เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 455 ความสามารถของฮิคาวะแข็งแกร่งมาก
คฤหาสห์ที่เย่เทียนเฉินอาศัยอยู่คนเดียว ภายในห้องนอนที่เสี้ยวหยานอนหลับอยู่ แม้จะมีความเคลื่อนไหวดังลั่นขนาดนี้เสี้ยวหยาก็ยังคงหลับสนิท ฮิคาวะพุ่งเข้าไปในห้องที่เสี้ยวหยาอาศัยอยู่ มือขวาถือดาบทหารสไตล์ชิบะ นั่งยองๆ อยู่บริเวณหน้าต่างเช่นนั้นโดยไม่ขยับเขยื้อน มองไปรอบด้านด้วยความระมัดระวัง ปราณกระบี่เมื่อครู่นี้เกือบจะเอาชีวิตเขาแล้ว เกือบจะตัดหัวเขาขาดไปแล้ว พลังอำนาจของปราณกระบี่นี้ทำให้ฮิคาวะอดไม่ได้ที่จะตกใจ
“เย่เทียนเฉิน แกหดหัวเป็นเต่าอยู่ในกระดอง รู้จักแต่ลอบโจมตี ไม่กล้าออกมาสู้กับฉันอย่างยุติธรรมหรือไง?” ฮิคาวะพูดเสียงดัง
เพียงแต่ฮิคาวะพูดจบไปนานแล้วก็ยังไม่มีใครตอบ ในห้องมีเพียงความเงียบ มีเพียงแสงจันทร์สาดส่องเข้ามาทำให้มองไม่เห็นสถานการณ์ด้านในห้องชัดเจนนัก นี่ทำให้ฮิคาวะยิ่งระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากปราณกระบี่แต่ละสายมีพลังอำนาจมากมาย ล้วนโจมตีออกมาจากด้านใน ร้ายกาจเป็นอย่างมาก สามารถฆ่าลูกน้องทั้งสองของเขาได้ง่ายๆ ลูกน้องทั้งสองที่เขาพามาคราวนี้ล้วนเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในหมู่ยอดฝีมือทั้งสามสิบคนของสำนักโฮคุชินอิตโตริว แต่กลับต้องพบจุดจบที่หัวกับตัวแยกออกจากกันเช่นนี้ ส่วนฮิคาวะในฐานะที่เป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่รุ่นใหม่ของสำนักโฮคุชินอิตโตริว ฝึกฝนเพลงดาบของสำนักโฮคุชินอิตโตริวจนถึงระดับกลางแล้วแต่กลับต้องฟาดฟันออกไปสามดาบถึงจะสลายปราณกระบี่อันรุนแรงนั้นได้ จะไม่ให้เขาตื่นตกใจได้อย่างไร?
และเป็นเพราะฮิคาวะฟาดฟันดาบออกไปสามครั้งก็สลายปราณกระบี่ที่มีอำนาจเช่นนั้นได้ทำให้เขายิ่งมั่นใจว่าหากต่อสู้กับเย่เทียนเฉินจะต้องฆ่าเขาได้ง่ายๆ แน่นอน ฮิคาวะตัดสินใจไปแล้วโดยไม่รู้ตัวว่าเย่เทียนเฉินจะต้องซ่อนอยู่ในห้องนี้แน่ เป็นไปได้มากว่าจะซ่อนอยู่ในมุมห้อง ปราณกระบี่อันรุนแรงนั้นเป็นการโจมตีที่เย่เทียนเฉินลอบโจมตีออกมา
“หึ กลัวตายรึไง? ไอ้ลูกเต่า อย่าคิดว่าแกหลบอยู่ที่มุมแล้วฉันจะฆ่าแกไม่ได้ ฉันจะบอกอะไรแกให้ บนโลกใบนี้ไม่มีใครที่ฉันฮิคาวะฆ่าไม่ได้!” ฮิคาวะแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่งแล้วพูดขึ้นอย่างโหดเหี้ยม
ความจริงการที่ฮิคาวะพูดเช่นนี้เพราะต้องการทำให้อารมณ์ของตนสงบลง เป็นการเรียกความมั่นใจให้ตนเอง ตอนนี้ในใจของเขารู้สึกกระวนกระวายอยู่บ้าง ยังไม่ทันได้เห็นตัวคนก็ต้องพบกับปราณกระบี่อันรุนแรงเช่นนี้แล้ว แม้เขาจะใช้เพลงดาบของสำนักโฮคุชินอิตโตริวสลายปราณกระบี่ไปได้ แต่จะอย่างไรเย่เทียนเฉินก็มีความแข็งแกร่งมาก เขาไม่รู้ว่าเพียงแค่ปราณกระบี่เหล่านี้ก็ทำให้เขาตื่นตะลึงมากแล้ว
รออยู่ครึ่งค่อนวันก็ยังไม่มีใครตอบกลับตน ฮิคาวะโกรธจนดวงตาทั้งสองแดงก่ำ ไอสังหารฟุ้งกระจาย เขาคิดว่าเย่เทียนเฉินหลบอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งเพื่อเตรียมใช้วิธีการชั่วช้า ไม่กล้าโผล่หัววออกมาสู้กับตน การที่เย่เทียนเฉินไม่ตอบนับเป็นการดูถูกเขาฮิคาวะอย่างสิ้นเชิง ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในหมู่รุ่นใหม่ของสำนักโฮคุชินอิตโตริว นี่ทำให้ฮิคาวะที่มีความภาคภูมิใจและหยิ่งทนงในตนเองถูกโจมตีอย่างแรง เขากัดฟันแน่น ถือดาบทหารสไตล์ชิบะพุ่งเข้าไป
ฉัวะ!
ฉัวะ!
ฉัวะ!
ปรานดาบทะยานไปในแนวขวาง ไม่กล่าวไม่ได้ว่าเพลงดาบของสำนักโฮคุชินอิตโตริวแข็งแกร่งมาก ทุกดาบที่ฮิคาวะฟาดฟันออกไปล้วนมีปราณดาบจันทร์เสี้ยวพุ่งออกไปสะบั้นสิ่งทุกอย่างจนแหลกเป็นจุล มิน่าล่ะทุกปีที่สำนักโฮคุชินอิตโตริวมาท้าประลองวรยุทธกับเส้าหลิน แม้พวกเขาจะพ่ายแพ้ แต่ในโลกของวรยุทธโบราณ พวกผู้อาวุโสจำนวนมากล้วนเป็นพวกเคี้ยวยาก ถึงแม้พวกสารเลวนี่จะน่ารังเกียจควรแก่การฆ่า แต่ไม่อาจไม่ยอมรับว่าเพลงดาบของสำนักโฮคุชินอิตโตริวร้ายกาจมาก
ฟิ้ว!
หลังจากที่ฮิคาวะฟาดฟันเพลงดาบอันแข็งแกร่งออกไปอีกสามกระบวนก็พุ่งไปยังมุมห้องที่มีปราณกระบี่พุ่งออกมา มิเช่นนั้นคงไม่กล้าพุ่งเข้าไปจริงๆ
ซู่ม!
มีปราณกระบี่อีกสายหนึ่งโจมตีออกมา ฟาดฟันเพลงดาบทั้งสามของฮิคาวะจนแหลก เพียงแต่เขาเองก็สกัดปราณกระบี่นั้นได้เช่นกัน ตอนนี้ฮิคาวะไปถึงมุมที่มีปราณกระบี่พุ่งออกมาแล้ว เขาชะงักไปทั้งร่างเนื่องจากที่มุมนั้นไม่มีผู้ใด มีเพียงกระบี่อยู่เล่มหนึ่ง!
ไม่ผิด ที่มุมห้องนอนของเสี้ยวหยามีกระบี่อยู่เล่มหนึ่ง กระบี่เล่มนั้นตั้งอยู่ที่มุมห้องตรงๆ สั่นสะเทือนเป็นบางครั้ง ทำให้ฮิคาวะรีบถอยหลังไปหลายก้าว ราวกับจะมีปราณกระบี่พุ่งออกมาได้ทุกเมื่ออย่างไรอย่างนั้น พลังอำนาจที่ไม่อาจดูถูกและไม่อาจแตะต้องทำให้ฮิคาวะรู้สึกสั่นสะท้านในใจ
“กระบี่เล่มนี้…เป็นกระบี่อะไรกันแน่ ถึงกับมีพลังขนาดนี้เลยเหรอ?” ฮิคาวะพูดอย่างดุดัน
ตอนนี้ฮิคาวะโกรธถึงขั้นสุด จะอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึง เดิมทีเขาคิดว่าเย่เทียนเฉินหลบอยู่ที่มุมเพื่อลอบโจมตีตน ไหนเลยจะรู้ว่ากลับเป็นเพียงกระบี่เล่มหนึ่ง กระบี่ที่ไม่มีคนถือเล่มหนึ่งเท่านั้น แต่ก็สามารถฆ่าลูกน้องที่มีฝีมือแข็งแกร่งทั้งสองของตนไปได้ และอีกนิดเดียวก็จะฆ่าตนได้แล้วด้วย จะไม่ให้ฮิคาวะอับอายได้อย่างไร นี่เป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่รุ่นใหม่ของสำนักโฮคุชินอิตโตริวแต่กลับถูกบีบบังคับถึงขั้นนี้
“กระบี่เล่มหนึ่ง กระบี่เล่มหนึ่งเท่านั้น ฉันจะดูสิว่าแกจะร้ายกาจขนาดไหน...”
ฮิคาวะตะโกนออกมา ไร้สติไปแล้วโดยสิ้นเชิง ดาบหนึ่งโจมตีไปยังกระบี่ที่ตั้งอยู่ที่มุมห้อง ฟาดฟันไปบนตัวกระบี่โดยตรง
เคร้ง!
ตู้ม!
ปราณกระบี่ถูกยิงออกมา เพียงแค่สัมผัสก็ถูกปล่อยออกมาแล้ว ในตอนที่ดาบของฮิคาวะฟาดฟันลงไปบนตัวกระบี่ พริบตานั้นกระบี่ที่ตั้งอยู่ในมุมห้องก็ปล่อยปราณกระบี่อันใหญ่ยักษ์หาใดเปรียบออกมา ฮิคาวะเห็นเช่นนั้นก็รีบโคจรพลัง คิดจะใช้ดาบทหารกดลงไป ไหนเลยจะรู้ว่ากลับได้ยินเสียงกระจ่างใสครั้งหนึ่ง ดาบทหารที่อยู่ในมือขาดสะบั้นเป็นสองท่อน ขณะเดียวกันปราณกระบี่ก็โจมตีเขาจนกระเด็นออกไป…
ฮิคาวะล้มลงกับพื้นแต่ไม่ได้เป็นอะไรมาก รีบลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าดำคล้ำ ดวงตาทั้งสองแดงก่ำ เต็มไปด้วยไอสังหารแห่งความโกรธเกรี้ยว กระบี่เพียงเล่มเดียวก็ทำให้เขากระเด็นออกไปได้ นี่จะทำให้ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่รุ่นใหม่ของสำนักโฮคุชินอิตโตริวขายหน้าเกินไปแล้ว ทั้งยังขายหน้าไปถึงประเทศด้วย เพียงแต่หากเป็นเช่นนี้ก็เข้าใจได้ว่าเย่เทียนเฉินไม่ได้ปรากฏตัวออกมาเลย เพียงแค่วางกระบี่เล่มหนึ่งไว้ในคฤหาสน์ก็สามารถฆ่ายอดฝีมือทั้งสองของสำนักโฮคุชินอิตโตริวได้แล้ว อีกทั้งฮิคาวะก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้ เพียงแค่คิดก็รู้สึกไม่พอใจมากแล้ว
ความจริงสิ่งที่ฮิคาวะไม่รู้ก็คือ เขานับว่าแข็งแกร่งมากพอแล้ว กระบี่ที่ถูกวางไว้ในมุมห้องของเสี้ยวหยานี้ไม่ใช่กระบี่ธรรมดาแต่เป็นกระบี่ไท่ เขาต้องการปกป้องเสี้ยวหยาจึงนำกระบี่ไท่อามาวางไว้ในห้องนอนโดยเฉพาะเพื่อป้องกันให้รอบด้าน คิดไม่ถึงว่าจะเกิดสถานการณ์ที่ได้ใช้งานจริงๆ
ที่แท้ในตอนที่เย่เทียนเฉินออกไปจากคฤหาสน์กับเฮยเมี่ยนก็คิดถึงเรื่องเหล่านี้แล้ว ดังนั้นในตอนที่เขาย้อนกลับมายังคฤหาสน์ก็นำกระบี่ไท่อาไปวางไว้ในห้องนอนของเสี้ยวหยาด้วยความระมัดระวัง ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้พลังต้นกำเนิดในร่างกายของตนกรอกใส่เข้าไปด้านในและใช้เคล็ดวิชาพลังพิเศษเพื่อปกป้องเสี้ยวหยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เสี้ยวหยาจึงไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ใหญ่โตรุนแรงเพียงนั้น เป็นเพราะเขตแดนปิดกั้นที่คลุมเธอเอาไว้นั่นเอง
ไม่กล่าวถึงไม่ได้ว่าความจริงฮิคาวะดูถูกไม่ได้เลย กระบี่ไท่อาเป็นหนึ่งในสิบกระบี่เทพบรรพกาล พลังอำนาจแข็งแกร่งหาใดเปรียบ มันยอมจำนนต่อเย่เทียนเฉินแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับพลังต้นกำเนิดกรอกใส่เข้าไปอีกด้วย พลังอำนาจเช่นนี้ยากจะสกัดกั้น แต่ฮิคาวะใช้เพียงสามดาบก็สามารถทำลายปราณกระบี่ของกระบี่ไท่อาได้แล้ว นับว่าเขามีคุณสมบัติที่จะหยิ่งทนงในตัวเองจริงๆ
เพียงแต่ฮิคาวะในตอนนี้ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความภาคภูมิใจในตนเองเช่นนั้นอีก ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ตลอดมาเขาคิดว่าหากต้องการฆ่าเย่เทียนเฉินเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก ยิ่งไปกว่านั้นภารกิจในครั้งนี้ของสำนักโฮคุชินอิตโตริวเขาจะต้องสร้างผลงานที่ดีที่สุดแน่นอน หัวของเย่เทียนเฉินเขาก็จะต้องตัดมาได้แน่ ไหนเลยจะรู้ว่าตอนนี้กระทั่งตัวเย่เทียนเฉินก็ยังไม่ได้เห็นกลับเกือบจะถูกฆ่าอยู่แล้ว ฮิคาวะคิดถึงเรื่องนี้ก็โกรธจนปอดแทบระเบิด
“เย่เทียนเฉิน เย่เทียนเฉิน ฉันจะฆ่าแก!”
ฮิคาวะโกรธจนทนไม่ไหว ดาบทหารในมือหักไปแล้ว เขาโยนดาบที่เหลืออีกครึ่งท่อนลงพื้น โคจรพลังที่ฝ่ามือทั้งสอง พริบตาเดียวพลังทั่วทั้งร่างก็เดือดพล่าน แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก จับเข้าไปที่กระบี่ไท่อา
วิ้ง!
กระบี่ไท่อาสั่นไหว ส่งพลังอันรุนแรงออกมาปะทะกับฝ่ามือที่เต็มไปด้วยปราณแท้ของฮิคาวะอย่างรุนแรง ฮิคาวะกัดฟันแน่น เขาคิดไม่ถึงว่ากระบี่เพียงเล่มเดียวเท่านั้น ตนต้องการจะถือมันแต่กลับยากลำบากขนาดนี้ ทันใดนั้นเขาใช้มือซ้ายตบลงบนกำแพงเพื่อประคองร่างกายของตน ส่วนมือขวาจับไปยังด้ามกระบี่ของกระบี่ไท่อา
ซู่ม!
จะอย่างไรกระบี่ไท่อาก็ไม่มีใครควบคุมมันได้ เพียงแค่ใช้พลังต้นกำเนิดของเย่เทียนเฉินกรอกใส่ไปด้านในเล็กน้อย ขอเพียงอยู่ในห้องของเสี้ยวหยาและส่งพลังที่แข็งแกร่งออกมา กระบี่ไท่อาจะทำการโจมตีและกดดันด้วยตัวมันเอง ความสามารถของฮิคาวะแข็งแกร่งมากจริงๆ สามารถจับกระบี่ไท่อาได้เลย
“หือ?” ฮิคาวะลองยกกระบี่ไท่อาขึ้นมา เพียงแต่กลับรู้สึกหนักหลายพันปอนด์ พริบตานั้นเขาอดไม่ได้ที่จะหัวใจเต้นรัว เขาย่อมไม่รู้ว่านี่คือกระบี่ไท่อาซึ่งเป็นหนึ่งในสิบกระบี่บรรพกาล ในใจรู้สึกสั่นสะท้านเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงว่ากระบี่เล่มนี้จะร้ายกาจถึงขนาดนี้ ดูแล้วครั้งนี้หากต้องการฆ่าเย่เทียนเฉินคงไม่ง่าย
“ย้าก!”
อย่างน้อยฮิคาวะก็ใช้พลังไปเจ็ดส่วนถึงจะดึงกระบี่ไท่อาขึ้นมาได้ เมื่อมองไปยังกระบี่ไท่อาที่อยู่ในมือ ฮิคาวะก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองและยโสโอหังขึ้นมา หัวเราะเสียงเย็นแล้วกล่าวว่า “เย่เทียนเฉิน แกคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะฆ่าฉันได้รึไง? แกมันก็เท่านี้เอง!”
ในตอนนี้ ฮิคาวะถือกระบี่ไท่อาอยู่ในมือ ใช้ปราณแท้ของตนกดข่มมันเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็มองไปยังเสี้ยวหยาที่อยู่บนเตียงซึ่งยังคงหลับไหล เขาพบว่ารอบเตียงมีพลังที่ไม่อ่อนแอปกคลุมอยู่ชั้นหนึ่ง ราวกับกำลังปกป้องผู้หญิงที่กำลังนอนหลับอยู่ด้านใน พริบตานั้นฮิคาวะจึงเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยมที่มุมปาก มือซ้ายถือกระกระบี่ไท่อา ส่วนมือขวายื่นนิ้วกลางกับนิ้วชี้ออกไป ชี้ไปยังพลังที่ปกป้องเสี้ยวหยาอยู่
เพล้ง!
พลังเขตแดนปิดกั้นขนาดเล็กที่เย่เทียนเฉินใช้ถูกฮิคาวะทำลายไปแล้ว เขามองไปยังเสี้ยวหยาที่กำลังหลับ มองไปยังความงามอันบริสุทธิ์ ฮิคาวะอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย หัวเราะออกมาอย่างเย็นชาและหื่นกระหายก่อนจะกล่าวว่า “เย่เทียนเฉิน สิ่งที่แกจะต้องเสียใจที่สุดก็คือคิดว่ากระบี่แค่เล่มเดียวจะปกป้องผู้หญิงของตัวเองได้ ตอนนี้ฉันจะข่มขืนผู้หญิงของแกซะ ดูซิว่าแกจะทำอะไรฉันได้…”
……………………..