เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 465 มัตสึโมโตะโกรธแล้ว คาเมดะคุกเข่า
“ตอนที่พวกแกบุกรุกประเทศจีนเมื่อปีนั้นไม่รู้ว่าทำร้ายผู้หญิงชาวจีนไปมากน้อยแค่ไหน จนถึงตอนนี้ผู้หญิงในประเทศชิบะของพวกแกมีแต่พวกหื่นกระหาย แม้แต่พวกแกเองก็ยังไม่ชอบ หรือพวกแกไม่ได้รับบทเรียนเลยรึไง?” อลิซพูดอย่างไม่ไว้หน้ามัตสึโมโตะชิโมะเค็นแม้แต่น้อย
มัตสึโมโตะชิโมะเค็นมองอลิซ เขาคือน้องชายแท้ๆ ของจักรพรรดิดาบ ความสามารถแข็งแกร่งมาก นั่นเป็นสิ่งไม่ต้องสงสัยเลย ตนรู้ดีว่าด้วยฐานะของอลิซ ต่อให้คราวนี้สำนักโฮคุชินอิตโตริวจะมาเคลื่อนไหวในประเทศจีนเพราะการบงการของรัฐบาลประเทศ M และอลิซเองก็อยู่ในเมืองหลวงของประเทศจีน แต่ท่าทีที่แสดงให้เห็นภายนอก เรียกได้ว่าอำนาจในภารกิจครั้งนี้ล้วนมีเขามัตสึโมโตะชิโมะเค็นเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
ประเทศชิบะเป็นสุนัขรับใช้ของประเทศ M นี่เป็นเรื่องที่ทั่วโลกรู้ดี แต่มัตสึโมโตะชิโมะเค็นมีตำแหน่งสูงส่งและมีอำนาจมากมายในสำนักโฮคุชินอิตโตริว ทั้งยังเป็นน้องชายแท้ๆ ของจักรพรรดิดาบ เมื่อได้ยินอลิซพูดเช่นนี้ในใจก็รู้สึกไม่พอใจมาก อย่างไรก็ตามเขายังคงคิดว่ารัฐบาลประเทศ M ไม่อาจล่วงเกินได้ อดทนไว้ก่อนจะเป็นการดี จึงทำได้เพียงยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้สนใจและไม่ได้เถียง
“ไม่ทราบว่าคุณอลิซมาด้วยตัวเองแบบนี้มีอะไรจะชี้แนะ?” มัตสึโมโตะชิโมะเค็นเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา
“ฉันจะมาบอกแกว่าเย่เทียนเฉินกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว!” อลิซเอ่ยปากพูด
“อะไรนะ? ไอ้หนูนี่กลับมาเมืองหลวงแล้ว? มันถึงกับกล้ากลับมาเมืองหลวงด้วย?” มัตสึโมโตะชิโมะเค็นพูดด้วยความแปลกใจ
เดิมทีหลังจากที่พวกมัตสึโมโตะชิโมะเค็นมาถึงเมืองหลวง แม้จะได้รับคำสั่งจากรัฐบาลประเทศ M ให้เก็บกวาดตระกูลหลิง แต่มัตสึโมโตะชิโมะเค็นเป็นคนที่แตกต่างจากคนอื่น เขาอยากแก้แค้นให้ซาโต้ ต่อให้ไม่มีความรู้สึกของเพื่อนร่วมชาติมากนักแต่ก็ยังอยากทำเพื่อชื่อเสียงของสำนักโฮคุชินอิตโตริว เขาต้องการฆ่าเย่เทียนเฉิน
ไหนเลยจะรู้ว่าหลังจากมาถึงเมืองหลวง เขาก็ส่งยอดฝีมือกลุ่มใหญ่ออกไป ค้นหาทั่วทั้งเมืองหลวงเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนแต่กลับไม่พบเบาะแสของเย่เทียนเฉิน อย่างมากก็หาสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับเย่เทียนเฉินทั้งสามแห่งพบ นั่นก็คือบ้านเดิมตระกูลเย่ บ้านตระกูลเย่และคฤหาสน์ที่เย่เทียนเฉินอาศัยอยู่คนเดียว ในสถานการณ์ที่ทำอะไรไม่ได้เช่นนี้มัตสึโมโตะชิโมะเค็นจึงสั่งให้คนของตนลงมือ ส่งยอดฝีมือกลุ่มใหญ่ไปยังตระกูลหลิง ฆ่าคนตระกูลหลิงทั้งหมด เพียงแต่คิดไม่ถึงว่ารัฐบาลประเทศจีนจะลงมือช่วยหลิงอวี่สวิ๋นและหลิงเยว่สองพ่อลูกมาได้ แน่นอนว่านี่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับเรื่องใหญ่อะไร เรื่องของตระกูลหลิง เดิมทีรัฐบาลประเทศ M ก็ต้องการแสดงเจตนาข่มขู่ให้ตระกูลหลิงรู้ว่าหากคิดจะฉีกหน้าจริงๆ หากจะกลับมาพัฒนาธุรกิจในประเทศจีนจริงๆ รัฐบาลประเทศ M ก็มีความสามารถที่จะฆ่าคนทั้งหมดของตระกูลหลิง เมื่อถึงตอนนั้นก็อย่ามาตำหนิว่ารัฐบาลประเทศ M ลงมือโหดเหี้ยม นี่คือสิ่งที่ประเทศพัฒนาแล้วเรียกขานว่าความยุติธรรมและความสงบ บนโลกใบนี้ไม่มีความยุติธรรมและความสงบที่แท้จริง ขอเพียงไม่แตะถูกผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พวกเขาถึงจะหลับตาข้างลืมตาข้าง
หลังจากทำลายตระกูลหลิงแล้ว มัตสึโมโตะชิโมะเค็นก็รู้สึกไม่พอใจจริงๆ ความโกรธในใจของเขาไม่อาจสงบมาโดยตลอด ต้องการฆ่าเย่เทียนเฉินให้ได้เดี๋ยวนั้น ในตอนที่ออกมาจากประเทศชิบะ เขายังจดจำสายตาอันโกรธเกรี้ยวของจักรพรรดิดาบผู้เป็นพี่ชายของตนได้อย่างชัดเจน เกือบ 40 ปีแล้วที่จักรพรรดิดาบไม่เคยโกรธ คราวนี้กลับโกรธมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังบอกมัตสึโมโตะชิโมะเค็นว่าให้เขาจัดการแนวหน้าให้ดี อีกไม่นานเขาจักรพรรดิดาบจะมาประเทศจีนด้วยตัวเอง บุญคุณความแค้นระหว่างสำนักโฮคุชินอิตโตริวและพรรควรยุทธโบราณของประเทศจีนยังไม่สิ้นสุดลง
เพียงแต่น่าเสียดาย เมื่อค้นหาทั่วทั้งเมืองหลวงแล้วกลับหาเย่เทียนเฉินไม่พบ นี่ทำให้คนทั้งหมดของสำนักโฮคุชินอิตโตริวคิดว่าเย่เทียนเฉินหนีไปแล้ว คิดว่าอีกฝ่ายกลัวเพราะรู้ว่าตัวเองฆ่าซาโต้แล้วสำนักโฮคุชินอิตโตริวจะมาแก้แค้นแน่นอน เขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ดังนั้นไอ้หมอนี่จึงออกไปจากเมืองหลวง ตัวมัตสึโมโตะชิโมะเค็นเองก็คิดเช่นนี้ ที่สำคัญก็คือเขาเองก็คิดเช่นเดียวกับลูกศิษย์ของสำนักโฮคุชินอิตโตริวคนอื่นๆ ที่ว่าเย่เทียนเฉินฆ่าซาโต้ได้เพราะโชคดีเท่านั้น ไม่ได้เก่งอย่างที่ลือกัน ตอนนี้เย่เทียนเฉินเพิ่งจะอายุ 20 ปีหากมีพลังต่อสู้แข็งแกร่งห้าวหาญเช่นนั้นจริงๆ เย่เทียนเฉินในตอนนี้คงนับว่าไม่อ่อนแอไปกว่าจักรพรรดิดาบในวัยหนุ่มเลย นี่จะน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“พวกแกคิดว่าเย่เทียนเฉินกลัวพวกแกจริงๆ หรือไงถึงได้ออกไปจากเมืองหลวง? ฉันจะบอกแกตามจริง เขามีเรื่องต้องทำถึงได้ออกไปจากเมืองหลวง ตอนนี้เพิ่งจะกลับมา!” อลิซเอ่ยปากอย่างเย็นชา
“ฮ่าๆๆๆ กลับมาได้พอดี ฉันอยากให้เขาตายตอนนี้เลย ต่อให้ไม่ตาย หลังจากกลับมาถึง สิ่งที่จะได้เห็นก็มีแค่ความตายของตระกูลเย่ทั้งตะโกน ญาติมิตรทั้งหมดของเขาล้วนตายทั้งหมดแล้ว ฉันอยากจะเห็นจริงๆ ว่าไอ้ลูกเต่านั่นจะเสียใจจนมีสภาพยังไง!” แม้มัตสึโมโตะชิโมะเค็นจะมีความแปลกใจปรากฏในดวงตาแต่ไม่นานก็หัวเราะแล้วพูดออกมา
เมื่ออลิซได้ยินคำพูดของมัตสึโมโตะชิโมะเค็นก็มองไปยังชายคนนั้นด้วยสายตาเรียบเฉย เธอมีความประทับใจไม่ดีต่อชายคนนี้ หรือพูดตรงๆ ก็คือเธอมีความประทับใจไม่ดีต่อพวกสารเลวของประเทศชิบะทั้งหมด เนื่องจากเธอมีฐานะเป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองพิเศษของประเทศ M จะมากจะน้อยก็ต้องติดต่อกับพวกสารเลวของประเทศชิบะ จะอย่างไรประเทศชิบะก็เป็นสุนัขรับใช้ของประเทศ M ผู้เป็นเจ้านายยังต้องใส่ใจดูแลเป็นบางเวลา ความประทับใจที่อลิซมีต่อพวกสารเลวนี่ก็คือโลภมากเห็นแก่ตัว หยิ่งยโส ที่สำคัญก็คือไม่มีมนุษยธรรมแม้แต่น้อย เชื่อว่านี่คงเป็นสาเหตุที่ไม่มีใครคิดอยากจะไปมาหาสู่กับพวกเชื้อชาตินี้
การที่มัตสึโมโตะชิโมะเค็นหัวเราะและพูดอย่างมั่นใจเช่นนี้ อลิซรู้ดีว่าเป็นเพราะมัตสึโมโตะชิโมะเค็นส่งยอดฝีมือจำนวนมากไปสังหารคนของบ้านเย่เทียนเฉินแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีฮิคาวะที่เป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่รุ่นใหม่ของสำนักโฮคุชินอิตโตริวอยู่ด้วย ความสามารถของเขาไม่อาจประเมิน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นบุคคลผู้มีความสามารถที่มัตสึโมโตะชิโมะเค็นและจักรพรรดิดาบให้ความสำคัญมาก กระทั่งยอมรับในใจไปแล้วว่าฮิคาวะจะเป็นผู้สืบทอดสำนักโฮคุชินอิตโตริวรุ่นต่อไป
“แกคิดว่ายอดฝีมือของสำนักโฮคุชินอิตโตริวที่แกส่งไปลอบสังหารเย่เทียนเฉินจะทำสำเร็จเหรอ? คิดว่าไอ้หมอนั่นฆ่าได้ง่ายๆ หรือไง?” อลิซอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเย็นชา
“หึ คุณอลิซ ผมยอมรับว่าไอ้หนูนั่นมีความสามารถอยู่บ้าง แต่เพียงแค่นิ้วเดียวของผมก็ฆ่ามันได้แล้ว บางทีลูกศิษย์คนอื่นอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน แต่ความสามารถของฮิคาวะแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ลูกศิษย์รุ่นใหม่ของสำนักโฮคุชินอิตโตริวของพวกเรา มีความสามารถกระทั่งประมือกับผมได้หลายกระบวนท่า เรียกได้ว่าเป็นบุคคลผู้มีความสามารถ ถ้ามีเขาอยู่ เย่เทียนเฉินจะร้ายกาจขนาดไหนก็ต้องหัวขาดเหมือนคนอื่นๆ!” มัตสึโมโตะชิโมะเค็นแค่นเสียงเย็น พูดออกมาอย่างไม่พอใจ ในตอนที่พูดถึงฮิคาวะ ในดวงตายังเต็มไปด้วยสายตาชื่นชม ดูแล้วคงให้ความสำคัญกับลูกศิษย์คนนี้มาก
“ฉันไม่อยากขัดแกหรอกนะ แต่จำเป็นต้องบอกแกว่าฮิคาวะตายแล้ว…” อลิซมองไปยังมัตสึโมโตะชิโมะเค็นแล้วพูดขึ้นอย่างจริงจัง
“อะไรนะ? ได้ยังไง?”
มัตสึโมโตะชิโมะเค็นพลันนั่งไม่ติดที่อีกต่อไป ลุกพรวดขึ้นมาจากม้านั่ง ในดวงตาเต็มไปด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ จ้องมองไปทางอลิซ มีไอสังหารอยู่จางๆ เขาไม่เต็มใจจะเชื่อเลยจริงๆ เพียงแต่ต่อให้อลิซจะดูถูกพวกเขาแต่ก็ไม่หลอกพวกเขาแน่นอน ดังนั้นนี่จึงทำให้มัติสึโมโตะใจสั่น ฮิคาวะตายแล้วเหรอ? นี่จะเป็นไปได้อย่างไร? เขาเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากของสำนักโฮคุชินอิตโตริวของตน ความสามารถแข็งแกร่งมาก ต่อให้เป็นตนที่มีความสามารถแข็งแกร่งขนาดนี้ หากคิดจะเอาชนะฮิคาวะในเวลาสั้นๆ ก็ยังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ นอกจากจักรพรรดิดาบผู้เป็นพี่ชายของตนจะลงมือด้วยตัวเองถึงจะมีความสามารถเช่นนี้
การมาปฎิบัติภารกิจในประเทศจีนครั้งนี้ ตอนแรกมัตสึโมโตะชิโมะเค็น ไม่ได้จำกัดการเคลื่อนไหวของฮิคาวะ เนื่องจากเขามีความเชื่อมั่นในความสามารถของฮิคาวะเป็นอย่างมาก และไม่เชื่อว่าในประเทศจีนจะมียอดฝีมือที่แข็งแกร่งขนาดนั้น หรือต่อให้ศัตรูร้ายกาจขนาดไหนฮิคาวะก็มีความสามารถพอที่จะปกป้องตัวเอง คงไม่ถูกฆ่าตายโดยเด็ดขาด ในตอนที่เขาออกมาจากประเทศชิบะ จักรพรรดิดาบผู้เป็นพี่ชายได้กำชับตนมาแล้วว่าพรรควรยุทธโบราณของประเทศจีนลึกล้ำไม่อาจหยั่ง อย่าได้ดูถูกโดยเด็ดขาด ในนั้นมีคู่ต่อสู้ที่กระทั่งจักรพรรดิดาบก็ไม่อาจดูถูกได้อยู่ด้วย เพียงแต่น่าเสียดายที่มัตสึโมโตะชิโมะเค็นไม่ได้เก็บคำพูดเหล่านี้ไปใส่ใจและยังไม่เห็นคนจีนอยู่ในสายตาด้วย เขากับฮิคาวะก็เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและหยิ่งยโสเช่นเดียวกัน ตอนนี้ฮิคาวะตายไปแล้ว เขาจะบอกกับจักรพรรดิดาบอย่างไร? ต้องทราบว่ากว่าสำนักโฮคุชินอิตโตริวจะบ่มเพาะฮิคาวะขึ้นมาได้ต้องสิ้นเปลืองความพยายามไปไม่น้อย
“ใคร? ใครฆ่าฮิคาวะ?” มัตสึโมโตะชิโมะเค็นเอ่ยปากถามอย่างดุดัน
“แกคิดว่านอกจากเย่เทียนเฉินแล้วยังจะมีใครอีกล่ะ?” อลิซพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
มัตสึโมโตะชิโมะเค็นกำหมัดแน่น จะอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่ายอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่รุ่นใหม่ของสำนักโฮคุชินอิตโตริวของตนจะตกตายอยู่ในมือของเย่เทียนเฉิน นี่เป็นบุคคลสำคัญอันดับสองของสำนักโฮคุชินอิตโตริวแต่กลับตายอยู่ในมือของเย่เทียนเฉินไปแล้ว หากพูดถึงเรื่องคุณค่าและความสำคัญ ฮิคาวะย่อมสำคัญกว่าซาโต้มาก เดิมทีซาโต้ก็แก่แล้ว คงอยู่ได้ไม่นาน ตายไปก็ไม่มีอะไรน่าเสียดาย เพียงแค่ทำให้สำนักโฮคุชินอิตโตริวขายหน้าเท่านั้น แต่การตายของฮิคาวะกลับทำให้สำนักโฮคุชินอิตโตริวสูญเสียสายเลือดใหม่ นี่จะทำให้มัตสึโมโตะชิโมะเค็นโกรธเกรี้ยวระดับไหนกัน
ตู้ม!
คาเมดะอิจิโร่ถูกถีบจนกระเด็นออกไปก่อนจะร่วงลงพื้นอย่างรุนแรง มือซ้ายกุมท้องของตน มุมปากมีเลือดไหลออกมา มองไปยังมัตสึโมโตะชิโมะเค็นด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัว กล่าวว่า “ผู้อาวุโสมัตสึโมโตะ คุณ…ผม…”
“ไอ้โง่ ไอ้สวะ แกบอกว่าความสามารถของเย่เทียนเฉินไม่เท่าไหร่ไม่ใช่เหรอไง? แกเคยประเมินกับมันมาไม่ใช่รึไง?” มัตสึโมโตะชิโมะเค็นจ้องไปทางคาเมดะอิจิโร่ด้วยความโกรธเกรี้ยวหาใดเปรียบแล้วตะโกนขึ้น หากไม่ใช่ว่าฮิคาวะตายไปแล้วทำให้ตอนนี้ในประเทศจีนนี้ไม่มีคนที่เขาจะปรึกษาแผนการได้อีก เกรงว่าเขาคงฆ่าผู้อาวุโสไร้ประโยชน์อย่างคาเมดะอิจิโร่ไปแล้ว
คาเมดะอิจิโร่คุกเข่ากับพื้นด้วยความหวาดกลัว ถึงแม้เขาจะเป็นผู้อาวุโสของสำนักโฮคุชินอิตโตริวแต่ความสามารถไม่อาจเทียบกับมัตสึโมโตะชิโมะเค็นได้เลย ที่สำคัญก็คือมัตสึโมโตะชิโมะเค็นเป็นน้องชายของจักรพรรดิดาบ ในสำนักโฮคุชินอิตโตริว นอกจากจักรพรรดิดาบแล้วใครจะกล้าไม่ฟังคำพูดของมัตสึโมโตะชิโมะเค็นอีกล่ะ? ดังนั้นเมื่อเห็นมัตสึโมโตะชิโมะเค็นโกรธเข้าจริงๆ คาเมดะอิจิโร่จึงคุกเข่าลงกับพื้น คุกเข่าอย่างดี ไม่กล้าหายใจแรงแม้แต่น้อย