เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 449 ไม่เหลือศักดิ์ศรี
มือสังหารชุดดำทั้งสี่คนต่างก็เป็นยอดฝีมือของสำนักโฮคุชินอิตโตริวที่ลอบเข้ามาในเมืองหลวง มีฝีมือแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ไม่ใช่อะไรที่บอดี้การ์ดและหน่วยรักษาความปลอดภัยทั่วไปจะเทียบได้ ก็เหมือนกับที่ท่านผู้นำสูงสุดบอกเย่เทียนเฉิน ครั้งนี้สำนักโฮคุชินอิตโตริวส่งยอดฝีมือออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ละคนมีความสามารถแข็งแกร่ง ดูท่าทางคิดจะฆ่าเย่เทียนเฉินให้ได้
เย่หย่วนซานมองลูกหลานตระกูลเย่ที่อยู่ด้านหลังตน ถึงแม้ในใจจะรู้สึกโกรธ คิดว่าทำไมลูกหลานของเขาเย่หย่วนซานจึงไม่มีแม้แต่คนเดียวที่มีความสามารถ? เพียงแต่ตอนที่เห็นชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย เย่หย่วนซานก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากขึ้นว่า
“คนที่พวกแกตามหาคือฉันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคนอื่นในตระกูลอย่าได้ทำร้ายพวกเขา!””
มือสังหารชุดดำที่เป็นหัวหน้าแย้มยิ้มเล็กน้อย เดินมาเบื้องหน้าเย่หย่วนซาน พูดอย่างโหดเหี้ยมว่า
“ในหมู่พวกเขาจะมีใครตายหรือไม่ก็ต้องดูที่การแสดงออกของแก!”
“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเย่เทียนเฉินไปไหน!” เย่หย่วนซานพูดอย่างจริงจัง
“งั้นเหรอ?”
มือสังหารอีกคนหนึ่งดึงเย่ฉีออกมาจากกลุ่มคน เย่ฉีตกใจจนหน้าซีด แทบจะฉี่รดกางเกง รีบคุกเข่าลงกับพื้น พูดด้วยร่างกายสั่นเทาว่า
“อย่าฆ่าผม อย่าฆ่าผม…พ่อ พ่อ ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วย…”
เย่เฮ่อกั๋วเองก็คิดไม่ถึงว่านักฆ่าคนหนึ่งจะดึงลูกชายของตนออกมา ตกใจจนหน้าซีด คิดจะพุ่งออกไปช่วยเหลือลูกชายตนเอง แต่เมื่อเห็นดาบทหารที่เต็มไปด้วยเลือดในมือของนักฆ่าคนนั้นก็ถอยหลังไป ตอนนี้เขาไม่กล้าแม้แต่จะช่วยเหลือลูกชายของตน น่าสมเพชจนถึงขีดสุด
ชิ้ง!
ดาบทหารในมือของมือสังหารคนนั้นพาดลงบนลำคอของเย่ฉี เย่ฉีคุกเข่าอยู่บนพื้น สั่นไปทั้งตัว กางเกงเปียกชื้น ถูกทำให้ตกใจจนฉี่ราดไปแล้ว พูดซ้ำๆ ด้วยท่าทางขี้ขลาดว่า “อย่าฆ่าผม อย่าฆ่าผม” ท่าทียโสโอหังไม่เห็นใครอยู่ในสายตาที่มีกับเย่เทียนเฉินก่อนหน้านี้หายไปจนไม่เหลือซาก
“หยุดมือ…”
เย่หย่วนซานรีบตะโกน ต่อให้ลูกหลานกลุ่มนี้จะไม่กตัญญูแค่ไหน จะไม่โดดเด่นแค่ไหน เขาก็ไม่อยากเห็นพวกเขาตาย จะอย่างไรก็เป็นทายาทของตน
“คิดจะพูดแล้วเหรอ? แกมีโอกาสเป็นครั้งสุดท้าย บอกฉันมาว่าเย่เทียนเฉินอยู่ที่ไหน?” มือสังหารที่เป็นหัวหน้าพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา
“ฉันไม่รู้จริงๆ …”
ฉึก!
เย่หย่วนซานยังไม่ทันพูดจบก็พบว่าบริเวณลำคอของเย่ฉีมีเลือดพุ่งออกมาสายหนึ่ง พุ่งกระฉูดไปไกล 10 กว่าเมตร เย่ฉีตกใจ กุมคอของตนด้วยความหวาดกลัว เขาต้องการจะหยุดไม่ให้เลือดไหล เพียงแต่คอถูกฟันจนเกือบขาดแล้ วน่าอนาจจนทนมองไม่ได้ ล้มลงกับพื้น ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและหวาดผวา หวาดกลัวต่อความตายที่ต้องเผชิญ ชักกระตุกไปหลายครั้งแล้วจึงสิ้นลม เลือดไหลเต็มพื้น น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“ลูก…ฉีเอ๋อร์ ฉีเอ๋อร์…”
เย่เฮ่อกั๋วตะโกนเสียงดัง คิดจะพุ่งเข้าไปดูเย่ฉีผู้เป็นลูกชายของตน เพียงแต่มือสังหารที่ฆ่าเย่ฉีตวัดดาบของเขามาพาดบนคอเย่เฮ่อกั๋ว เย่เฮ่อกั๋วตกใจจนไม่กล้าขยับ ถึงแม้จะโกรธมาก จะเสียใจมาก แต่ในใจก็เต็มไปด้วยความกลัวตายทำให้เย่เฮ่อกั๋วหยุดฝีเท้าลง
“อา…ลูก ลูก ลูกชายของฉัน…”
ตอนนี้เองมีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านข้าง เดิมทีเธอถูกกันไว้ด้านหลัง ยังไม่รู้เรื่องอะไร แต่เมื่อเห็นว่าด้านหน้ามีคนตาย เมื่อมองไปรอบด้านอีกครั้งพบว่าลูกชายของตนไม่อยู่แล้ว พลันนั้นจึงร้องไห้ด้วยจิตใจแหลกสลาย คิดจะพุ่งออกมา
“อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา เดี๋ยวจะตาย…” เย่เฮ่อกั๋วดึงภรรยาของตนเอาไว้
เพี๊ยะ!
เสียงตบหน้าดังขึ้น ภรรยาของเย่เฮ่อกั๋วตบหน้าเย่เฮ่อกั๋วอย่างแรงครั้งหนึ่ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ดวงตาทั้งสองแดงก่ำ พูดอย่างดุดันว่า
“เย่เฮ่อกั๋ว ปกติคุณโม้ว่าตัวเองร้ายกาจอย่างโน้นอย่างนี้ ตอนนี้ลูกชายของคุณ ลูกชายเพียงคนเดียวของพวกเราถูกคนอื่นฆ่า คุณไม่คิดจะแก้แค้นให้เขา คุณยังเป็นพ่ออยู่หรือเปล่า? ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?”
หลังจากภรรยาของเย่เฮ่อกั๋วด่าเย่เฮ่อกั๋วแล้วก็พุ่งออกมาโดยไม่สนใจอะไร เพียงแต่น่าเสียดายที่เธอไม่รู้ว่าพวกสารเลวทั้งสี่คนนี้ต่างก็เป็นพวกนักฆ่าที่ฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตา สำหรับพวกเขาแล้วการฆ่าคนก็เหมือนการหั่นผัก ดังนั้นจุดจบของเธอจึงอนาถมาก ในชั่วขณะที่พุ่งออกไป ดาบก็แทงทะลุหัวใจเธอจนล้มลงกับพื้น นอนจมกองเลือด ตายไปด้วยกันกับเย่ฉีผู้เป็นลูก
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ คนตระกูลเย่ทั้งหมดต่างก็สูดหายใจเย็นยะเยือก แววตาของใครหลายคนเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เพียงแต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว เนื่องจากมือสังหารสี่คนนี้ร้ายกาจมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังฆ่าคนเป็นผักปลา ใครพุ่งออกไปคนนั้นก็จะต้องตาย พวกเขาที่ถูกเลี้ยงดูปรนเปรอมาอย่างดีไหนเลยมีฝีมือการต่อสู้อะไร ไหนเลยจะยังมีศักดิ์ศรีอะไรอยู่อีก ถูกชีวิตหรูหราทำลายไปจนหมดแล้ว ตอนนี้ต่างก็ตกใจจนสั่นไปทั้งร่าง เดินถอยหลังไปไม่หยุด
เย่เฮ่อกั๋วในตอนนี้ต่างกันนิ่งงัน ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนเกินไป เกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่วครู่เท่านั้น ลูกชายของเขาและภรรยาของเขาต่างก็ถูกฆ่าตายจนหมด เขาทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ตอนนี้จึงค่อยรู้สึกตัวขึ้นมา ความยโสโอหังของตน ความไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเช่นนั้น ความจริงล้วนเป็นสิ่งจอมปลอม ตอนนี้เอามาใช้การอะไรไม่ได้ ทำได้แค่มองดูลูกชายและภรรยาของตนถูกคนอื่นฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตา
“พวกแก…ฉันไม่สนใจว่าพวกแกจะเป็นใคร มาฆ่าลูกหลานตระกูลเย่ของฉันแบบนี้ ฉันต้องตอบแทนคืนพวกแกเป็น 10 เท่าแน่!” เย่หย่วนซานกระทุ้งไม้เท้าอย่างรุนแรงพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
ฟุ่บ!
มือสังหารชุดดำที่เป็นหัวหน้าพาดดาบลงบนคอของเย่หย่วนซาน พูดอย่างโอหังว่า “ไอ้แก่ ถ้าไม่ใช่เพราะไว้ชีวิตแกแล้วจะมีประโยชน์อยู่บ้าง พวกเราคงฆ่าแกไปนานแล้ว แกคิดว่าแกเป็นตัวอะไร?”
“พวกแกอยากฆ่าฉันก็มาฆ่าฉัน อย่าได้ลงมือกับครอบครัวของฉัน!” เย่หย่วนซานพูดอย่างมีศักดิ์ศรี
“แกวางใจเถอะ ฉันจะเลือกพวกมันออกมาครั้งละคนแล้วจะถามแกครั้งหนึ่ง ถ้าแกตอบไม่ได้หรือตอบไม่จริงฉันก็จะฆ่าคนหนึ่ง จนฆ่าทุกคนที่นี่ทั้งหมด!” มือสังหารผู้เป็นหัวหน้าพูดอย่างเย็นชา
เย่หย่วนซานมองไปยังมือสังหารผู้เป็นหัวหน้าอย่างดุดัน ในใจรู้สึกสิ้นหวัง คิดไม่ถึงว่าตระกูลเย่ของตนเองอยู่มาถึงวันนี้กลับมาถูกผู้อื่นฆ่าตายไม่มีแรงจะตอบโต้แม้แต่น้อย
“พูดมา เย่เทียนเฉินอยู่ที่ไหน? ถ้าพวกแกไม่พูด ฉันก็จะฆ่าพวกแกทั้งหมด!” มือสังหารคนนั้นที่ตวัดดาบฆ่าเย่ฉีและแม่ของเขาพูดด้วยใบหน้าโหดเหี้ยม
“แก…พวกแกมาตามหาเย่เทียนเฉินงั้นเหรอ?” เย่มู่ไป๋ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถามด้วยเสียงสั่นเทา
“แกรู้เหรอว่าเขาอยู่ที่ไหน?” มือสังหารมองไปยังเย่มู่ไป๋แล้วเอ่ยถาม
“ไม่ ไม่รู้ ไอ้เศษสวะเย่เทียนเฉินนั่นมันทำร้ายตระกูลเย่ของพวกเรา ทำร้ายตระกูลเย่ของพวกเรา!” เย่มู่ไป๋พูดเสียงดังดูเหมือนกลัวว่าจะมีใครไม่ได้ยิน
“หึ เย่เทียนเฉินฆ่าผู้อาวุโสซาโต้ของสำนักโฮคุชินอิตโตริวของพวกเรา ครั้งนี้พวกแกทั้งหมดจะต้องตาย!” มือสังหารผู้เป็นหัวหน้าพูดอย่างโหดเหี้ยม
เมื่อได้ยินคำพูดของมือสังหารผู้เป็นหัวหน้า พวกเย่หย่วนซานและเย่เฮ่อกั๋วก็รู้แล้วว่า ที่แท้เย่เทียนเฉินไปฆ่าซาโต้ของสำนักโฮคุชินอิตโตริวจึงทำให้เกิดการแก้แค้นของสำนักโฮคุชินอิตโตริวขึ้นมา ทำให้หน่วยรักษาความปลอดภัย 30 กว่าคนของตระกูลเย่ถูกฆ่า กระทั่งลูกชายและภรรยาของเย่เฮ่อกั๋วก็ถูกฆ่าทั้งหมด ตายอยู่ในมือของมือสังหารเหล่านี้
“พ่อครับ ไอ้ลูกเต่าเย่เทียนเฉินนั่นมันทำลายตระกูลเย่ของพวกเรา เป็นมันที่ทำลายตระกูลเย่ของพวกเรา!” เย่เฮ่อกั๋วลุกขึ้นยืนเอ่ยปากอย่างดุดัน
“พ่อครับ…ผมเคยพูดตั้งนานแล้วไอ้เศษสวะเย่เทียนเฉินนั่นจะช้าจะเร็วมันก็ต้องก่อเรื่อง ตอนนี้พัวพันมาถึงตระกูลเย่ของพวกเราแบบนี้ มันสมควรตาย!” เย่มู่ไป๋เองก็รีบพูด
“คุณปู่ ผมว่าเอาแบบนี้เป็นไง โทรไปหลอกให้เย่เทียนเฉินมาแล้วส่งตัวให้พวกมันซะ แบบนั้นพวกเราก็ไม่เป็นอะไรแล้ว…” เย่เฉียนซวนก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก
เมื่อได้ยินพวกเย่เฮ่อกั๋วพูดแบบนี้ คนที่ถูกทำให้ตกใจก็พูดคล้อยตามขึ้นมา ล้วนเห็นด้วยกับสิ่งที่เย่เฉียนซวนพูด หลอกเย่เทียนเฉินมาที่บ้านตระกูลเย่แล้วส่งตัวให้พวกนักฆ่าทั้งสี่ซะ ส่วนความเป็นความตายของเย่เทียนเฉิน พวกเขาก็ไม่สนใจ ขอเพียงพวกเขาไม่เป็นไรก็พอ
“พ่อครับ ไอ้เศษสวะเย่เทียนเฉินนั่นมันอกตัญญูขนาดนี้ นำภัยพิบัติมาให้ตระกูลเย่ของพวกเรา มันสมควรตายแล้ว!” เย่มู่ไป๋เห็นเย่หย่วนซานผู้เป็นพ่อของตนลังเลก็รีบพูดต่อไป
“เดิมทีเย่เทียนเฉินก็เป็นลูกหลานไม่เอาไหนของตระกูลเย่ของพวกเราอยู่แล้ว พ่อ พ่อคงไม่ปล่อยให้พวกเราถูกส่งไปตายเป็นเพื่อนไอ้เศษสวะเย่เทียนเฉินนั้นหรอกนะ?” เย่เฮ่อกั๋วอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
“หุบปากพวกแกคิดว่าพวกเรามอบตัวเย่เทียนเฉินให้พวกมันแล้วพวกมันจะปล่อยพวกเราไปรึไง? ต้องตายกันทั้งหมดนั่นแหละฉันผิดหวังกับพวกแกจริงๆ พวกแกไม่คู่ควรจะเป็นลูกหลานตระกูลเย่ของฉัน!” เย่หย่วนซานพูดด้วยความโกรธ
สิ่งที่ทำให้เย่หย่วนซานคิดไม่ถึงก็คือ เมื่อพวกเย่มู่ไป๋และเย่เฮ่อกั๋วได้รู้ว่าการที่มือสังหารพวกนี้มาโจมตีเป็นเพราะเย่เทียนเฉิน พวกเขาจะคิดมอบตัวเย่เทียนเฉินออกไปโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ส่งให้คนอื่นฆ่าตายไปโดยไม่มีความรู้สึกของญาติมิตรแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังไม่คิดแก้แค้น ไม่คิดจะจัดการกับมือสังหารสี่คนนี้ รู้แค่ว่าต้องรีบประจบประแจงกระทำเรื่องราวให้ดี ขอเพียงตนเองไม่เป็นไรก็พอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังคิดอย่างไร้เดียงสาว่าถ้าส่งตัวเย่เทียนเฉินออกไปแล้วพวกเขาก็จะไม่เป็นไร คิดว่ามือสังหารทั้งสี่คนนี้จะปล่อยพวกเขาไปจริงๆ จะไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!
ความจริงหลังจากที่มือสังหารทั้งสี่คนนี้ได้รับคำสั่งจากมัตสึโมโตะ ชิโมเค็นมาแล้วก็มาที่บ้านตระกูลเย่ ตลอดทางฆ่าคนมาเรื่อยๆ เป็นการแสดงท่าทีให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว คำสั่งที่มัตสึโมโตะ ชิโมเค็นมอบให้พวกเขาก็คือ ไม่เพียงจะต้องรู้เบาะแสของเย่เทียนเฉิน แต่จะต้องฆ่าทุกคนในตระกูลเย่ให้หมดด้วย ทำลายล้างตระกูลไปเสีย ให้พวกมันได้รู้สักหน่อยว่าถ้ามาล่วงเกินสำนักโฮคุชินอิตโตริวจะต้องมีจุดจบอย่างไร
ตอนนี้เอง มือสังหารผู้เป็นหัวหน้ามองไปยังเย่มู่ไป๋และเย่เฮ่อกั๋ว ดูเหมือนจะมองอะไรบางอย่างออกจึงให้มือสังหารอีกสองคนดึงพวกเขาออกมา ในตอนที่ดาบสไตล์ชิบะที่เต็มไปด้วยเลือดพลาดลงบนลำคอของพวกเขา
คนไร้ศักดิ์ศรีทั้งสองคนคุกเข่าลงบนพื้น สั่นไปทั้งร่าง เลือดที่เดิมทีเปื้อนอยู่บนดาบไหลลงมาตามลำคอของพวกเขา ยิ่งทำให้เย่มู่ไป๋และเย่เฮ่อกั๋วหวาดกลัว เอาแต่พูดกันซ้ำๆ ว่า “อย่าฆ่าฉัน อย่าฆ่าฉัน!”
………………….