เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 413 เถียนปอกวงบุกเข้ามา
“ผู้ชายของฉันมีเพียงคนเดียว ต่อให้ฉันต้องการผู้ชายก็มีแค่เขาถึงจะเข้าใกล้ฉันได้!” ตงฟางเมิ่งกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
หลี่ชิวสุ่ยขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าศิษย์น้องเล็กที่มีลักษณะเหมือนภูเขาน้ำแข็งมาโดยตลอดจะถึงกลับหลงรักผู้ชายคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นผู้ชายคนนั้นยังมีความสามารถไม่เลว อายุน้อย พลังบ่อมเพาะสูงส่งลึกล้ำ มีศักยภาพไร้ขีดจำกัด หน้าตาก็ไม่เลว ทำให้หลี่ชิวสุ่ยอิจฉาอยู่บ้าง
ในใจของตงฟางเมิ่งตอนนี้เป็นห่วงเย่เทียนเฉินขึ้นเรื่อยๆ ถามหน่อยว่าคนคนหนึ่ง ถูกขังอยู่ในโลงศพหิน จะยืนหยัดได้นานแค่ไหนกัน? ตอนนี้เวลาก็ผ่านไปหกวันหกคืนแล้ว แต่โลงศพก็ยังไม่เปิดออก เกรงว่าว่าเย่เทียนเฉินคงขาดอากาศหายใจตายแน่ ตอนนี้เธอก็ถูกหลี่ชิวสุ่ยเข้าพัวพัน ต้องการทะลวงด่านสุดท้ายของคัมภีร์ดรุณีหยกให้สมบูรณ์ก็ยังทำไม่ได้ ยังไม่สามารถเปิดโลงศพได้ เย่เทียนเฉินจะตายไปแบบนี้หรือเปล่า?
คนไม่ใช่ยอดหญ้าจะได้ไร่รัก จะอย่างไรตงฟางเมิ่งซึ่งมีลักษณะเหมือนภูเขาน้ำแข็งมาโดยตลอด แต่เธอไม่ใช่คนที่ไร้หัวใจ เย่เทียนเฉินช่วยเธอมาตลอดทาง ฝ่าความเป็นความตายมาด้วยกัน ทั้งสองเรียกได้ว่าไม่มีความรักต่อกัน อย่างมากเย่เทียนเฉินก็ได้รับการไหว้วานมาจากท่านผู้นำสูงสุดและท่านหยางเท่านั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกันใดๆ ดูผิวเผินเย่เทียนเฉินเหมือนไม่พอใจ แต่ความจริงเป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบคนหนึ่ง เพียงแต่คนคนนี้ในตอนที่เหลาะแหละก็ดูพึ่งพาไม่ได้ ทำให้ผู้คนเอือมระอาเขาจริงๆ
“เจ้าหนุ่มหน้าขาวนั่นมีเสน่ห์มากจริงๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าฝีมือบนเตียงของเขาจะเป็นยังไง? ฉันอยากจะลองดูซักหน่อย เพราะดูท่าทางแล้วศิษย์น้องเล็กพอใจมาก!” หลี่ชิวสุ่ยยิ่งพูดก็ยิ่งลามก ยิ่งพูดก็ยิ่งไร้ยางอาย
ถึงแม้ตงฟางเมิ่งจะรู้ว่าหลี่ชิวสุ่ยคิดจะทำให้เธอเสียสมาธิจนทำให้ไม่อาจรวบรวมพลังภายในมาต่อต้านกระบวนท่าสั่งหารได้ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะแก้มแดง จะอย่างไรเธอก็เพิ่งมีประสบการณ์กับผู้ชาย เดิมทีเธอก็เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างหัวโบราณอยู่แล้วด้วย ไหนเลยจะรับคำพูดแบบนี้ได้ ย่อมไม่อาจเทียบหลี่ชิวสุ่ยที่ไม่ขาดผู้ชาย มีความลามกไปทั่วทั้งร่าง
“เธอ…”
ตู้ม!
ตงฟางเมิ่งโกรธจนพูดอะไรไม่ออก คำพูดการกระทำของหลี่ชิวสุ่ยแทบจะไม่ใช่คนอยู่แล้ว จะไปเทียบกับผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอายคนนั้นได้ยังไง แต่ในตอนที่ตงฟางเมิ่งยังไม่ทันพูดตอบโต้ก็มีเงาร่างเงาหนึ่งพุ่งเข้ามาในห้องที่พังทลายนี้ ตงฟางเมิ่งและหลี่ชิวสุ่ยชะงักไป แต่ทั้งสองก็ไม่กล้าขยับ ตอนนี้ฝ่ามือของพวกเธอปะทะกัน โคจรพลังภายในสู้กัน ไม่มีใครกล้าปล่อยมือก่อน ถ้าเช่นนั้นก็จะเป็นการรนหาที่ตาย ทำได้เพียงสู้ต่อ
“ฮ่าๆๆๆ ที่แท้ก็เป็นสาวงามสุดยอดสองคนกำลังสู้กัน ฉันโชคดีจริงๆ คืนนี้จะได้หลับฝันดีกับหญิงงามทั้งสอง สวย สวยจริงๆ!” ผู้มาเยือนสำรวจหลี่ชิวสุ่ยและตงฟางเมิ่งครู่หนึ่ง จากนั้นดวงตาทั้งสองพลันเปล่งประกาย ใช้สายตาลามกมองไประหว่างหลี่ชิวสุ่ยและตงฟางเมิ่ง จากนั้นจึงน้ำลายไหล
ในตอนนี้หลี่ชิวสุ่ยและตงฟางเมิ่งต้องรวบรวมพลังทั้งหมดต่อสู้กับอีกฝ่าย อดไม่ได้ที่จะมองไปยังเจ้าคนลามกที่อยู่ด้านข้าง พบว่านั่นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 30 กว่าปี ร่างกายสูง 165 เซนติเมตร คางแหลมปากเล็กเหมือนกับหนู โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มุมปากยังมีเคราอยู่ด้วย ตาทั้งสองสำรวจพวกเธอไม่หยุด แค่มองก็รู้ว่าเป็นพวกหื่นกาม ไม่รู้จริงๆ ว่าคนนี้เข้ามาถึงที่นี่ได้อย่างไร
“แกเป็นใคร? ทำไมถึงบุกเข้ามาในพรรคสุสานโบราณของพวกเราได้?” ตงฟางเมิ่งขมวดคิ้วถาม
“พรรคสุสานโบราณ ที่แท้ในนี้ก็คือพรรคสุสานโบราณจริงๆ ไม่เลว ไม่เลว ได้ยินว่าพรรคสุสานโบราณรับแต่ลูกศิษย์หญิง ลูกศิษย์หญิงทุกคนต่างก็บริสุทธิ์ไร้เดียงสาประดุจหยก สวยเหมือนนางเซียน วันนี้ได้เห็นนับว่าไม่ผิดไปจากข่าวลือ ฉันเถียนปอกวงมีโชคจริงๆ สาวสวยทั้งสอง ฉันว่าพวกเธอเชื่อฟัง ทำตัวดีดีไปเถอะ อยู่ในท่าแบบนี้ ให้ฉันสำรวจร่างกายของพวกเธอสักหน่อย!”
“แกคือเถียนปอกวงงั้นเหรอ?” หลี่ชิวสุ่ยอดไม่ได้ที่จะชะงักไป มองไปยังชายปากเล็กคางแหลมที่มีหน้าตาลามกแล้วเอ่ยถาม
ตงฟางเมิ่งกัดฟัน เธอเองก็คิดไม่ถึงว่าโจรชั่วที่บุกเข้ามาจะเป็นเถียนปอกวงที่มีชื่อเสียงเรื่องความหื่นกระหายในโลกของวรยุทธโบราณ เจ้าโจรลามกคนนี้ เหตุใดจึงบุกเข้ามาในพรรคสุสานโบราณได้ ตอนนี้ตนกับหลี่ชิวสุ่ยกำลังประลองพลังภายในกันอยู่ ไม่อาจหยุดได้ง่ายๆ หากหยุดกะทันหันทั้งสองจะธาตุไฟเข้าแทรกจนร่างระเบิดตาย ตอนนี้ถูกเถียนปอกวงบีบบังคับอีกนี่เป็นโจรลามกที่ทำได้ทุกอย่างเพียงแค่ดวงตาที่มีประกายความลามกของเขาก็รู้แล้วว่าอดไม่ได้ ต้องการที่จะปล้นสวาทหลี่ชิวสุ่ย
“ไม่เลว ฉันเถียนปอกวงไม่เคยเปลี่ยนชื่อแซ่ มีฉายาว่าโดดเดี่ยวหมื่นลี้ สาวงาม เธอได้เห็นฉันคงดีใจมากใช่หรือไม่?” เถียนปอกวงหัวเราะชั่วร้าย มองไปที่หลี่ชิวสุ่ย
หลี่ชิวสุ่ยเองก็คิดไม่ถึงว่าชายที่บุกเข้ามาคนนี้จะเป็นสารเลวเถียนปอกวง นี่เป็นคนที่ใจกล้าคับฟ้า ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะกับผู้หญิง ไม่รู้ว่าทำร้ายลูกศิษย์หญิงของพรรควรยุทธโบราณไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว เพียงแต่เจ้าหมอนี่มีพลังบ่มเพาะไม่อ่อนแอเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเคล็ดวิชาโดดเดี่ยวใต้หล้าอีกด้วย กระทั่งยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ของพรรควรยุทธโบราณก็ยังไม่มีใครเอาชนะเถียนปอกวงในด้านฝีเท้าได้ มิฉะนั้นเจ้าชั่วนี่คงถูกไล่ฆ่าจนตายไปนานแล้ว ไหนเลยจะมีชีวิตมาถึงตอนนี้ได้
“ใช่แล้ว พี่เถียนหล่อขนาดนี้ หาได้ยากจริงๆ ฉันต้องชอบอยู่แล้ว ได้รู้จักกับพี่เถียน ฉันดีใจมากจริงๆ !” หลี่ชิวสุ่ยรีบเปลี่ยนสีหน้า พูดด้วยรอยยิ้ม
เถียนปอกวงชะงักไป คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงเบื้องหน้าจะพูดแบบนี้ออกมา เมื่อคิดว่าลูกศิษย์หญิงของพรรคสุสานโบราณแต่ละคนสวยราวกับนางฟ้า บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนหยก จะเทียบกับผู้หญิงธรรมดาได้อย่างไร ตอนพูดในสายตายังเต็มไปด้วยความรู้สึกรักใคร่ เพียงได้เห็นท่าทางดีดดิ้นก็ทำให้ผู้ชายรู้สึกอยากจับกดแล้ว
“ในเมื่อเธอชื่นชมฉัน ฉันก็จะแก้ผ้าเธอก่อน ช่วยเธอตรวจร่างกายสักหน่อยแล้วกัน…” เถียนปอกวงหัวเราะลามก เดินไปเบื้องหน้าหลี่ชิวสุ่ย สำรวจร่างกายของผู้หญิงคนนี้ ต้องพูดว่าร่างกายของหลี่ชิวสุ่ยสมบูรณ์แบบจริงๆ หน้าโค้งก้นงอน ทำให้ผู้ชายมีความรู้สึกพลุ่งพล่าน เดิมทีเถียนปอกวงก็ต้องการจับกดหลี่ชิวสุ่ยก่อนอยู่แล้ว จะอย่างไรผู้หญิงคนนี้ก็ดูยั่วยวนที่สุด แตกต่างกับผู้หญิงที่เขาขืนใจมาก่อนหน้านี้ซึ่งก็ตายเพราะขัดขืนไปแล้ว หรือไม่ก็ร้องไห้ตาย ร้องจนกระทั่งตาย ตอนเริ่มทำก็ร้องไห้ตลอด สุดท้ายก็นอนตายอยู่ที่นั่นเหมือนกับหมูตัวหนึ่ง ร้องไห้จนถึงช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ไม่มีความรู้สึกยินดีอะไรเลย ในตอนที่ผู้ชายทำ ความพิถีพิถันยังคงเป็นปัญหาที่น่าสนใจ แน่นอนต้องหวังให้ผู้หญิงแสดงออกบนเตียงให้ดี
ตงฟางเมิ่งหันหัวไปอีกด้านหนึ่ง เธอมองไปยังหลี่ชิวสุ่ยอย่างเกลียดชัง คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าศิษย์พี่หญิงจะเป็นถึงขั้นนี้ได้ พลังบ่มเพาะของเถียนปอกวงสูงส่งมาก ไม่อ่อนแอกว่าพวกเธอเลย ยิ่งไปกว่านั้นดาบเร็วยังยอดเยี่ยมมาก เคล็ดวิชาตัวเบาโดดเดี่ยวใต้หล้าก็เป็นส่วนที่ร้ายกาจมากเช่นกัน เถียนปอกวงไม่ใช่คนโง่ เมื่อเข้ามาก็พบว่าหลี่ชิวสุ่ยและตงฟางเมิ่งใช้ฝ่ามือปะทะกัน กำลังประลองกำลังภายใน ขอแค่เป็นคนที่มีความรู้ด้านวรยุทธเล็กน้อยก็รู้แล้วว่าตอนนี้เป็นช่วงที่ห้ามให้คนอื่นไปรบกวนที่สุด ห้ามเสียสมาธิที่สุด ถ้าเสียสมาธิ หากไม่บาดเจ็บสาหัสจนพิการก็ตาย ใครก็ไม่กล้าลำพองใจ มิฉะนั้นเถียนปอกวงบุกเข้ามาแล้วจะกล้าเอ้อระเหยพูดจาไร้ยางอาอย่างนี้ได้อย่างไร เขารู้เรื่องนี้นานแล้ว ดังนั้นจึงเอ้อระเหยอย่างไม่เกรงกลัว ค่อยๆ หยอกล้อไป
“รอก่อนพี่เถียน ฉันมีเรื่องไหว้วานสักหน่อย…” ในตอนที่เถียนปอกวงยื่นมือออกไป เตรียมจะปลดเสื้อผ้าของหลี่ชิวสุ่ย หลี่ชิวสุ่ยก็พูดขึ้นก่อน
“อ้อ? มีเรื่องอะไรเดี๋ยวค่อยๆ พูดกันเถอะ ฉันจะตรวจสอบร่างกายให้เธอซะก่อน…”
เถียนปอกวงพูดออกมา กำลังคิดจะลงมือ เมื่อต้องเจอกับสาวลามกเช่นนี้เขาไหนเลยจะรอได้ รู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งร่างแล้ว ระหว่างทางถูกลูกศิษย์ของพรรคท่องกระบี่ไล่สังหารมาตลอด เถียนปอกวงหลบซ่อนและวิ่งหนีไปทั่ว สุดท้ายจึงพบที่นี่ เมื่อเข้ามาก็เจอกับสุสานโบราณ ในใจคาดเดาว่า คงไม่ใช่ว่าตนเข้ามาในพรรคสุสานโบราณหรอกนะ? คิดไม่ถึงว่าจะบุกเข้ามาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวจริงๆ แล้วยังเจอกับสาวงามทั้งสองกำลังสู้กันในนี้ด้วย อีกทั้งสาวงามทั้งสองยังประลองกำลังภายในกันอยู่ ไม่สามารถเลื่อนฝ่ามือออกได้ นี่เป็นของขวัญที่สวรรค์ประทานให้เขาเถียนปอกวงจริงๆ อยู่ที่นี่ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมารบกวน สามารถเสพสุขให้ดีได้เลย
“พี่เถียนจะรีบร้อนไปแล้ว ฉันเพียงแค่อยากให้คุณฆ่าผู้หญิงที่อยู่ตรงข้ามฉันเท่านั้น ขอเพียงคุณฆ่าเธอให้ตายในฝ่ามือเดียว คืนนี้ฉันก็เป็นของคุณแล้ว รับประกันเลยว่าจะทำให้คุณมีความสุขจนแทบตาย เป็นไง?” หลี่ชิวสุ่ยพูดขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิวสุ่ย เถียนปอกวงก็ชะงักไป มองไปยังตงฟางเมิ่งที่อยู่ตรงข้าม ความจริงตงฟางเมิ่งสวยกว่าหลี่ชิวสุ่ยอีก เพียงแต่มีท่าทางเย็นชา ไม่ได้ยั่วยวนเหมือนหลี่ชิวสุ่ย เถียนปอกวงเป็นผู้ชายที่ลามกอย่างมาก แน่นอนเขาหวังว่าจะได้เชยชมผู้หญิงยั่วยวนเช่นนี้ นั่นถึงจะมีความสุขยิ่งขึ้น มิฉะนั้นเขาคงเลือกตงฟางเมิ่งที่สวยที่สุดก่อนแล้ว
“ดูแล้วพวกเธอคงเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน ทำไมต้องลงมือโหดเหี้ยมด้วย? มาติดตามฉันเถียนปอกวงไปเถอะ ขอเพียงพวกเธอศิษย์พี่น้องปรนนิบัติฉันให้ดี ฉันรับประกันเลยว่าจะทำให้พวกเธอมีเกียรติและร่ำรวยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เป็นไง?” เถียนปอกวงพูดด้วยน้ำเสียงลามก
“ฉันหลี่ชิวสุ่ย ถึงแม้จะชอบผู้ชายและต้องการผู้ชาย แต่ไม่เคยปรนนิบัติผู้ชายคนเดียว ความต้องการของนายจะเกินไปหรือเปล่า?” หลี่ชิวสุ่ยมองไปยังเถียนปอกวงแล้วพูดอย่างเย็นชา
“เธอ…แล้วก็คือหลี่ชิวสุ่ยฝ่ามือสลายกระดูก?” เถียนปอกวงอดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึง เดินถอยหลังไปสองก้าวเล็กๆ แล้วถามขึ้น
“ถูกต้อง พี่เถียน คุณกับฉันล้วนเป็นคนที่เดินบนเส้นทางเดียวกัน เป็นคนที่ถูกโลกของวรยุทธโบราณละทิ้ง ทำไมไม่ร่วมมือกัน อยากฆ่าก็ฆ่าล่ะ?” หลี่ชิวสุ่ยเผยนิสัยโหดเหี้ยมออกมา จ้องไปยังเถียนปอกวงแล้วเอ่ยถาม
“เธอพูดถูก แต่ฉันว่าฉันสกัดจุดชีพจรให้เธอก่อน แล้วพวกเราค่อยๆ คุยกันเป็นไง?”
ในขณะที่พูดเถียนปอกวงก็เดินไปเบื้องหน้าหลี่ชิวสุ่ย เตรียมจะสกัดจุดชีพจรให้เธอ ต้องรู้ว่าในโลกของวรยุทธโบราณ คำว่าหลี่ชิวสุ่ยยังเหม็นเน่ายิ่งกว่าชื่อของเถียนปอกวงอย่างเขาอีก ความโหดเหี้ยมของผู้หญิงคนนี้ยังเหนือว่าเขาเถียนปอกวง ฝ่ามือสลายกระดูกเองก็โหดเหี้ยมมาก ไม่มีใครกล้าไม่ระวัง
…………………….