติลงบนเก้าอี้หวายด้านนอก แล้วจึงเดินไปยังประตูใหญ่ของบ้านตระกูลจาง ก่อนจะตะโกนว่า
“ผู้เฒ่าจาง อยู่บ้านหรือเปล่า? ผมเย่เทียนเฉิน!”
เสียงครืดดังขึ้น ประตูบ้านตระกูลจางถูกเปิดออก จางอีเต๋อเดินออกมาจากห้องด้านใน ในตอนที่เห็นเย่เทียนเฉิน ใบหน้าเขาไม่มีอารมณ์อะไรมากนัก ท่าทางหลังจากที่จางรั่วถงออกจากบ้านไปคงยังไม่กลับมา มิฉะนั้นจางอีเต๋อคงไม่มีท่าทางเช่นนี้ เขามองเย่เทียนเฉินครั้งหนึ่งแล้วจึงพูดออกมาอย่างเรียบเฉยว่า
“มีอะไร?”
“ผู้เฒ่าจาง รั่วถงเธอ…ยังไม่กลับมาเหรอครับ?” เย่เทียนเฉินเอ่ยปากถาม
“มีธุระอะไรก็พูดเถอะ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรนายคงไม่มาหรอก!” จางอีเต๋อไม่ตอบเย่เทียนเฉิน
ความจริงจางอีเต๋อมีความประทับใจต่อเย่เทียนเฉินไม่เลวเลย นี่เป็นชายหนุ่มที่ไม่เลวคนหนึ่ง อายุน้อยความสามารถแข็งแกร่ง นอกจากมีบางครั้งที่ไร้สาระไปบ้าง แต่สรุปแล้วก็คือไม่เลว
หากเย่เทียนเฉินมาเป็นหลานเขยของเขา จางอีเต๋อก็ไม่มีความเห็นอะไร แต่ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่หลานสาวตนทำเพื่อเย่เทียนเฉินจะไม่มีอะไรตอบแทนเลย สองปู่หลานพึ่งพาอาศัยกันมาเพียงสองคนโดยตลอด ตอนนี้จางรั่วถงหลานสาวของตนปวดใจจนหนีไปแล้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะเย่เทียนเฉินทั้งนั้น หากจะบอกว่าในใจของจางอีเต๋อไม่มีความคิดตำหนิเย่เทียนเฉินแม้แต่น้อยคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เมื่อคิดถึงก่อนหน้านี้ตอนที่ยังไม่พบเย่เทียนเฉิน จางรั่วถงใช้ชีวิตอย่างเบิกบานใจ ตั้งแต่ที่ช่วยมู่หรงซินในครั้งนั้น การมาถึงของเย่เทียนเฉินก็ทำให้จางรั่วถงหลงรักผู้ชายคนนี้อยู่ในใจ ในตอนที่เย่เทียนเฉินได้รับบาดเจ็บจนเกือบตาย ขนาดจางอีเต๋อก็ยังรับมือไม่ได้ จางรั่วถงได้ใช้ร่างกายอันพิเศษของตน ใช้ร่างกายบริสุทธิ์ของตนเพื่อรักษาเย่เทียนเฉิน ไม่เพียงแต่จะรักษาจนหายดี แต่ยังหลงเหลือพลังรักษาซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้มีร่างกายอันพิเศษเท่านั้นถึงจะมีเอาไว้ในร่างกายเย่เทียนเฉินอีกด้วย เรียกได้ว่าจางรั่วถงเป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตของเย่เทียนเฉิน มีบุญคุณต่อเย่เทียนเฉินมากมายดั่งขุนเขา
“ผู้เฒ่าครับ ผมพาคนป่วยมาด้วยคนหนึ่ง เธอใกล้จะตายอยู่แล้ว รบกวนคุณช่วยดูเธอหน่อยเถอะ!”
แม้จะรู้ว่าในใจของจางอีเต๋อยังโกรธอยู่ แต่เย่เทียนเฉินก็ไม่อาจไม่เอ่ยปากขอร้อง เนื่องจากเขาต้องการช่วยตงฟางเมิ่ง ไม่เพียงแต่เพราะเขารับปากท่านผู้นำสูงสุดไว้แล้วว่าจะปกป้องตงฟางเมิ่ง แต่ยังเป็นเพราะเขาคิดว่า ถึงแม้ตงฟางเมิ่งจะเย็นชาแต่ก็เป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง มีความยุติธรรมในใจ และเป็นผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวของพรรคสุสานโบราณด้วย
จางอีเต๋อมองเย่เทียนเฉินแล้วมองไปยังตงฟางเมิ่งที่อยู่บนเก้าอี้หวายบริเวณลานบ้าน ในตอนที่เขาเห็นตงฟางเมิ่งก็อดไม่ได้ที่จะมีสายตาเปลี่ยนไป จากนั้นจึงคืนสู่สภาพปกติ เดินเข้าไปในลานบ้าน เดินไปเบื้องหน้าตงฟางเมิ่ง มองตงฟางเมิ่งที่มีลมหายใจรวยระรินใกล้จะขาดห้วง จากนั้นจึงเริ่มจับชีพจรให้
เย่เทียนเฉินยืนอยู่ด้านข้าง มองดูอย่างสงบ ในตอนที่จางอีเต๋อจับชีพจรให้ตงฟางเมิ่งก็ส่ายศีรษะเป็นบางครั้ง นี่ทำให้ในใจของเย่เทียนเฉินไม่สงบ เขารู้ว่าตงฟางเมิ่งบาดเจ็บสาหัสมาก คงไม่ใช่ว่าช่วยไม่ได้แล้วหรอกนะ?
“ผู้หญิงคนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก บาดแผลอื่นยังไม่นับเป็นอะไรได้ ดูจากการฝึกฝนของเธอยังสามารถรักษาให้หายด้วยตัวเองได้ แต่จุดสำคัญก็คือ พลังต้นกำเนิดของร่างกายถูกใช้ไปจนเกือบหมด ตอนนี้พลังต้นกำเนิดในร่างกายเหลือเพียงเล็กน้อย หากไม่ใช่เพราะพลังต้นกำเนิดนี้ เกรงว่าเธอคงสิ้นใจไปนานแล้ว นี่มีสาเหตุมาจากการที่เธอมีพลังฝึกฝนที่สูงส่ง หากเป็นคนอื่นคงตายไปนานแล้ว!” จางอีเต๋อส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น
“ผู้เฒ่าครับ งั้นควรจะรักษายังไง?” เย่เทียนเฉินถามด้วยความร้อนใจอยู่บ้าง
ในตอนนี้ จางอีเต๋อมองเย่เทียนเฉิน อดไม่ได้ที่จะถามด้วยรอยยิ้ม
“นายมีความสัมพันธ์แบบไหนกับผู้หญิงคนนี้?”
“เพื่อนครับ เธอประลองกับคนอื่นแล้วได้รับบาดเจ็บสาหัส เสียพลังต้นกำเนิดไปจนเกือบหมด ผมคิดว่าบนโลกใบนี้มีแต่ผู้เฒ่าจางที่ช่วยเธอได้จึงพาเธอมาพบคุณ!” เย่เทียนเฉินรีบพูด
“พลังต้องกำเนิดถูกใช้ไปจนแทบเกลี้ยงแล้ว หากเธอลมหายใจขาดห่วงไปแบบนี้ แม้แต่เทพเทวดาก็ยากจะช่วยเหลือ…” จางอีเต๋อส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น
เย่เทียนเฉินขมวดคิ้ว เขาเองก็เป็นผู้ฝึกตนและเป็นผู้มีพลังพิเศษ ย่อมรู้ดีว่าไม่ว่าจะเป็นผู้มีพลังพิเศษหรือคนของพรรควรยุทธโบราณ หรือต่อให้เป็นคนธรรมดาก็ตาม ในร่างกายของทุกคนจะมีพลังที่เกิดจากต้นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ เพียงแต่พลังต้นกำเนิดของผู้มีพลังพิเศษและผู้ฝึกตนของพรรควรยุทธโบราณจะแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดามาก
การเกิดแก่เจ็บตายของคนคนหนึ่ง ความจริงล้วนเป็นเพราะพลังต้นกำเนิดตั้งแต่อ่อนแอไปจนถึงแข็งแกร่งจะค่อยๆ ถูกใช้ไปช้าๆ ดังนั้นคนจึงใช้พลังต้นกำเนิดไปตั้งแต่เกิดจนตาย ต่อให้จะเป็นคนที่แข็งแกร่งขนาดไหนก็ไม่กล้าใช้ออกไปตามใจ เนื่องจากเกี่ยวพันไปถึงชีวิตของคนคนหนึ่ง เหมือนกับตงฟางเมิ่ง เพื่อที่จะใช้ “ดรุณีหยกเซียนโบยบิน” ออกมาจึงขับเคลื่อนพลังต้นกำเนิด ในตอนที่ใช้กระบวนท่านี้ออกมาเธอก็จะต้องตาย นี่เป็นเคล็ดวิชาที่ลากศัตรูไปตายด้วยกัน ดังนั้นจึงถูกอาจารย์บรรพบุรุษของพรรคสุสานโบราณกำหนดให้เป็นเคล็ดวิชาต้องห้าม ไม่อนุญาตให้คนรุ่นหลังฝึกฝนและใช้ออกมา
“งั้น…”
“เห็นนายเป็นห่วงผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้ ฉันรู้สึกไร้ค่าแทนรั่วถงจริงๆ นายไปเถอะ ฉันช่วยเธอไม่ได้ ต่อให้ช่วยได้ฉันก็จะไม่ช่วย!”
จางอีเต๋อรู้สึกโกรธอยู่บ้าง หมุนตัวเดินเข้าไปในห้อง ในใจจะมีความโกรธก็เป็นเรื่องปกติ หลานสาวของตัวเองเสียสละมากมายขนาดนั้นเพื่อเย่เทียนเฉิน ตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ยังไม่รู้ ไม่แน่ว่าอาจจะหลั่งน้ำตาอยู่เงียบๆ คนเดียวก็เป็นได้ ส่วนเย่เทียนเฉินน่ะเหรอ? ตอนนี้ก็พาผู้หญิงอีกคนหนึ่งมาขอร้องให้ตนช่วยรักษาโดยไม่เสียดาย จะให้จางอีเต๋อไม่โกรธได้อย่างไร?
เย่เทียนเฉินรู้ว่าจางอีเต๋อรู้สึกโกรธเคือง แต่เขาไม่อาจเห็นตงฟางเมิ่งตายไปแบบนี้ได้ พลันนั้นจึงขวางหน้าจางอีเต๋อเอาไว้แล้วเอ่ยปากพูดว่า
“ผู้เฒ่าครับ ระหว่างผมกับผู้หญิงคนนี้ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกัน เพียงได้รับการไหว้วานให้คุ้มครองเธอเท่านั้น ในเมื่อผมได้รับการไหว้วานจากคนอื่นมาแล้วก็ต้องทำอย่างจริงใจ หวังว่าผู้เฒ่าจะช่วยผมได้!”
“หึ ฉันช่วยไม่ได้ นายรักษาเองเถอะ!”
จางอีเต๋อมองเย่เทียนเฉิน ยังไม่คิดจะลงมือรักษา
ตอนนี้เย่เทียนเฉินยังคงขวางอยู่เบื้องหน้าจางอีเต๋อไม่ยอมหลีกทาง ทำให้จางอีเต๋อรู้สึกโกรธอยู่บ้าง เดิมทีเพราะเรื่องของจางรั่วถงหลานสาวตน จางอีเต๋อก็ไม่พอใจเย่เทียนเฉินมากอยู่แล้ว ตอนนี้ไม่เพียงแต่เย่เทียนเฉินจะมาขอร้องตนเพื่อผู้หญิงอื่น แต่ยังขวางหน้าเขาอีก จางอีเต๋อพลันโกรธขึ้นสมองในพริบตา ซัดฝ่ามือไปยังเย่เทียนเฉิน ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เป็นฝ่ามือที่รุนแรงดุดันมาก
ตู้ม!
เย่เทียนเฉินหลบด้วยความรวดเร็ว ฝ่ามือของจางอีเต๋อซัดถูกอากาศ ม้านั่งหินที่อยู่หลังเย่เทียนเฉินถูกโจมตีจนแหลกเป็นผุยผง ทำให้เย่เทียนเฉินตกใจจนขมวดคิ้ว รีบพูดว่า
“ผู้เฒ่า…”
“วันนี้ฉันจะสั่งสอนไอ้เด็กไม่รู้จักดีชั่วอย่างแกแทนรั่วถงหลานสาวของฉันเอง…”
คำพูดเพิ่งจะถูกกล่าวออกมา จางอีเต๋อก็พุ่งโจมตีมายังเย่เทียนเฉินอีกครั้งด้วยความดุดันราวราชสีห์!
…………………