เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 381 อุโมงค์น้ำแข็ง กำแพงน้ำแข็ง โลงศพน้ำแข็ง
หลังจากทำลายภาพลวงตาได้ เย่เทียนเฉินก็ยืนอยู่เบื้องหน้าพระราชวังอันกว้างใหญ่เนิ่นนาน มองไปยังผู้หญิงยอดเยี่ยมบนกำแพงตรงข้าม เขารู้สึกจริงๆ ว่าผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งมาก และรับรู้ได้ถึงความงดงามของเธอ รู้สึกเสียดายในความรักของเธอที่ยอมละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง ยอมสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อมาตามหาความรักที่แท้จริงของตน แต่สิ่งที่ได้รับกลับมากลับกลายเป็นการอยู่คนเดียวชั่วชีวิต ทำให้เขารู้สึกเสียใจแทนผู้หญิงคนนี้จริงๆ
ตู้ม!
เย่เทียนเฉินได้สติกลับมา พลังพิเศษสายหนึ่งโจมตีลงไปบนปลายกระบี่ “ดรุณีหยกร่ายรำในโดมสวรรค์” ของผู้หญิงคนนั้น ในตอนที่เขาฟาดฟันกระบี่ไท่อาเพื่อขัดขวางพิรุณกระบี่เหล่านั้น เขาพบว่าบนกำแพงฝั่งตรงข้ามมีประกายดาวสองสว่าง ดังนั้นจึงจดจำไว้ในใจ ตอนนี้จึงคิดจะตรวจสอบว่ามีอะไรอยู่กันแน่
มีเสียงครืนดังออกมา เก้าอี้หยกที่อยู่ตรงกลางพระราชวังอันกว้างใหญ่ค่อยๆ ลดระดับลง สุดท้ายสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าเย่เทียนเฉินก็คือบันไดแห่งหนึ่ง เป็นบันไดที่ทอดตัวลงไปข้างล่าง ข้างล่างมีแต่ความมืดมิด มองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่กันแน่ และไม่รู้ว่าเป็นสถานที่แบบไหน
ไม่ว่าใครก็ตาม เมื่อถูกขังอยู่ในพระราชวังอันกว้างใหญ่เช่นนี้ หากไม่พบสถานที่ที่กระบี่ของผู้หญิงบนกำแพงชี้ไปคงไม่อาจค้นพบเส้นทางลับแห่งนี้ และเป็นไปได้มากว่าจะต้องถูกขังอยู่ที่นี่ไปชั่วชีวิตจนตาย
เย่เทียนเฉินมองไปยังเส้นทางด้านล่างที่มืดมิดพลางขมวดคิ้ว ตอนนี้ไม่ลงไปคงไม่ได้แล้ว ถึงจะไม่รู้ว่าจะเชื่อมไปยังเส้นทางแบบไหน ไม่รู้ว่าจะมีอันตรายอะไรอยู่ แต่นีเป็นเส้นทางเดียวของเย่เทียนเฉินและตงฟางเมิ่ง เขาไม่มีทางเลือก ไม่ไปต่อคงไม่ได้
แบกตงฟางเมิ่งขึ้นหลังอีกครั้ง เย่เทียนเฉินเดินลงไปด้านล่างด้วยความระมัดระวัง เขาพบว่าเส้นทางนี้ล้วนเป็นบันไดที่สร้างมาจากหินหยกทั้งหมด งดงามเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าเชื่อมต่อไปยังสถานที่เช่นไร ในตอนที่เย่เทียนเฉินเดินเข้าไป ประตูด้านหลังก็ปิดลง ทั่วทั้งพระราชวังอันกว้างใหญ่กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง เก้าอี้หยกตัวนั้นก็กลับคืนสู่ที่เดิม ไม่มีร่องรอยอะไรแม้แต่น้อย
เย่เทียนเฉินแบกตงฟางเมิ่งเดินลงไปด้านล่างโดยตรง เขาพบว่าด้านล่างมีแสงสว่างอยู่บ้าง แต่กลับไม่สว่างไสวอะไรขนาดนั้น และไม่ใช่อะไรที่จะสามารถเห็นได้จากระยะไกล แต่สิ่งที่ทำให้เย่เทียนเฉินคิดไม่ถึงก็คือ ยิ่งเดินลงไปเขาก็ยิ่งรู้สึกหนาว ไอเย็นเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายกระทั่งเขาก็ยังรู้สึกหนาวจนเกือบแข็ง
ต้องทราบว่า คนผู้หนึ่งยิ่งมีพลังการบ่มเพาะสูงส่งก็ยิ่งมีความสามารถในการต่อต้านความร้อนและความเย็นแข็งแกร่ง นี่ไม่ใช่สิ่งที่จงใจกระทำ แต่เกิดจากความสามารถในร่างกาย เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้อยู่ในน้ำแข็งก็ไม่รู้สึกหนาวแม้แต่น้อย นี่คือยอดฝีมือที่แท้จริง ในร่างกายมีการโคจรพลังที่แข็งแกร่งอยู่ ทำให้ความเย็นและความร้อนไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป และไม่เคยป่วยไข้ไม่สบาย มีใครเคยได้ยินบ้างว่ายอดฝีมือที่แท้จริงเป็นหวัด?
หลังจากที่เย่เทียนเฉินแบกตงฟางเมิ่งเดินไปจนสิ้นสุดบนใดหยกแล้ว เขาพบว่าตนมาถึงอุโมงค์น้ำแข็งอันใหญ่โตแห่งหนึ่ง ภายในอุโมงค์มีก้อนน้ำแข็งที่สูงหลายจั้งอยู่มากมายจนนับไม่ถ้วน ระหว่างก้อนน้ำแข็งเหล่านี้ล้วนแผ่ไอเย็นออกมาตลอดหลายปีไม่เปลี่ยนแปลง ไม่รู้ว่าก้อนน้ำแข็งที่นี่อยู่มานานแค่ไหนกันแน่ ไม่แน่ว่าอาจมีในประวัติศาสตร์หลาย 1000 ปีก็เป็นได้ นี่เป็นเรื่องปกติเป็นอย่างมาก
ทันใดนั้นเย่เทียนเฉินราวกับเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที ด้านบนของอุโมงค์น้ำแข็งอันใหญ่โตคือสุสานโบราณ และห้องหินภายในสุสานโบราณย่อมมีโลงศพอยู่ ด้านในจะต้องบรรจุศพไว้แน่นอน และศพเหล่านั้นจะค่อยๆ เน่าเปื่อยลง แต่หากด้านล่างมีอุโมงค์น้ำแข็งที่อยู่มาหลายปีก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ทำให้รักษาความเย็นของห้องหินในสุสานโบราณไว้ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ศพก็จะไม่เน่าเปื่อย ท่าทางหลังจากที่ผู้หญิงยอดเยี่ยมคนนั้นมาถึงที่นี่และก่อตั้งพรรคสุสานโบราณขึ้นแล้ว เธอก็ทำเพียงกำจัดโลงศพเหล่านั้นออกไป แต่ไม่ได้กำจัดอุโมงค์น้ำแข็งด้านล่างนี้ ปล่อยมันไว้ตลอด
“ที่นี่อยู่นานไม่ได้ หนาวเกินไปจริงๆ ไม่งั้นต้องถูกแช่แข็งอยู่ในนี้หลายพันปีแน่!” เย่เทียนเฉินอดไม่ได้ที่จะคิดในใจ
ทันใดนั้นเขาก็โคจรพลังพิเศษของตนขึ้นเพื่อไม่ให้ถูกแช่แข็ง เย่เทียนเฉินแบกตงฟางเมิ่งเดินไปเบื้องหน้าอย่างเชื่องช้า ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเคล็ดวิชาฝึกฝนคัมภีร์ดรุณีหยกอยู่ที่ไหนกันแน่ จึงทำได้เพียงตามหาไปทีละก้าว ยิ่งไปกว่านั้นท่ามกลางเส้นทางหินนี้ ยังเรียกได้ว่าไม่มีทางเลือก ในพระราชวังอันกว้างใหญ่ ทุกที่ล้วนเป็นกำแพงหิน หากจะทำลายมันไปตรงๆ นั่นย่อมเป็นเรื่องที่ไม่อาจทำได้ บันไดหยกนี้เป็นเส้นทางเพียงเส้นทางเดียวที่มี เย่เทียนเฉินทำได้เพียงแบกตงฟางเมิ่งเดินลงไปที เดินก้าวหนึ่งสำรวจก้าวหนึ่ง
เย่เทียนเฉินเดินเตร่อยู่ในอุโมงค์น้ำแข็งมาครึ่งค่อนวัน พบว่านอกจากก้อนน้ำแข็งก้อนใหญ่ที่สามารถมองทะลุได้เหล่านั้นแล้วก็ไม่มีสิ่งอื่นอยู่อีก เดินไปเดินมาก็เป็นน้ำแข็ง ไอเย็นแต่ละระลอกแผ่ออกมาจนเกรงว่าทั้งสองคงจะถูกแช่แข็งจนตายอยู่ที่นี่แน่
“ไม่ถูกสิ ทำไมฉันเดินอยู่ครึ่งค่อนวันแล้วก็ยังอยู่ที่เดิมล่ะ?” เย่เทียนเฉินค้นพบปัญหานี้ได้ทันที เขามองดูน้ำแข็งก้อนใหญ่ก้อนนั้นที่อยู่ด้านข้างพลางเขมวดคิ้ว เนื่องจากจากมุมนี้ เขาสามารถมองเห็นภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดซึ่งอยู่ใจกลางอุโมงค์น้ำแข็งได้ นั่นคงจะเป็นน้ำแข็งที่กองอยู่นับหมื่นปี ทุกครั้งที่เย่เทียนเฉินเข้าไปใกล้ก็จะแผ่ไอเย็นออกมา ทำให้เขาหนาวไปถึงกระดูก
เย่เทียนเฉินพบว่า เหมือนกับตนกำลังเดินอยู่ในเขาวงกตแห่งหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น เดินไปเดินมา อย่างน้อยก็เดินอยู่ครึ่งชั่วโมง แต่ยังคงอยู่ที่เดิม หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าเขาจะถูกแช่แข็งจนตายอยู่ที่นี่จริงๆ น่ากลัวยิ่งกว่าอยู่ในพระราชวังด้านบนเสียอีก เนื่องจากถ้าอยู่ในพระราชวังยังค่อยๆ คิดหาวิธีได้ แต่ว่าอยู่ที่นี่ หากไม่รีบคิดหาวิธีก็จะถูกแช่แข็งจนตายไปทั้งเป็น ถึงตอนนั้นเย่เทียนเฉินและตงฟางเมิ่งคงกลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งไปแล้ว
ตู้ม!
ทั่วทั้งอุโมงค์น้ำแข็งเกิดเสียงดังสนั่น เย่เทียนเฉินใช้หมัดทั้งสองที่รวบรวมพลังสายฟ้าเอาไว้ซัดหมัดอัสนีสวรรค์ออกไป โจมตีน้ำแข็งก้อนใหญ่จนแตก ความจริงวิธีการที่เรียบง่ายที่สุดในการออกไปเมื่อต้องตกอยู่ในเขาวงกตก็คือทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในนี้เสีย หรืออาจเรียกได้ว่าเปลี่ยนรูปแบบของมัน เมื่อทำเช่นนี้เขาวงกตก็จะหายไป สาเหตุเป็นเพราะการจะสร้างเขาวงกตขึ้นมาต้องเกี่ยวเนื่องไปถึงสภาพแวดล้อม ขอเพียงทำลายก็ก้อนน้ำแข็งนั้น ก็เป็นไปได้มากว่าจะทำลายรูปแบบของมันได้ และออกจากเขาวงกตได้
ตู้ม!
ซัดหมัดอัสนีสวรรค์ออกไปอีกครั้ง เย่เทียนเฉินเดินไปโจมตีไป ทำลายกำแพงน้ำแข็งก้อนแล้วก้อนเล่า หากไม่จำเป็นเขาก็ไม่คิดจะทำลายกำแพงน้ำแข็งเช่นนี้ จะอย่างไรกำแพงน้ำแข็งพวกนี้ดูไปแล้วก็สวยดี
ในตอนนี้ เย่เทียนเฉินเดินไปอย่างไร้แบบแผน ไม่เดินไปตามช่องว่างที่ปรากฏอยู่ระหว่างกำแพงอีก หลังจากเขาทำลายกำแพงน้ำแข็งก้อนนั้นไปก็เดินเข้าไปด้านใน เมื่อเจอทางตันก็จะทำลายกำแพงหินจนเกิดช่อง หากคิดจะเดินออกไปจากที่นี่ไม่ทำแบบนี้คงจะไม่ได้ ในตอนที่อยู่ดาวสิ้นโลก เย่เทียนเฉินก็เคยเข้าสู่เขาวงกตเช่นเดียวกัน ตอนนั้นสับสนเป็นอย่างมาก เป็นเขาวงกตที่เกิดจากก้อนหิน เย่เทียนเฉินเดินอยู่ครึ่งค่อนวันก็ยังหาทางออกไม่ได้ สุดท้ายจึงใช้วิธีการนี้ ทำลายก้อนหินเปิดทางถึงจะเดินออกไปได้
คนที่อยู่ในเขาวงกต สุดท้ายล้วนต้องตาย สาเหตุสำคัญเป็นเพราะพวกเขาทดสอบหลายครั้งก็ยังไม่อาจออกมาจากเขาวงกตได้ ในใจจึงเกิดความสิ้นหวังและพังทลาย เมื่อจิตใจพังทลายคนก็จะหดหู่และไม่อาจใคร่ครวญปัญหานอกกาย คิดหาวิธีอื่นไม่ออก แต่เย่เทียนเฉินไม่ใช่คนเช่นนั้น เขาคนนี้ขอเพียงมีใจจะทำ ไม่ว่าอะไรจะขวางก็จะทำลายทั้งสิ้นจนกว่าเขาวงกตพวกนี้จะหายไป
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ด้วยวิธีการเดินไปทำลายกำแพงไปแบบนี้ ในที่สุดเย่เทียนเฉินก็เดินไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใจกลางอุโมงค์น้ำแข็ง ที่นั่นมีน้ำแข็งหมื่นปีอยู่ มีความหนาวเย็นเสียดแทงกระดูก กระทั่งจิตวิญญาณก็คล้ายกับจะถูกแช่แข็งได้ เย่เทียนเฉินอดไม่ได้ที่จะโคจรพลังพิเศษขอบเขตจอมราชันจนถึงขีดสุด คุ้มครองตัวเขาเองและโอบกอดตงฟางเมิ่งเอาไว้ มิฉะนั้นหากแบกเธอไว้ที่หลังต่อไป ตงฟางเมิ่งที่เดิมที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้วคงต้องตายแน่นอน โดนแช่แข็งจนตาย
“ทำไมเดินมาถึงที่นี่ได้?” เย่เทียนเฉินขมวดคิ้วถึง แม้จะมาถึงใจกลางอุโมงค์น้ำแข็งแล้ว แต่ยังคงไม่อาจออกไปจากอุโมงค์น้ำแข็งได้ นี่ยังคงมีอันตรายอยู่ ความหนาวเย็นในอุโมงค์น้ำแข็งถึงขั้นเสียดแทงกระดูกนี้ เย่เทียนเฉินคิดว่าคงไม่สามารถต่อต้านได้นานนัก อย่างไรก็จำเป็นต้องคิดหาวิธีออกไป
“นี่คือ…”
ทันใดนั้นเย่เทียนเฉินพลันชะงักไปทั้งร่าง เนื่องจากจู่ๆ เขาก็เห็นว่า ใจกลางอุโมงค์น้ำแข็ง ในน้ำแข็งหมื่นปีที่มีกำแพงน้ำแข็งล้อม คล้ายกับจะมีโลงศพน้ำแข็งอยู่โลงหนึ่ง ด้านในลงศพน้ำแข็งมีศพอยู่สองศพ มองใบหน้าไม่ชัดเจน ทำให้ในใจของเย่เทียนเฉินตกตะลึง โลงศพน้ำแข็งที่อยู่ในอุโมงค์น้ำแข็งเช่นนี้ คนที่ถูกบรรจุอยู่ในโลงศพน้ำแข็งนั้นเป็นใครกันแน่?
หากพูดกันตามเหตุผล สุสานโบราณแห่งนี้ถูกพรรคสุสานโบราณครอบครองไปแล้ว อย่างน้อยก็ยึดครองมานานนับพันปี เดิมทีด้านในมีสุสานจักรพรรดิอะไรอยู่ก็เกรงว่าคงถูกกำจัดไปแล้ว พรรคสุสานโบราณไม่อาจปล่อยให้มีคนอื่นถูกบรรจุอยู่ด้านในแน่ ในอุโมงค์น้ำแข็งที่อยู่มาหลายปีจะมีคนอื่นซ่อนอยู่ได้อย่างไร? หรือจะเป็นผู้ก่อตั้งพรรคสุสานโบราณซึ่งก็คือผู้หญิงยอดเยี่ยมคนนั้น? แต่ยังมีผู้ชายอยู่อีกหนึ่งคนด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ความรู้สึกสนใจของเย่เทียนเฉินพลันบังเกิด ในขณะเดียวกันก็รู้สึกยุ่งยากใจ เนื่องจากภายในอุโมงค์น้ำแข็งมีแต่กำแพงน้ำแข็งอยู่ทั่วทุกที่ ไม่มีประตูอยู่เลย และใจกลางของอุโมงค์น้ำแข็งยังมีโลงศพน้ำแข็งขนาดใหญ่อยู่โลงหนึ่ง ด้านในบรรจุศพของชายหนึ่งหญิงหนึ่งเอาไว้ ไม่ใช่ว่านี่มันแปลกมากหรือ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่เทียนเฉินก็มองความสูงของกำแพงน้ำแข็ง ถ้ากระโดดขึ้นไปคงจะไม่มีปัญหา เขาต้องการเห็นว่าที่นี่บรรจุศพของใครไว้กันแน่ ดังนั้นเมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่เทียนเฉินก็โอบกอดตงฟางเมิ่งแล้วกระโดดขึ้นไปบนกำแพง เข้าไปยังขอบเขตของน้ำแข็งหมื่นปี ไปดูเสียหน่อยว่าคนทั้งสองที่ถูกบรรจุอยู่ในโลงศพน้ำแข็งเป็นใครกันแน่?