เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 477 จุดเดือนของการต่อสู้ระหว่างเย่เทียนเฉินและมัตสึโมโตะชิโมะเค็น
- Home
- เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ
- บทที่ 477 จุดเดือนของการต่อสู้ระหว่างเย่เทียนเฉินและมัตสึโมโตะชิโมะเค็น
เคล็ดวิชาพลังพิเศษสายพสุธา พสุธาบดขยี้!
เคล็ดวิชาพลังพิเศษสายวารี ฟองน้ำคุ้มกาย!
เคล็ดวิชาพลังพิเศษสายอัสนี ธนูสายฟ้า!
เคล็ดวิชาพลังพิเศษสายทองคำ โล่ทองคำ!
นอกจากนี้ยังมีเคล็ดวิชาสังหารที่เย่เทียนเฉินสร้างด้วยตัวเองนั่นก็คือเนตรประกายทอง ดูเหมือนว่าเคล็ดวิชาพลังพิเศษที่แข็งแกร่งทั้งหมดของเย่เทียนเฉินจะถูกใช้ออกมาในคราวนี้แล้ว อีกฝ่ายคือมัตสึโมโตะชิโมะเค็น ยอดฝีมือของสำนักโฮคุชินอิตโตริว น้องชายแท้ๆ ของจักรพรรดิดาบ เย่เทียนเฉินไม่กล้าลำพองใจแม้แต่น้อยจริงๆ เมื่อลงมือก็ใช้เคล็ดวิชาพลังพิเศษในสายต่างๆ ออกมาทั้งหมด ต่อให้ฆ่ามัตสึโมโตะชิโมะเค็นไม่ได้ก็ต้องทำให้เขาบาดเจ็บ
ฉัวะ!
มัตสึโมโตะชิโมะเค็นฟาดฟันดาบลงไป ต้องการฟันโล่ทองคำของเย่เทียนเฉินให้ขาด ไหนเลยจะรู้ว่าในตอนที่ดาบของเขาจะทลายรฃโล่ทองคำ เพิ่งจะสัมผัสโล่ทองคำก็มีแสงสีทองสองสายถูกยิงเข้ามาหามัตสึโมโตะชิโมะเค็น
ตู้ม!
ตู้ม!
แสงสีทองทั้งสองสายถูกยิงออกไปจากดวงตาของเย่เทียนเฉิน นี่คือเคล็ดวิชาเนตรประกายทองซึ่งเป็นเคล็ดวิชาพลังพิเศษที่เขาสร้างขึ้นโดยเฉพาะ มัตสึโมโตะชิโมะเค็นฟาดฟันดาบลงมา ยังไม่ทันได้ออกแรงทำลายโล่ทองคำก็รู้สึกว่ามีพลังสองสายพุ่งทะลุฟ้าดิน พลันต้องตกใจจนหน้าถอดสี บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นไหลออกมา กระดูกสันหลังเย็นยะเยือก นี่เป็นสัญชาตญาณของยอดฝีมือมีต่อพลังอันเป็นอันตรายต่อความเป็นความตาย
อย่างน้อยมัตสึโมโตะชิโมะเค็นก็เป็นยอดฝีมือชั้นสูงที่จัดอยู่ในระดับนักรบจักรพรรดิขั้นต้น รวมกับที่เขาเป็นน้องชายแท้ๆ ของจักรพรรดิดาบ ไม่ต้องพูดเลยว่าตำแหน่งของเขาในสำนักโฮคุชินอิตโตริวจะเป็นอย่างไร เพียงแค่มีจักรพรรดิดาบเป็นพี่ชายของเขาก็พูดได้ว่า เขามัตสึโมโตะชิโมะเค็นได้รับการสืบทอดเคล็ดวิชาทั้งหมดของสำนักโฮคุชินอิตโตริวมาแล้ว แน่นอนว่าการเรียนรู้ พรสวรรค์ และโอกาสของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ต่อให้ได้รับสืบทอดเคล็ดวิชาของสำนักโฮคุชินอิตโตริวมาเช่นเดียวกันก็ไม่สามารถกลายเป็นยอดฝีมือระดับเดียวกันได้ ก็เหมือนกับนักเรียนในห้องเรียนหนึ่งที่ได้รับการสั่งสอนจากอาจารย์คนเดียวกัน บางคนก็คะแนนดี บางคนก็คะแนนแย่
หลังจากเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นสองเสียง แสงสีทองที่พุ่งออกไปจากดวงตาของเย่เทียนเฉินทั้งสองสายก็ทะลุก้อนเมฆ โจมตีจนอากาศแยก กระทั่งดินฟ้าก็ราวกับจะถูกโจมตีจนทะลุ พุ่งจากดินขึ้นฟ้า จะโจมตีไปถึงดาวนอกโลกได้หรือไม่ก็ไม่อาจรู้ได้
เนตรประกายทองเป็นเคล็ดวิชาที่เย่เทียนเฉินได้เรียนรู้โดยบังเอิญ ครั้งแรกที่เขาใช้เนตรประกายทองยังไม่ชำนาญ พลังอำนาจยังไม่มหาศาลขนาดนั้น แต่ก็สามารถทำลายภูเขาไปได้สองลูก ในตอนที่เย่เทียนเฉินกำลังดีใจนั่นเอง ดวงตาทั้งสองกลับมีเลือดไหลออกมา นี่ทำให้เย่เทียนเฉินรู้สึกสั่นสะท้านเป็นอย่างยิ่ง เขาคิดไม่ถึงว่าเนตรประกายทองจะมีผลสะท้อนกลับที่รุนแรงขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ใช้ไปแล้วครั้งหนึ่งจะสัมผัสได้ว่าพลังทั่วทั้งร่างถูกขุดออกไปจนว่างเปล่า ดังนั้นแม้ว่าตลอดมา เคล็ดวิชาพลังพิเศษอย่างเนตรประกายทองจะมีความร้ายกาจมาก แต่เย่เทียนเฉินก็ไม่กล้าใช้เท่าไหร่นัก นี่เป็นเคล็ดวิชาที่ทำให้เสียหายทั้งสองฝ่าย ไม่เพียงแต่จะทำร้ายร่างกายตัวเองอย่างรุนแรง ยิ่งไปกว่านั้นหากใช้ออกไปแล้วยังสังหารศัตรูไม่ได้ พลังภายในร่างกายก็ถูกใช้ออกไปจนหมดแล้ว นั่นถึงจะเรียกว่าเป็นการรนหาที่ตายอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่ตนร่วมฝึกฝนคัมภีร์ดรุณีหยกกับตงฟางเมิ่งและได้สนทนาถึงวิธีการฝึกฝนที่แตกต่างกันออกไปกับปรมาจารย์กระบี่ภายในช่องว่างอันแปลกประหลาดของกระบี่เซียวหยวน หลังจากทะลวงพลังไปถึงขอบเขตพลังพิเศษระดับจักรพรรดิได้แล้ว ไม่เพียงแต่ขอบเขตพลังจะไม่ล่องลอย แต่ยังเสถียรมากอีกด้วย ที่สำคัญก็คือในตอนที่เขาใช้เคล็ดวิชาต่างๆ เขาจะรู้สึกได้ว่าพลังในร่างกายของตนไม่ถูกเผาผลาญไปในพริบตาแล้ว เสถียรขึ้นมาจริงๆ
ในเวลาเพียงหนึ่งลมหายใจ เย่เทียนเฉินก็ใช้เคล็ดวิชาพลังพิเศษทั้งหมดของตนออกไป เห็นได้ว่าคราวนี้เขาโกรธแล้วจริงๆ จริงจังขึ้นมาแล้วจริงๆ ต้องการสังหารมัตสึโมโตะชิโมะเค็นให้ได้
เมื่อใช้เนตรประกายทองออกไป แสงสีทองสองสายถูกยิงทะลุฟ้าดิน แต่นี่ยังไม่ได้อยู่ในสภาวะที่แข็งแกร่งที่สุด เคล็ดวิชาสังหารใดก็ตามต่างต้องการขอบเขตการบ่มเพาะที่ลึกล้ำสูงส่งถึงจะใช้ออกไปได้ ตอนนี้เย่เทียนเฉินเป็นผู้บ่มเพาะที่อยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นต้นเท่านั้น ยังห่างจากขอบเขตเทพราชันอีกมาก และในเรื่องความเข้าใจในเคล็ดวิชาเนตรประกายทองก็ยังไม่ถึงจุดสูงสุด อยากจะเห็นจริงๆ หากพลังบ่มเพาะของเย่เทียนเฉินไปถึงระดับเทพราชันในตำนานเล่าขานนั้นแล้วจะร้ายกาจขนาดไหน?
แสงสีทองสองสายพุ่งออกจากเมืองเทียนซา หายไปบนท้องฟ้า ทุกคนต่างตื่นตะลึง เนื่องจากในตอนที่เย่เทียนเฉินใช้เคล็ดวิชาอันแข็งแกร่งมากมายขนาดนั้นออกมาก็ทำให้กลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์และคนของสำนักโฮคุชินอิตโตริวตื่นตะลึงหาใดเปรียบแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมัตสึโมโตะชิโมะเค็นฟาดฟันดาบไปยังโล่ทองคำและเย่เทียนเฉินยิงแสงสีทองสองสายออกไปจากดวงตาทั้งสองก็ยิ่งทำให้หลายคนตกใจจนคางแทบร่วง นี่เป็นการต่อสู้ที่พวกเขาไม่อาจเข้าร่วมได้จริงๆ เหนือขอบเขตความคิดของมนุษย์ไปแล้วโดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังคงดำรงอยู่อย่างแท้จริง
ฉูด!
ดอกไม้โลหิตพุ่งกระฉูดอยู่กลางท้องฟ้า มัตสึโมโตะชิโมะเค็นจ้องมองไปยังเย่เทียนเฉินด้วยสายตาโหดเหี้ยม สายตาเช่นนั้นเห็นได้ชัดว่าต้องการฆ่าเย่เทียนเฉินให้ได้ เขาคิดไม่ถึงว่าเย่เทียนเฉินจะทำให้เขาบาดเจ็บได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงสีทองทั้งสองสายสุดท้ายนั้นร้ายกาจมากจริงๆ ทำให้ในใจของเขาเต้นรัวตามสัญชาตญาณ สุดท้ายเขาหลบไปได้สายหนึ่ง แต่แสงสีทองอีกสายยิงถูกไหล่เขา กระทั่งเขาเองก็ไม่สามารถต่อต้านได้ ดาบทหารที่สร้างขึ้นมาจากวัสดุพิเศษจากดาวอังคารก็ยังหักไปแล้ว
แสงสีทองที่เหลือไม่เพียงแต่จะทำให้ใบดาบของดาบทหารของมัตสึโมโตะชิโมะเค็นหักแล้วยังโจมตีทะลุไหล่ซ้ายของเขาด้วย หากไม่ใช่ว่าเขามัตสึโมโตะชิโมะเค็นหลบได้เร็ว คงไม่บาดเจ็บแค่ภายนอก คงจะตายไปแล้ว
“เดรัจฉาน เก็บแก้วไว้ไม่ได้แล้ว!”
“แกเองก็จะกินยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมฉับพลันหรือเปล่า?” เย่เทียนเฉินเอ่ยถามอย่างเรียบเฉย
“หึ ยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมฉับพลัน? ฉันมัตสึโมโตะชิโมะเค็นไม่จำเป็นต้องพึ่งยาแบบนั้น แกบีบบังคับให้ฉันลงมือเต็มกำลังก็นับว่าลดทอนอายุขัยของฉันไปแล้ว ฉันจะฆ่าครอบครัวแกทั้งหมด!” มัตสึโมโตะชิโมะเค็นแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดของมัตสึโมโตะชิโมะเค็น เย่เทียนเฉินก็ทำเพียงขมวดคิ้ว ส่วนพวกอู๋เสวี่ยซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์ต่างก็รู้สึกตื่นตะลึงอยู่ในใจ พากันสูดหายใจเย็นยะเยือก ถึงแม้พวกเขาจะต่อสู้อย่างดุเดือดรุนแรง แต่หากพูดถึงการต่อสู้ของพี่ใหญ่เย่เทียนเฉินกับมัตสึโมโตะชิโมะเค็นแล้ว เรียกได้ว่าการต่อสู้ของพวกเขาไม่พอให้มองเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกอู๋เสวี่ยหลายคนที่เดิมทีมีความสามารถแข็งแกร่ง พวกเขาให้ความสนใจในการต่อสู้ของเย่เทียนเฉินและมัตสึโมโตะชิโมะเค็นเป็นระยะ คิดจะพุ่งเข้าไปช่วยสนับสนุนเย่เทียนเฉินผู้เป็นพี่ใหญ่ตลอด จะอย่างไรมัตสึโมโตะชิโมะเค็นก็แข็งแกร่งมากเกินไป แข็งแกร่งจนถึงขั้นวิปลาส
เย่เทียนเฉินมองมัตสึโมโตะชิโมะเค็น จากนั้นจึงมองไปยังสมาชิกกลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์อย่างพวกอู๋เสวี่ยที่อยู่ด้านล่าง ชุดคลุมออกศึกสีแดงที่สวมใส่อยู่บนร่างมีคำว่า “หัวหน้าจ้าวสวรรค์” ปักอยู่โบกสะบัดไปตามลม ตอนนี้เย่เทียนเฉินเหมือนกับจักรพรรดิแห่งสรวงสวรรค์อย่างแท้จริง ก็เหมือนกับที่เขาพูด ทำไมต้องเป็นจ้าวสวรรค์? ทำไมไม่เป็นจักรพรรดิของโลกมนุษย์ แต่เป็นจักรพรรดิที่เหยียบย่างไปบนสวรรค์แล้ว เพียงแค่ความกล้าเช่นนี้ก็ทำให้ผู้คนต้องตื่นตะลึงแล้ว
“พวกแกไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง ไอ้แก่นี่เสื่อมทรุดเหมือนม้าปลายตีนแล้ว เขาจะต้องตายแน่นอน กลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์ของพวกเราถูกกำหนดแล้วว่าวันนี้จะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว พวกสารเลวนี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเรา!” เย่เทียนเฉินเอ่ยปากพูดอย่างสงบ
“ฆ่า!” อู๋เสวี่ยกำมือที่อาบย้อมไปด้วยเลือดของตนแน่น กัดฟันตะโกนออกมาคำหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจของอันดับสองแห่งกลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์
เคร้ง! ตู้ม!
มัตสึโมโตะชิโมะเค็นและเย่เทียนเฉินดวลกันอยู่กลางอากาศ ขาซ้ายของมัตสึโมโตะชิโมะเค็นกระทืบออกไป ถึงกับเกิดเสียงสั่นสะเทือน ทั้งร่างของชายชราคนนี้เต็มไปด้วยพลังสีดำ ตอนนี้เย่เทียนเฉินสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามัตสึโมโตะชิโมะเค็น ชายชราไม่รู้จักตายคนนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ ตั้งแต่เมื่อครู่นี้มาเขายังไม่ได้ลงมือเต็มที่ ตอนนี้เพิ่งจะใช้พลังออกมา ดูแล้วการที่ตนไม่ได้เร่งเร้าพลังไปจนอยู่ในสภาพสูงสุดนับเป็นการเลือกที่ชาญฉลาดแล้ว มิฉะนั้นตอนนี้ใครจะสู้มัตสึโมโตะชิโมะเค็นได้?
การต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือ นอกจากความสามารถที่จะเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะไปกว่าครึ่งแล้ว ยังมีปัจจัยด้านการวางแผนต่อสู้และประสบการณ์การต่อสู้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ตอนเริ่มต้น เย่เทียนเฉินรู้ว่ามัตสึโมโตะชิโมะเค็นแข็งแกร่งมาก ชายชราคนนี้ลึกล้ำไม่อาจคาดเดา ไม่สามารถลงมือเต็มที่ได้ตั้งแต่แรกเริ่ม นั่นเป็นเพราะถ้าไม่สามารถฆ่ามัตสึโมโตะชิโมะเค็นได้ คนที่จะตายก็คือพวกเขา ดังนั้นเขาจึงคิดหาวิธีนั้นซึ่งก็คือตอนแรกจะใช้เคล็ดวิชาพลังพิเศษที่แข็งแกร่งของตนกดดันมัตสึโมโตะชิโมะเค็น หากทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้จะเป็นการดี หรือต่อให้ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสไม่ได้ ก็ยังหยุดความหยิ่งผยองของเขาได้
“ตาย!”
มัตสึโมโตะชิโมะเค็นตะโกนคำว่าตายออกมา ตัวอักษร “ตาย” พุ่งออกมาจากปาก มันไม่ใช่สีดำ แต่เป็นสีเทา นั่นเป็นสีเทาแห่งความตาย มันพุ่งไปยังเย่เทียนเฉิน ทุกที่ที่ตัวอักษร “ตาย” ผ่านต่างกลายเป็นสีเทา คล้ายกับทุกอย่างตายไปหมด ไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป
“ย้าก!”
เย่เทียนเฉินตะโกนออกมา เขารู้ว่าการต่อสู้ดำเนินมาถึงจุดสุดท้ายแล้ว มัตสึโมโตะชิโมะเค็นลงมือเต็มที่แล้ว หากเขายังไม่ลงมือเต็มที่อีกคงต้องตายอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องหยุดชายชราคนนี้ให้ได้ และต้องฆ่าเขาให้ได้
ฉัวะๆๆ!
ประกายกระบี่สามสายพุ่งออกมาจากในร่างกายของเย่เทียนเฉิน ทั้งหมดต่างมุ่งสังหารไปยังตัวอักษร “ตาย” ขนาดใหญ่นั้น กระบี่เซียวหยวน กระบี่ไท่อา กระบี่อวี๋ฉาง กระบี่เทพบรรพกาลทั้งสามเล่มประสานพลังต่อสู้มุ่งสังหารมัตสึโมโตะชิโมะเค็น นี่แสดงให้เห็นว่าเย่เทียนเฉินลงมือเต็มที่แล้ว
ในตอนที่กระบี่เซียวหยวน กระบี่ไท่อา และกระบี่อวี๋ฉางพุ่งโจมตีไปยังตัวอักษร “ตาย” สีเทาขนาดใหญ่นั่นเอง เย่เทียนเฉินก็ซัดหมัดขวาออกไป เขากระตุ้นพลังอันมหาศาลในร่างกายไม่หยุด เสียงครืนดังขึ้น พลังภายในของเขาเพิ่มพูน ทั่วทั้งร่างกายมีพลังสีทองจางๆ ปลุกคลุมไว้ชั้นหนึ่ง ตอนนี้เขาอยู่ในสภาวะต่อสู้ข้ามขั้นแล้ว นี่ถึงจะเป็นความสามารถที่แท้จริงของ เขาไม่มีกักเก็บใดๆ อีกต่อไป ต้องการดวลครั้งสุดท้ายกับมัตสึโมโตะชิโมะเค็น
เย่เทียนเฉินโยนกระบี่เทพบรรพกาลทั้งสามเล่มมุ่งสังหารไปยังมัตสึโมโตะชิโมะเค็น ตอนนี้มัตสึโมโตะชิโมะเค็นก็ไม่เก็บซ่อนพลังอะไรไว้อีก ฟื้นฟูสู่สภาพสูงสุดของตน ต่อให้จะเป็นการลดทอนอายุขัยก็ไม่เสียดาย เห็นได้ว่าเขาเกลียดชังเย่เทียนเฉินมาก หวาดกลัวเย่เทียนเฉินมาก มือซ้ายของเขาผลักตัวอักษร “ตาย” ขนาดใหญ่ออกไปยังเย่เทียนเฉิน