เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 452 สังหารให้หมด หยุดมือแล้วไปได้!
ยอดฝีมือของสำนักโฮคุชินอิตโตริวทั้งสี่คน เมื่อครู่นี้ยังยโสโอหังหาใดเปรียบ เห็นคนของตระกูลเย่เป็นเพียงผักปลา จะฆ่าจะแกงอย่างไรก็ได้ตามแต่ใจ เพียงแต่ตอนนี้เมื่อเย่เทียนเฉินปรากฏตัว พวกเขากลับกลายเป็นผักปลาแทน ความแข็งแกร่งของชายหนุ่มคนนี้ทำให้พวกเขารู้สึกคาดไม่ถึง พวกเขาล้วนเป็นลูกศิษย์ฝีมือเยี่ยมของสำนักโฮคุชินอิตโตริว ตอนแรกคิดว่าการตายของซาโต้เป็นเพียงอุบัติเหตุหรืออาจเป็นเพราะผลจากยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมฉับพลัน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเย่เทียนเฉินจะมีความสามารถเช่นนี้จริงๆ
“พูดมาซะแล้วฉันจะเบามือกับแก ไม่งั้นถ้าฉันโกรธขึ้นมาคงไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะรับไหว!” เย่เทียนเฉินถือดาบสไตล์ชิบะอยู่ในมือ มองไปยังมือสังหารโฉดชั่วที่ถูกเขาตัดแขนทั้งสองแล้วพูดขึ้น
“อั่ก…ฉะ…ฉันไม่รู้…”
ฉัวะ!
ฉัวะ!
ประกายดาบส่องสว่างอีกสองครั้ง ขาทั้งสองของมือสังหารผู้นั้นถูกฟันจนขาดไปพร้อมกัน สีหน้าของเย่เทียนเฉินไร้พิษภัยทั้งยังประดับไปด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้เขาจะมาจากดาวสิ้นโลก อาจไม่เข้าใจเรื่องราวความแค้นระหว่างประเทศในโลกใบนี้ชัดเจนนัก และก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย แต่เขาไม่มีความรู้สึกดีอะไรกับคนสารเลวพวกนี้เลยจริงๆ ทำเพียงกำจัดคนเหล่านี้ไปอย่างสบายๆ ถึงแม้ความสามารถของคนเหล่านี้จะแข็งแกร่งมากแต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา เขาในตอนนี้ต้องการฟังจากปากมือสังหารสารเลวหลายคนนี้ว่าสถานที่ซ่อนตัวของสำนักโฮคุชินอิตโตริวอยู่ที่ไหนกันแน่ และครั้งนี้สำนักโฮคุชินอิตโตริวมียอดฝีมือมากี่คน มีความสามารถความแข็งแกร่งขนาดไหน ถ้าเอาแต่รอให้ถูกกระทำเช่นนี้คงจะย่ำแย่เกินไปแล้ว
“อ้าก…”
มือสังหารผู้นั้นกรีดร้องออกมา จะอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มเบื้องหน้าผู้มีรอยยิ้มไร้พิษสง ดูผิวเผินไม่มีพลังสังหารอะไร แต่เมื่อลงมือขึ้นมาจะโหดเหี้ยมและเด็ดเดี่ยวถึงเพียงนี้ ทำให้ผู้คนต้องสั่นสะท้านจริงๆ
คนตระกูลเย่ล้วนมองไปยังเย่เทียนเฉินด้วยความตื่นตะลึง ในขณะนี้พวกเขาเพิ่งจะรู้สึกว่าความรุ่งโรจน์ของเย่เทียนเฉินมอบผลประโยชน์อันมหาศาลให้แก่พวกเขา หากไม่ใช่เพราะเย่เทียนเฉิน เกรงว่าตอนนี้พวกเขาคงกลายเป็นศพไปหมดแล้ว ในตระกูลมีผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นนับได้ว่าเป็นความโชคดีของตระกูลอย่างแท้จริง ซึ่งในหมู่คนเหล่านี้มีเย่มู่ไป๋และเย่เฮ่อกั๋วที่แตกต่างไปจากผู้อื่น ใบหน้าเผยความหดหู่ออกมา เมื่อเผชิญหน้ากับมือสังหารทั้งสี่ พวกเขาล้วนไร้ความสามารถ ทั้งยังมีความกลัวตาย ทำได้เพียงมองลูกชายและภรรยาของตนเองถูกสังหารไปต่อหน้าต่อตา แต่ก็ไม่กล้าก้าวออกไป ถูกคนเหยียดหยามจนถึงขีดสุด
ลูกหลานตระกูลเย่ที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลนานแล้ว คนที่ถูกที่เคยถูกเรียกขานว่าเป็นเศษสวะและลูกหลานไม่เอาไหนของตระกูลเย่ ตอนนี้คนคนนั้นกลับยืนอยู่ที่นี่ หากไม่ใช่เพราะเขา คนตระกูลเย่คงตายไปหมดแล้ว ใครจะไปคิดว่าท้ายที่สุดตระกูลเย่จะต้องให้ลูกหลานที่ถูกละทิ้งมาช่วยเหลือ?
มือสังหารผู้เป็นหัวหน้ามองไปยังเย่เทียนเฉินอย่างดุดัน มุมปากของเขายังคงมีเลือดไหลออกมา หมัดนั้นของเย่เทียนเฉินหนักมาก แฝงไปด้วยพลังพิเศษในขอบเขตจักรพรรดิ ถึงแม้จะไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด แต่หมัดเช่นนี้ก็ยังทำให้กระดูกซี่โครงของเขาหักไปหลายท่อน ตอนนี้ทำได้เพียงมองลูกน้องที่เหลืออยู่ถูกเย่เทียนเฉินตัดแขนตัดขา คงต้องตายแน่แล้ว เขาอยากจะหนีจริงๆ ไม่อยากตายอย่างเปล่าประโยชน์อยู่ที่นี่
“เฮ้อ ฉันคนนี้พูดคำไหนคำนั้น แต่ฉันนี่ใจดีจริงๆ ยังไงซะความใจดีมักจะมาทำร้ายตัวเอง ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันจะถามแกอีกครั้งก็แล้วกัน คนของสำนักโฮคุชินอิตโตริวของพวกแกซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?” เย่เทียนเฉินทำท่าทางราวกับตำหนิตนเอง พูดออกมาพลางส่ายหน้า
มือสังหารสารเลวที่ถูกตัดแขนตัดขาผู้นั้นเจ็บจนสลบไปนานแล้ว เย่เทียนเฉินเหยียบลงที่ศีรษะของเขา ออกแรงกดเล็กน้อยทำให้มือสังหารที่สลบไปต้องสะดุ้งตื่นด้วยความเจ็บปวด จากนั้นจึงส่งเสียงกรีดร้องราวกับหมูถูกเชือด เย่เทียนเฉินทอดถอนใจ ยกดาบทหารสไตล์ชิบะในมือขวาขึ้นเตรียมจะมอบความสบายให้เขา
ฟิ้ว!
ไหนเลยจะรู้ว่าในตอนที่เย่เทียนเฉินยกดาบทหารสไตล์ชิบะในมือขวาขึ้น มือสั่งหารผู้เป็นหัวหน้าจะพุ่งไปทางประตูบ้านตระกูลเย่ในพริบตา เขาต้องการจะหนีและคำนวณโอกาสเป็นอย่างดีแล้ว ก่อนหน้านี้เขาไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามเนื่องจากเขาสัมผัสได้ว่าความสามารถของเย่เทียนเฉินเหนือกว่าเขามาก หากต้องการหนีก็คงหนีไม่พ้น แต่ตอนนี้เมื่อเห็นเย่เทียนเฉินยกดาบขึ้นต้องการฆ่าลูกน้องคนสุดท้ายของตน จึงคิดว่าโอกาสมาถึงแล้ว แน่นอนว่าเขาไม่สนใจลูกน้องคนนี้ รีบชักเท้าหนีเอาตัวรอดไปก่อน
ฉัวะ!
มือสังหารผู้เป็นหัวหน้าคิดว่าตนเองหนีรอดแล้ว ในตอนที่เท้าของเขาก้าวไปถึงประตูบ้านตระกูลเย่ บนใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมา ในตอนที่คิดว่าตนหนีรอดแล้วนั้น เงาร่างร่างหนึ่งก็ปรากฏเหนือศีรษะทั้งยังฟาดฟันดาบลงมา
มือสังหารผู้เป็นหัวหน้าตื่นตะลึง ในชั่วขณะที่คิดว่าตนคงหนีไม่รอดแล้วนั้น เขาก็ทำได้เพียงยกดาบทหารสไตล์ชิบะในมือขึ้นเพื่อสกัดกั้นการโจมตีของเย่เทียนเฉิน
เคร้ง!
แกรก!
เย่เทียนเฉินยกดาบขึ้นสูงแล้วฟาดฟันลงมา ทำให้ดาบทหารในมือของมือสังหารผู้เป็นหัวหน้าขาดสะบั้น ยิ่งไปกว่านั้นปลายดาบที่หักยังแทงเข้าไปบริเวณไหล่ของเขาทำให้เขาทรุดตัวลงหน้าประตูบ้านตระกูลเย่ ไม่อาจหนีพ้น
“อั่ก…อย่าฆ่าฉัน อย่าฆ่าฉัน!” มือสังหารผู้เป็นหัวหน้ารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว จิตวิญญาณนักสู้ของเขาถูกดาบของเย่เทียนเฉินโจมตีจนสลายไปหมดสิ้น เขาคิดไม่ถึงว่าตนเองจะหยุดไม่ได้แม้กระทั่งหนึ่งดาบของชายหนุ่มคนนี้ ตอนนี้ขอเพียงเย่เทียนเฉินขยับดาบทหารเบาๆ ก็สามารถฟันเขาขาดเป็นสองท่อนได้แล้ว เขาไหนเลยจะกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ทำได้เพียงร้องขอชีวิตเท่านั้น
“ความจริงฉันคนนี้อยากให้โลกสงบสุขและไม่ต้องการฆ่าคน แกลองดูลูกน้องของแกสิ ฉันให้โอกาสเขาถึงสองครั้งแต่เขาก็ไม่พูด ตอนนี้เลยต้องตายอย่างเจ็บปวด โหดร้ายจริงๆ เลย ความจริงฉันเองก็ไม่อยากทำแบบนี้ ดังนั้นฉันจะให้โอกาสแกครั้งหนึ่ง ถ้าแกไม่พูดความจริง ดาบของฉันก็จะตัดหัวแกเป็นไง? ทำแบบนี้จะได้ไม่ทำให้ทุกคนต้องลำบากใจ!” เย่เทียนเฉินยังคงแย้มยิ้ม พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูไร้พิษภัย
“แก…แกมันปีศาจ แกมันปีศาจ…”
มือสังหารผู้เป็นหัวหน้ากล่าวด้วยร่างกายสั่นสั่นเทา เหงื่อเย็นๆ ไหลซึมออกมาจากหน้าผากไม่หยุด สำหรับเขาแล้วการฆ่าคนเป็นเรื่องที่ปกติมากจนไม่มีอะไรที่จะปกติไปกว่านี้อีกแล้ว พวกเขาสามารถฆ่าคนคนหนึ่งได้โดยไม่ขมวดคิ้วด้วยซ้ำ เพียงแต่การฆ่าคนโดยที่ยังรักษารอยยิ้มได้อย่างเย่เทียนเฉินนั้น พวกเขาไม่เคยทำได้ และคงไม่อาจทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขณะยิ้มเช่นนั้นเขายังฆ่าคนได้อย่างสบายอุรา จิตใจของชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งมากขนาดไหนกันแน่?
“ผิดแล้ว ฉันเป็นทูตสวรรค์ ตอนนี้ฉันจะถามแกแทนสวรรค์ คราวนี้สำนักโฮคุชินอิตโตริวของพวกแกมากันกี่คน ซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?” เย่เทียนเฉินพูดหยอกล้อพร้อมรอยยิ้ม
“ฉัน…ฉัน…ฉันรู้แค่ว่ามียอดฝีมือมากันสามสิบกว่าคน ส่วนพวกเขาอยู่ที่ไหนฉันก็ไม่รู้จริงๆ พวกเราอยู่รอบๆ เพื่อรอคนนำคำสั่งมาให้…” มือสังหารคนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ
“งั้นเหรอ? แกตอบคำถามให้สวรรค์แค่คำถามเดียว สวรรค์บอกว่าไม่พอใจ…” เย่เทียนเฉินยกดาบในมือขึ้น แม้ปากจะกล่าวอย่างสงบนิ่ง แต่การลงมือกลับไม่เกรงใจแม้แต่น้อย พวกสารเลวใจคอโหดเหี้ยมที่ฆ่าคนเป็นผักปลาเช่นนี้ ถ้าไม่ฆ่าแล้วจะทำอะไรได้?
“อั่ก…อย่า ฉัน…ฉันไม่รู้จริงๆ …เป็นคำสั่งของผู้อาวุโสมัตสึโมโตะ พวกเราเพียงแค่ทำตามเท่านั้น พวกเขาไม่ยอมให้พวกเรารู้อะไร!” มือสังหารผู้เป็นหัวหน้าเห็นเย่เทียนเฉินยกดาบขึ้นจะตัดคอของตนจึงตกใจจนหน้าถอดสี ไม่ว่าใครก็ไม่อยากมีจุดจบที่ต้องหัวกับตัวแยกออกจากกัน พลันนั้นจึงรีบเอ่ยปากบอก
“มัตสึโมโตะ?” เย่เทียนเฉินอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“ใช่ ผู้อาวุโสมัตสึโมโตะ ชิโมเค็น เป็นน้องชายแท้ๆ ของจักรพรรดิดาบ รับผิดชอบเรื่องที่สำนักโฮคุชินอิตโตริวมายังประเทศจีนในคราวนี้ทั้งหมด!”
เย่เทียนเฉินอดไม่ได้ที่จะชะงักไปครู่หนึ่ง มุมปากเผยรอยยิ้มออกมา คิดไม่ถึงว่ากระทั่งน้องชายแท้ๆ ของจักรพรรดิดาบก็ออกมาเคลื่อนไหว พวกชิบะสารเลวให้ความสำคัญกับเขาจริงๆ แต่นี่ก็เป็นสัญญาณว่าหากต้องการกำจัดพวกชิบะสารเลวเหล่านี้คงลำบากอยู่บ้างจริงๆ น้องชายแท้ๆ ของจักรพรรดิดาบ ความสามารถต้องไม่ย่ำแย่แน่นอน ต้องทราบว่าจักรพรรดิดาบเป็นยอดฝีมือระดับสูงที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ในสามอันดับแรกของสิบผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลก แม้โลกใบนี้จะไม่เหมาะสมกับการบ่มเพาะนานแล้ว แต่โลกก็กว้างใหญ่ ผู้ที่อยู่ในการจัดอันดับสิบผู้แข็งแกร่งที่สุด จะมากจะน้อยก็ต้องมีความสามารถอยู่บ้าง เย่เทียนเฉินอดไม่ได้ที่จะคิดว่า ดูท่าทางคงต้องทำการเตรียมตัวต่อสู้ครั้งใหญ่ให้ดี
“ไม่รู้จริงๆ เหรอ?” เย่เทียนเฉินถามด้วยรอยยิ้มหยอกล้อ
“จะ…จริงๆ …ไม่รู้จริงๆ …” มือสังหารผู้เป็นหัวหน้าเห็นเย่เทียนเฉินถามเช่นนี้จึงรู้สึกราวกับได้รับการนิรโทษกรรม
เย่เทียนเฉินมองมือสังหารผู้เป็นหัวหน้าแล้วจึงแย้มยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงหมุนตัวถือดาบทหารเดินกลับไป เพียงแต่ในตอนที่มือสังหารผู้เป็นหัวหน้ากำลังชักเท้าวิ่งหนีโดยไม่สนใจอาการบาดเจ็บนั้นเอง ประกายดาบพลันส่องสว่าง ดาวทหารสไตล์ชิบะในมือขวาของเย่เทียนเฉินพุ่งออกไป ปักไปยังศีรษะของมือสังหารผู้นั้นโดยตรง ปักเขาเข้ากับประตูใหญ่ของบ้านตระกูลเย่จนดับดิ้น
เพียงพริบตาเดียวก็ฆ่ายอดฝีมือของสำนักโฮคุชินอิตโตริวทั้งสี่จนหมด แต่เย่เทียนเฉินก็ยังถามสถานที่ซ่อนตัวของสำนักโฮคุชินอิตโตริวออกมาไม่ได้ ดูท่าทางมือสังหารผู้เป็นหัวหน้าจะไม่ได้พูดโกหก พวกเขาเป็นเพียงสมาชิกระดับล่างของสำนักโฮคุชินอิตโตริวเท่านั้น ส่วนยอดฝีมือที่แท้จริงของสำนักโฮคุชินอิตโตริวท่มาในคราวน้ยังไม่ได้ลงมือ น่ทำให้เย่เทียนเฉินต้องตกตะลึงอยู่ในใจ ดูแล้วคราวนี้สำนักโฮคุชินอิตโตริวส่งยอดฝีมือออกมาไม่น้อยคง หากคิดจะกำจัดพวกเขาคงไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น
หลังจากคิดครู่หนึ่ง เย่เทียนเฉินก็ไม่ได้พูดอะไรและไม่ได้มองไปทางคนตระกูลเย่แม้แต่น้อย ทำเพียงหมุนตัวเดินไปทางประตูใหญ่ของบ้านเดิมตระกูลเย่ เขาบรรลุจุดประสงค์ที่มาบ้านเดิมตระกูลเย่แล้ว เขาคาดเดาได้ว่าคงมีคนในสำนักโฮคุชินอิตโตริวมาลอบสังหารที่บ้านเดิมตระกูลเย่จึงคิดจะถือโอกาสนี้ถามที่ซ่อนตัวของพวกมัน ส่วนการช่วยเหลือคนตระกูลเย่เป็นเพียงผลพลอยได้ ความจริงเขาไม่มีความรู้สึกดีกับคนที่บ้านเดิมตระกูลเย่เหล่านี้แม้แต่น้อย และรู้สึกสิ้นหวังเกินไป ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไร
คนตระกูลเย่ทั้งชายหญิงเด็กแก่ เมื่อเห็นว่าเย่เทียนเฉินหมุนตัวคิดจะเดินจากไปก็ยืนตะลึงอยู่กับที่ ในใจอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลขึ้นมา หากเย่เทียนเฉินไปใครจะมาปกป้องพวกเขา? ใครจะปกป้องพวกเขาได้?
“เทียนเฉิน รอก่อน…” ตอนนี้เอง เย่หย่วนซานเดินออกมาตะโกนเรียกเย่เทียนเฉิน
………………………….